โซโบ้ฟอร์มไม่นิ่งเพราะบทบาทหน้าที่รับภาระหนักเกินไปหรือเปล่าครับ

- ซาล่าสัมภาษณ์หลังได้แชมป์แล้วที่บอกว่า อาเน่เป็นคนรับฟังเค้าแล้วปรับบทบาทหน้าที่ของซาล่าให้คอยเล่นเกมรุก ไม่ต้องเล่นเกมรับมาก
- โซโบ้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้เค้าบอกว่า การเล่นแต่ละเกมของเค้ามันเหนื่อยมากๆ เพราะเค้าวิ่งเยอะมากๆ เกมแมนซิตี้หรือเปล่าที่จบเกมแล้วเค้านอนแผ่หลาตรงกลางสนามเป็นนาทีๆ


จากคำสัมภาษณ์ของ2คนนี้ มันพอจะมองภาพออกว่า หน้าที่การเล่นเกมรับโซโบ้ต้องวิ่งเพลสทั้งแดนหน้า ในตำแหน่งหมายเลข 9 เพื่อช่วยกองหน้าและตำแหน่งบริเวณเบอร์10ของตัวเอง และครอบคลุมไปถึงตำแหน่งริมเส้นด้านขวาของซาล่าด้วย แสดงว่าพื้นที่เพลสซิ่งของโซโบ้มันครอบคลุมไปถึง3ตำแหน่งเลยนะ

-------------- หน้า --------------

ซ้าย ---------หน้าต่ำ ---------ปีกขวา

----กลางซ้าย--------กลางขวา-------

จากรูปตำแหน่งของการเล่นเพลสซิ่ง ผมว่าโซโบ้แบกภาระหนักเกินไปมากๆจนทำให้เค้าไม่มีแรงมากพอจะเล่นเกมรุกในตำแหน่งเบอร์10ได้เลย ที่เราเห็นเค้าแทบไม่เล่นสร้างสรรค์เกมรุกเลยทั้งยิง+จ่าย เพราะบทบาทของเค้าที่ได้รับมันคือเบอร์10ที่เล่นเกมรับมากกว่าจะเล่นเกมรุก แล้วถ้าจะให้เค้ามาเล่นเกมรุกด้วย ผมว่ามันโอเวอร์โหลดภาระงานของโซโบ้มากๆ ถ้าวิเคราะห์ดูแต่ละเกมดีๆผมโคตรสงสารโซโบ้เลยนะที่ต้องแบกเกมรับมากขนาดนี้แทนที่จะเอาพลังไปเล่นเกมรุก เพราะด้วยตำแหน่งเบอร์10ตรงนี้มันควรเอาพลังไปสร้างสรรค์เกมรุกมากกว่า

แต่เห็นแฟนหงส์แดงชอบบ่นหรือด่าโซโบ้กันมากในหลายๆเกม ว่าจ่ายบอลไม่ตรง น้ำหนักบอลขาดๆเกินๆ ขาอ่อนไม่มีเรี่ยวแรง ผมก็เข้าใจได้นะ แต่พอลองคิดดีๆผมว่าบทบาทหน้าที่ของโซโบ้มันไม่ตรงกับวิธีคิดของเรามากกว่า เพราะเราจะเข้าใจและมีภาพฝังหัวว่าเบอร์10มันต้องจ่ายบอลสวยๆสร้างสรรค์เกมรุกดีๆ มีจินตนาการในการเล่นเกมรุกที่หลากหลายทั้งยิง+จ่าย แต่ภาพโซโบ้กับบทบาทหน้าที่ปัจจุบันไม่มีภาพแบบนี้ในหัวเลย

ที่ผมตั้งกระทู้นี้ ผมแค่อยากให้แฟนหงส์หลายๆคนทำความเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของโซโบ้ใหม่มากกว่านะ ที่เราบ่นๆกันอาจจะเพราะสาเหตุภาพจำกับวิธีการเล่นที่สล็อตมอบให้กับโซโบ้มันแตกต่างกัน

แล้วอีกคนที่วิ่งเพลสซิ่งครอบคลุมไปถึง2ตำแหน่งคือ แม็คคาลิสเตอร์ในตำแหน่งกลางซ้ายและหน้าต่ำเพื่อปิดพื้นที่ช่วยโซโบ้

