ไม่เคยเห็นมีกำไร เขาทำทำไมครับ

Grab กำไรแล้วครับ

ขาดทุนคือกำไร

เบินเงิน เอาดาต้า ฐานลูกค้ามาอยู่ในมือ รอวันเป็นเจ้าเดียว

แล้ววันนั้น เราก็จะมาตั้งกระทู้

ทำไมแอฟส่งอาหารมีเจ้าเดียว กำไรบาน เราต้องจ่ายแพง ไม่แฟเลย

ฐานลูกค้า, ทำมาเกตติ้งทางอ้อมในแพลตฟอร์ม ผูกเครือข่ายธุรกิจ

ผมมองว่าทำเพราะเอากำไรนี่แหละ เรื่องดาต้าผมแค่ผลพลอยได้ ธุรกิจนี้มันมาบูมเพราะการใช้ชีวิตประจำวันช่วงโควิดมันเปลี่ยน เลยมีหลายผู้เล่นเข้ามาร่วมวง แต่พอเวลาผ่านไปเราก็ใช้ชีวิตกันปกติ ตอนกินอาหารก็ไม่ได้จะสั่งจากไรเดอร์เหมือนเดิมตลอด แถมเจ้าของแอพต้องบริหารทั้งตัวเอง ไรเดอร์ ลูกค้า บอกตรงๆวุ่นวายจัด

คำถามเดียวกับ LAzada / Shopee ตอนนั้นแหละ พอคนติดจนหนีไปไหนไม่ได้แล้ว ก็ค่อยมาบ่นว่าทำไมเก็บค่าธรรมเนียมแพง ทำไมของไม่ถูก วันเลขเบิ้ลไม่เห็นลดราคา

เพราะต้นทุนคือกำไร บ.เขาได้ทุนจากนักลงทุนรายอื่น
ส่วนนักลงทุนก็ได้กระจายความเสี่ยง

ลงทุนเปลี่ยนพฤติกรรมคนก่อน ค่อยๆ ขึ้นราคาจนคนรู้สึกชินแล้วยอมจ่ายแพงพอที่บริษัทจะกำไร

ใครอยู่ได้คือกำไร อยู่ที่สายป่านจริงๆ Grab กับ lineman น่าจะเริ่มกำไรแล้ว ได้ทั้งข้อมูลได้ทั้งต่อยอดธุรกิจอื่นต่อ

ขาดทุนยาวๆเพื่อเอาตลาดก่อน แล้วกินกำไรหลังตีคู่แข่งแตกหรือตลาดขยายจนใหญ่พอ กลยุทธทั่วไปของสตาร์ทอัพอยู่ละ ไม่ใช่แค่แอปส่งอาหาร

มันเป็นธุรกิจที่ต้อง Burn เงินก่อนครับ Burn ทั้งขาลูกค้า และไรเดอร์ ส่วนขารายได้หลักที่เป็น GP ลองดูดีๆ แอปที่เข้าตลาดมาแรกๆ แทบไม่เก็บเลยครับ 0% ตลอด เลยขาดทนทุกออเดอร์

Customer - ออกโปรลดแลกแจกแถม ส่งฟรีบ้าง อะไรบ้าง เคยสั่งผ่านแอปแล้วได้ราคาถูกกว่าหน้าร้านไหมครับ นั่นแหละ แอปออกให้ครับ หรือไม่ก็ไปคุยกับร้านให้ช่วย sub แต่การันตี volume จากแอปอะไรก็ว่าไป

Rider - โบนัส ค่ารอบ อัดเข้าไป ช่วงคนสั่งเยอะๆ ก็อัดเข้าไปอีก เพื่อให้มีไรเดอร์รับงาน

โดยเฉพาะแอปเกิดใหม่ ต้องแจกทั้งลูกค้าทั้งไรเดอร์เยอะๆ เลยครับ เพื่อดึงทั้งคู่เข้ามาในระบบก่อน ช่วงแรกๆ จะเป็นช่วงทุ่มตลาด ไม่งั้นไม่เกิด แถมเวลามีเจ้าใหม่มา เจ้าเก่าก็ต้องสู้กลับด้วย ลองสังเกตดู เป็นแบบนี้ตลอด

พอแอปติดตลาดแล้ว เริ่มมีฐานลูกค้า ฐานไรเดอร์ ร้านค้าในระบบเยอะพอ ทีนี้แหละ เริ่มลดการขาดทุน เช่น โปรน้อยลง ลูกค้าสั่งแพงกว่าก่อน ไรเดอร์ได้ค่ารอบน้อยลง โบนัสไม่เยอะเท่าเก่า ส่วนร้านค้าโดนเก็บ GP เพิ่ม ทำให้แอปมีรายได้ต่อออเดอร์เพิ่ม

อีกท่านึงคือแอปพยายามเพิ่ม Ticket Size ครับ ถ้าออเดอร์นึงเยอะๆ หลายร้อยบาท แค่ค่า GP ก็พอเอามา Cover ค่ารอบกับโบนัสไรเดอร์ที่ต้องจ่ายแล้ว เป็นสาเหตุว่าทำไมออเดอร์ไม่กี่สิบบาท โดนเก็บ Minimum Order Fee เพิ่มอีก เพราะมันไม่คุ้มแอป

สรุปคือมันไม่ใช่ว่าทำแล้วทู่ซี้ขาดทุน แต่มันใช้ระยะเวลานานมากกว่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไร เพราะต้องรอให้ติดตลาด คู่แข่งมันเยอะ แล้วรอให้จำนวนออเดอร์เยอะมากๆ จนเริ่มเห็นกำไรเป็นชิ้นเป็นอัน

Subscription Base ที่รอวันสร้าง Network Effect ให้โตคับโลก

ถึงตอนนั้นยิ่งกว่าเสือนอนกินอีก ไร้เทียมทานเพราะ Data Base ขนาดอภิมหึมา

เอาไปต่อยอดอะไรได้อีกไม่รู้จบ รอดูได้เลยใครเป็น Last Man Standing

รับรองเป็น The Untouchable King ในตลาดไปยาวๆไม่มีใคโค่นบัลลังค์ได้

ถึงตอนนั้นฟันกำไรขี้แตกขี้แตนแน่นอน เป็นผู้กำหนดกติกาในตลาด delivery ได้ด้วย

ก็ ธุรกิจ แพรตฟอร์ม พอ เป็นอันดับ 1-2 ก็ ตีกิน ยกตัวอย่าง Shopee ,lazada,line ธุรกิจประเภทนี้ แรกๆ ลงทุนเยอะ ตรง การสร้างฐานลูกค้า เอาธุรกิจเข้าตลาดหุ้น ระดมทุน แล้ว ก็ มาสร้างแพรตฟอร์มใหม่ ต่อไป ปลายทาง อยากเป็น ธุรกิจการเงิน ปล่อยสินเชื่อ ผ่าน Wallet ตัวเอง