เห็นแชร์กันสนั่น ก็น่าครุ่นคิด

ไอ้ ห

30 กลางๆก็ถึงได้ครับ ถ้าใหญ่พอ
แต่พูดกันตรงๆ
พวกเล่นสายบริหาร สายกระทรวง คือพวกที่ไปสายเฉพาะทางไม่รอดครับ
พวกเก่งๆ เค้าไปต่อเฉพาะทาง เค้าไปเน้นทำเงิน ทำคลินิค ทำเป็นอาจารย์แพทย์ ต่อเมืองนอกสบายตัวกว่าเยอะ
ไม่ต้องเลียใคร ก็ไปได้สุดทางอยู่แล้ว
ส่วนที่ไปไล่อีปู ตอนนั้นผมยังเรียนไม่ถึงไหนเลย โดนด่าซะงั้น

หมอส่วนใหญ่ ยังมีสติพอครับ เลยไม่ใช้ยาพวกนี้ไงครับ ยอดมันเลยไม่ขึ้น
มันเลยบังคับใช้เป็นแบบกระทรวงมาไงครับ บีบผอ. บีบรพ.มาตรงๆ

เดี๋ยวพูดงี้ บางคนบอก อ่อ ก็หมอมรึงดีลกับบ.ยาต่างชาติไง รวยเอาๆ
แล้วแต่จะคิดละกัน มุมใครมุมมัน
แต่ยาต่างชาติ มีหลักฐานรองรับ ผลข้างเคียงมีระบุ มีโดสยาชัดเจน จะเกิดอะไรชึ้นเราบอกคนไข้ได้
แต่ยาลูกกลอน ยาผีบอก ยาสมุนไพรแบบนี้ ทดลองมาแล้วเท่าไหร่ เกิดอะไรขึ้นใครรับผิดชอบ ตอบไม่ได้
หรือจะเอาแบบ ศ.ยอ ที่ n=2 ก็เอาสมัยทดลองวัคซีนงี้เหรอ

เศร้าใจจัง พอตอนเด็กก็คิดว่าโตไปจะเปลี่ยนแปลง จะไม่เป็นแบบพวกนั้น จะมีปากมีเสียงเพื่อคนรุ่นใหม่

พอถึงจุดนั้นจริงๆก็ไม่อยากเสียการเสียงาน ได้มาอยุ่จุดที่ไอ้พวกนั่นอยู่มาก่อน จุดที่สบายแล้ว

ก็เป็นเหมือนไอ้คนที่เราเคยด่ามาก่อน…

ใครมันขึ้นบริหาร พออายุ 40-50 ก็จะไปเรียนคอร์สล้างสมอง แล้วก็เพี้ยนตามพวกมันไปหมด

ใครไม่เพี้ยนตามพวกมัน ไม่ได้ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโตหรอก

สุดท้าย เหมือนเดิม ไม่ต้องคาดหวัง

เสริมอีกนิด ทุกวงการมีคนดีไม่ดีปะปนอยู่แล้วครับ
แต่คนที่ขึ้นที่สูงได้ในหลายๆวงการ ค่อนจะเทาๆ เน้นทำงานการเมืองมากกว่าทำงานราษฏร์งานหลวง อันนี้ก็เป็นส่วนใหญ่ที่เห็นในประเทศเรา วงการนี้ก็อีหรอบนั้นละครับ

พูดแบบเหยียดเลยก็ได้
ไอคนที่จบคาบเส้นในรุ่นผม นั่งหลับทุกเช้า สอบแก้มิดเทอมหลายตัว โดดเรียนไปผับยันเช้า แล้วไปสอบ
ตอนนี้มันเป็นรอง สสจ.ในจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่ง
ผมกับเพื่อนยังขำกันเลยว่า คนแบบนี้เนี่ยนะ จะได้เป็นใหญ่ในกระทรวง แถมจะมาเป็นหัวหน้าพวกเกียรตินิยมด้วยหวะ อย่างตลกร้าย

เศร้าจุง

ตามนั้น T T