ผมก็ไม่เห็นคลิป คลิปตอนทำคงไม่มี แต่เหตุการณ์จริงไม่จริงก็มีแค่คนในเหตุการณ์เท่านั้นแหละครับ ที่ผมบอกได้ก็คือเหตุการณ์ที่ผมกล่าวอ้างจากการเล่าของทรายรายการไหนสักอันแล้วก็ไม่ได้กล่าวว่าท่านแค่พูดรวมๆว่าถ้าบริบทแบบนี้คงมีแค่คนไม่เอดูเคทที่จะเข้าใจว่าไม่เหยียด

ถ้าเลทเซว่า หนีห่าว แล้วทรายตำหนิ ทางนักท่องเที่ยวขอโทษและบอกเข้าใจผิด ทรายบอกว่าคนไทยใข้สวัสดีแบบนั้นก็ยังพอมีเหตุผลกว่า[/youtube][/imgr]

เรื่องเหยียดนี่แน่นอนอยู่แล้ว

แต่เรื่องอนุรักษ์นี่ผมว่ามันยาก ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ

เอาเขามาเป็นพวกดีกว่า ให้เขากดดันกันเอง ขาวดำ ถูกผิด ทุกคนรู้อยู๋แล้ว แต่ว่ากฎถูกสร้่างมาเพื่อให้คนอยู่ร่วมกันได้

มันยังมีวิธีให้เลือกอีก

ผมเข้าใจที่ท่านสื่อนะครับ แต่ผมก็ลองมาแล้วถึงกล้าพูดได้ว่า มันไม่เหลือใครทำงานให้จริงๆ ผมเคยขีดเส้น ทีเดียวแล้วสกรีนคนออก แล้วก็คิดว่าคนเยอะแยะยังไงก็มีดีกว่า ผลคือผมหาคนใหม่มาแทนที่คนเก่าได้ไม่ทัน แล้วที่ได้มาใหม่ตอนนั้นคือแย่กว่าเก่าอีก ทำงานไม่ได้เป้าไม่พอ ทำเสียหาย แล้วมันลามไปถึงทำออเดอร์ไม่ทัน เกิดผลเสียหายอย่างมาก ตอนนั้นคือหัวหมุนไปเลย

ผมเลยเปลี่ยนใหม่ขีดเส้นจากต่ำๆแล้วค่อยๆดันเส้นให้สูงขึ้นทุกปีๆ ใครอยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ออก ผลคือดีกว่าชัดเจน ได้ผนักงานที่ทำงานดี แล้วอยู่ยาวด้วย อันนี้ของผมคนงานประมาณ 350 คน หัวหน้างานประมาณ 20 คนนะครับ เรื่องคนนี่เรื่องใหญ่เลยครับ ต้องค่อยๆ แต่ต้องเข้มงวด อันนี้คือที่ผมเจอเองตรงๆ

ถ้าไปส้มรงต้องงัดกับที่บ้านก่อน ที่บ้านมีตัวแทนเข้าไปเขียนรัฐธรรมนูญขนาดนั้น แถมเป็นอีลีทที่เข้าได้ทั้งเหลืองทั้งแดงเผื่อผลประโยชน์ ต้องมีปัญหากับเรื่องหัวหมอเรื่องห้ามโฆษณาเหล้าเบียร์อีก ที่พอกฏห้ามก็เลยทำอย่างอื่นมาโฆษณาแทน นี่ก็ยังเห็นว่าใช้ขีวิตได้สามารถเอาผลจากความบิดเบี้ยวของสังคมมาใช้ตามฝันของตัวเองด้วยความภูมิใจแนวนี้คงไม่ใช่ส้ม ขนาดธนาธรที่บ้านมีขั้วอื่นธนาธรยังต้องทำงานหาเงินก่อนถึงออกมาทำตามอุดมการณ์ได้ แต่นี่ไม่ต้องเลยออกแนวทวงบุญคุณด้วยซ้ำว่าเสียสละมาทำตรงนี้ คือเรื่องอนุรักษ์เห็นด้วยแต่ถ้าเอาเรื่องต้นทุนที่มีของตัวเองมาอ้างเป็นเรื่องเสียสละอันนี้ไม่เห็นด้วย

