หนักเลย ไม่มีเงินสำรองแล้วยังมีภาระเพิ่ม เพราะพึ่งถอยรถ

การสื่อสารแบบนี้ประชาชนตื่นตระหนกแน่ๆครับ

แค่สื่อสารว่า ลดการเป็นหนี้ ควบคุมรายจ่ายให้สอดคล้องกับรายได้ ไม่ใช้จ่ายเกินตัว น่าจะเพียงพอแล้ว

การสื่อสารให้ออมเงินสด อย่างน้อยหกเดือน ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศทำไม่ได้หรอก

แค่ประคองให้รอด ในแต่ล่ะเดือน แค่นี้น่าจะเกิน 60% ของประชากรด้วยซ้ำ

บริษัทต่างๆ ก็เข้ามาตรการรัดเข็มขัดตั้งแต่ช่วงโควิด เศรษฐกิจในประเทศจึงเกิดการชลอตัว

การประกาศออมเงิน จัดการดูแลตัวเอง ผมถือการสื่อสารค่อนข้างบัดซบเลยนะ

แทนที่รัฐบาลควรเอาเวลาจัดการ สินค้าภายในประเทศ ประคอง SME ในประเทศให้รอดยังไง

ลดสินค้าจากจีนอย่างไร แค่ตรงจุดนี้แก้ไขไม่ได้ ก็รอดู SME ในประเทศทยอยล้มกันได้เลย

เห็นด้วยครับ ผมอยู่เชียงใหม่ พวกแรงงานเป็นพม่ากับไทใหญ่ ส่วนใหญ่ก็ทำงานเก็บเงิน ส่งทางบ้าน ซื้อที่ซื้อทางบ้านตัวเอง เงินน้อยมากที่อยู่ในระบบ อีกทั้งออนไลน์ที่มาจากจีนมันถูกถ่ายจากไทยไปจีนหมด เงินในระบบมันน้อยลงยังไม่รวมพวกพนันออนไลน์อีก ที่เข้าถึงกันอย่างง่ายดาย มันไม่ได้ถูกวนเป็นรอบ ๆ ไปจบที่ภายนอกประเทศและรายใหญ่เท่านั้น

มันควรจะมีกันเป็นปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

มันมีปีไหนดีบ้างวะ แย่มันทุกปีอ่ะ

บอกว่าเห็นแบบนี้ทุกปี แล้วไม่คิดหรอว่า เศรษฐกิจมันแย่ขึ้นทุกปีเป็นกราฟดิ่งหัว

พอแค่ 7 วัน

มันไม่เกี่ยวกับปีนี้หรือปีไหนหรอก คนเราควรมีเงินฉุกเฉินขั้นต่ำ6เดือนในทุกกรณีนั่นแหล่ะ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นแบบไหน

แต่คนเขาไม่มีให้เก็บไง แค่เงินกินข้าว ใช้หนี้รถ-บ้าน ค่าน้ำไฟ ค่าเทอมลูก ค่าของใช้จำเป็น มันก็เดือนชนเดือนกันหมดแล้ว ไม่ใช่เขาไม่อยากเก็บ แต่มันไม่มีให้เก็บ

ปีนี้แปลกจริง ทรัมป์ทำปั่นป่วนไปหมด

หนักจนชิน จนหนี้ไม่มีแล้วตอนนี้

ไม่ไหวก็กลับดาว

ไปเริ่มนิวเกมส์

หนักทุกปี

ใครๆเค้าก็รู้หมดแล้วนั่นแหละ เหลือแต่วิธีทำนั่นแหละ

จะบอกให้ประหยัด ประหยัดยังไงข้าวจานละ 60 แล้วสมัยนี้

ยังไม่เคยเห็นปีไหนที่เศรษฐกิจดีเลย

หน่วยงานนี้มีรายรับจากช่องทางไหนหนิ
ถ้ามาจากภาษีประชาชนนี่ควรยุบนะ เปลืองงบ
แนะนำแบบนี้ใครก็ทำได้
คุณจะหาเงินสำรอง 6-12 เดือนจากไหน
ในเมื่อคนกลุ่มใหญ่ๆยังหาเช้ากินค่ำ เดือนชนเดือนอยู่เลย
แล้วยิ่งออกคำเตือนแบบนี้ คนยิ่ง panic หยุดใช้เงิน
จะซื้อจะขายก็ลำบาก เศรษฐกิจไม่โต