แล้วอีกเรื่อง คืออยากให้ปีหน้าอาเน่ปรับบทบาทของโซโบ้และซาล่าใหม่ก็ดีนะ หาคนมาช่วยงานโซโบ้หน่อยก็ดี หรือไม่ก็ปรับซาล่าขยับไปเล่นด้านในมั้ย ถ้าจะเล่นเกมรุกอย่างเดียวแบบนี้ ผมเข้าใจว่าซาล่าคือตัวพลิกชัยชนะของเรานะ แต่ถ้ามันไปเพิ่มภาระเพื่อนร่วมทีมด้วยกันแบบนี้ มันต้องหาวิธีช่วยโซโบ้หน่อยนะ ไม่งั้นโซโบ้จะเอาแรงที่ไหนไปสร้างสรรค์เกมรุกแบบที่เราๆคาดหวังได้มีแต่วิ่งไล่กับวิ่งไล่อย่างเดียวแฟนบอลก็รู้สึกไม่ค่อยจะแฮปปี้เท่าไหร่ ไม่ใช่อะไรผมสงสารน้องมันว่ะ อายุยังน้อย แทนที่จะพัฒนาเกมรุก แต่ต้องให้น้องมันมาช่วยเล่นเกมรับแบบนี้ มันเหมือนน้องมันไม่ค่อยมีผลงานอะไรที่โดดเด่นเลยครับ

ยากครับ คือผมไม่ได้บอกว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ แต่การที่คนๆนึงรับหน้าที่เกินกว่าตำแหน่งตัวเอง

ถ้าไม่ outstanding มากๆ มันยากมากที่จะ cover ได้ครบ

ไอเรื่องจบบอลลั่น จ่ายบอลพลาดนั้นก็เรื่องนึง แต่ที่แน่ๆ เวลาโดนบุกแล้วลงไม่ทันเนี่ย มันก็โดนตอนมันวิ่งขึ้นไปเพลสแล้วพื้นที่มันโล่งนั้นแหละ

ไม่เห็นด้วยครับ หน้าที่เยอะก็จริง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะตัดสินใจแย่ๆได้

ไม่ได้บอกให้ต้องอยู่ในพื้นที่หน้ากรอบตลอดเวลา

แต่เวลาจังหวะที่มีโอกาสทำเกม ก็ไม่กล้าเล่นอยู่ดี จ่ายเพลย์เซฟแทบจะตลอด

ไม่ต้องนับว่าจ่ายแล้วหมดแรง หรือจ่ายเสีย แต่มันพลาดที่การตัดสินใจเล่นบ่อยมากๆ

ปรับตรงไล่เพลสสูงเกินจำเป็นน่าจะดีขึ้น บางทีจังหวะไม่ได้ดันไล่เพลสสูงคนเดียวจะมีประโยชน์อะไรเค้าเคาะบอลหนีกล้วยๆ ถ้าจะบีบสูงต้องพร้อมทั้งหมดในแดนบนคือต้องไล่ให้เค้าเสียเลย ทุกวันนี้เห็นโบ้ไล่แดนบนคนเดียวโคตรเสียแรงเปล่าๆเลย แถมกลางโบ๋อีก

นั่นสิครับ คนเล่นบอลบ่อยๆจะรู้เลยว่าเวลาเหนื่อยมากๆแบบขามันล้าแล้ว จะจับบอลหรือจ่ายบอลหรือคุมลูกบอลนี่มันยากมากๆนะถ้าขามันล้าแล้ว

คือผมก็เข้าใจและรู้นะว่าวิธีการเล่นแบบนี้มันทำให้ทีมเราได้แชมป์ในปีนี้ แต่แบบนี้ก็สงสารน้องมันจริงๆที่ทีมได้แชมป์แต่แฟนหงส์ต้องมานั่งบ่นมันเกือบทุกเกมอะครับ ผมกลัวน้องมันจะท้อและเสียความมั่นใจนี่สิ

เดี๊ยวเทร้นไม่อยู่ เกมรับทางขวาอาจจะดีขึ้นก็ได้ โซโบ้อาจจะรับภาระน้อยลง

ผมว่าที่ตัดสินใจพลาดเพราะส่วนนึงมาจากการที่ร่างกายมันเกิดอาการล้าในแต่ละเกมนะ เหมือนเราเล่นกีฬาเหนื่อยมากๆ มันจะมีผลต่อการตัดสินใจในเกมด้วย ผมว่าสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้ามันส่งผลกระทบจ่อสภาพจิตใจได้เหมือนกันนะ

ถ้าย้อนกลับไปช่วงคล็อปป์ โซโบ้มันตัดสินใจไม่ค่อยพลาดเยอะเท่าปีนี้นะ จังหวะหลายๆเกมช่วงคล็อปป์มันดีกว่าช่วงอาเน่นะ อาจจะติดเพลย์เซฟอันนี้เห็นด้วยกับท่านนะ แต่ที่มาพลาดบ่อยๆคือปีนี้ซะมากกว่า ผมเลยคิดว่าจริงๆโซโบ้มันตัดสินใจดีกว่านี้ แต่น่าจะเป็นเพราะบทบาทหน้าที่ของโซโบ้ในช่วงอาเน่ด้วยส่วนนึง ที่ทำให้การตัดสินใจของโซโบ้มันพลาดเยอะกว่าปีก่อน

ที่ผมคิดแบบนี้เพราะดาวิน นูนเนสนี่แหละครับคือตัวอย่าง เพราะนูนเนสทั้งในช่วงแผนการเล่น4-3-3ของคล็อปป์และ4-2-3-1ของอาเน่ เค้าตัดสินใจพลาดเหมือนเดิมมาตลอด ไม่ว่าจะเปลี่ยนวิธีการเล่นหรือไม่ก็ตาม แสดงว่าในเคสนูนเนสเป็นที่ศักยภาพของเจ้าตัวจริงๆ ไม่เกี่ยวกับแผนการเล่น แต่ของโซโบ้ผมว่าวิธีการเล่นและบทบาทหน้าที่อาจจะมีส่วนในเรื่องการตัดสินใจในแต่ละเกมเหมือนกัน

แต่จากส่วนตัวผมเอง จริงๆแล้วค่าstat การตัดสินใจในพื้นที่สุดท้ายของโซโบ้มันก็ไม่ได้เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวเหมือนที่ท่านว่ามาจริงๆนั่นแหละครับ ค่าstatการตัดสินใจน่าจะอยู่กลางๆอยู่แล้ว พอเจอแผนอาเน่เข้าไปมันเลยดรอปลงแบบชัดเจนอย่างที่เราเห็นๆกัน ถึงผมจะแย้งข้อมูลท่าน แต่ก็แอบเห็นด้วยกับท่านเหมือนกันแฮะ

สถิติเลยออกมาแบบนี้



[/img]

คนกำหนด trigger press ของทีม มันใช้แรงเยอะนะ

ผมยกตัวอย่างคนที่เล่นตำแหน่งคล้ายๆกัน อย่างเฮนโด้ เฮนโด้อาจจะดูพลีงม้ากว่า โซโบดูทักษะดีกว่า แต่ดูรายละเอียดในการเล่น ทำไมโบ้มันไม่ทำให้เกมไหลลื่นเท่าเฮนโด้

เฮนโด้ช่วยเกมรับมากกว่า cover ตำแหน่งดีกว่า แต่โซโบ มันเหมือนตอนนี้เด่นแค่วิ่งเพรส แต่ก็ไม่ได้ cover เกมรับได้ดีขนาดนั้น แล้วในส่วนของความครีเอทีฟก็น้อยไป แต่มันก็มีบางนัดนะ ที่ทำได้ดี ไม่ใช่แย่ตลอด

รวมๆผมว่าโซโบมันมีทักษะแบบตัวรุก หรือกลาง Box to Box แต่ไม่ใช่สายเพลย์เมคเกอร์ พอต้องรับภาระในการเพรส และสร้างสรรค์ด้วย มันเลยดูผิดที่ผิดทางไปหลายครั้ง

โซโบ้ ไปช่วยในส่วนของซาลาร์นั้นแหละ

ให้ซาลาร์ มีแรง มีพลัง ในการทำเกมรุก ช่วยตัดสินเกมในหลายๆนัด มันป็นการเล่นเป็นทีม

เหมือนทีมมีเมสซี่ โรนัลโด้ นั้นแหละ ถ้ามีนักเตะเกมรุกระดับนี้ ทีมต้องยอมเสียสละอยู่แล้ว

ปล. ตอนแมนยูมีโด้ คนที่ต้องเสียสละ ปรับวิธีเล่นเยอะ คือ รูนีย์

ส่วนเรื่องจังหวะสุดท้ายของโซโบ้ไม่ดี ความเหนื่อยล้า มันก็อาจจะมีส่วน แต่ไม่ทั้งหมด

เธอปล่อยให้โจนส์ฮีลใจของเธอได้ไหม...

ตอนเล่นทีมชาติ ตอนแจ้งเกิดใหม่ๆ ใครเห็นก็ว่าเมสซี่
พอปรับบทบาท จากเมสซี่กลายเป็นเดปอลแทน

แล้วของเฮนโด้นอกจากเกมรับเนียน การคุมจะหวะเกมก็ระดับ hold ball ตัวท็อปๆด้วย แล้วเพลย์การเล่นนี่ละเอียดในทางแท็คติก ไม่ค่อยมีการเล่นที่ผิดพลาด แต่แลกมากับการที่เกมรุกที่ไม่ค่อยทะลุ
ทะลวง และไม่มีจังหวะชี้ขาด แถมยังมีเวลา coaching เพื่อนอีก

ดังนั้นเรื่องแรงผมเลยคิดว่าแค่องค์ประกอบหนึ่ง