มันไม่มีคลิปที่ได้ยินคำพูดเหยียดครับ แล้วตัวนักท่องเที่ยวเขายืนยันว่าไม่ได้พูด ในคลิปเขาบอกว่าไม่ใช่พวกเหยียด เขาไม่รู้จักคำนั้น จะพูดได้ไง

ส่วนเหตุการจริงๆทั้งหมดคือไม่ได้เดินผ่านอะไรกัน คุณทรายเขาเห็นเรือลำนี้และกำลังจะขับเข้าไป(เหมือนเรือเสียอยู่) แต่ก่อนจะเข้าไปถึง ทรายได้ยินว่าเขาพูดหนีฮ่าวและหัวเราะ ก่อนที่จะอัดคลิปแรกที่เป็นการตักเตือนบนเรือ ซึ่งในคลิปนั้นนักท่องเที่ยวเขาก็ปฏิเสธอยู่

คุณทรายไม่พอใจที่เขาไม่ยอมรับ เลยสั่งให้ จนท เอาเรือเขาเข้าฝั่งและก็ตามคลิปที่สองที่เถียงกันบนฝั่ง ฝั่งคุณทรายบอกว่าได้ยินนักท่องเที่ยวพูด ส่วนนักท่องเที่ยวยืนยันว่าไม่ได้พูดเขาไม่รู้จักคำนั้น จะพูดได้ไง จนสุดท้ายคุณทรายก็ให้ จนท พากลับออกไป

จะตัดสินกันยังไงอันนี้แล้วแต่ครับ แต่เหตุการเป็นแบบที่อธิบายไปแน่นอน ยืนยันตรงกันทุกฝ่ายละ คุณทรายเขาก็ยืนยันเองนะว่านักท่องเที่ยวไม่ยอมรับ บอกว่าไม่ได้พูด

ถ้าแปลก ดูทรัมป์กับอีลอน

อย่าเอาขนบเดิมๆมาตัดสินปัจจุบันเลย ถึงแม้จะบอกว่ามันต้องCompromise แต่เชื่อเถอะ ยุคสมัยเปลี่ยนวันนึงไม่ช้าก็เร็วยังไงมันก็จะเปลี่ยน พอเด็กรุ่นใหม่โตมา ความเกรงใจอะไรกันแบบเดิมๆ ไทยๆ มันก็จะลดน้อยลง

ซึ่งก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะว่าการสื่อสารมันเข้าถึงกันมากขึ้น เพราะบริบทต่างๆมันก็จะได้รับอิทธิพลจากโลกภายนอก

ตัดเรื่องหนีห่าวออกไป​ ผมเคยดูคิปของน้องที่ไปเตือนพวกเรือ​ นทท. ที่ทำผิดกฎ คือที่เอามาลงผมก็เห็นว่าน้องมันพูดจาแบบสุภาพมากเลยนะ​ ไม่มีขึ้นเสียง​ ด่าทอ​ หยาบคายอะไรเลยพูดแบบ​ พี่จะเอายังไงดีครับ​ อันนี้มันผิดกฎ​ ขอความร่วมมือได้มั้ย​ และถ้าจะบอกว่าน้องไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ​ ไม่มีความรู้​ เอิ่ม... ก็ที่น้องมันไปด้วยก็เจ้าหน้าที่​ทั้งนั้น​ แต่คนที่กล้าพูดกล้าทำคือใครล่ะ​ ตำแหน่งน้องมันอาจจะ​ไม่ใช่จนท.โดยตรงแต่ที่ปรึกษา​พิเศษ​มันก็ถือว่าลงไปทำงานได้รึป่าว​ ถ้าไม่ได้ก็ควรแจ้งน้องมันแต่แรกมั้ยว่าห้ามลงพิ้นที่หรืออะไรยังไง(ถ้าห้ามก็ไม่ควรให้มาทำแต่แรกเหอะ55) แล้วสิ่งที่น้องมันทำคืออิงตามกฎตามประกาศ​อุทยานล้วนๆ​ คงไม่ต้องใช้สกิลความรู้พิเศษ​อะไรนะผมว่า​ ส่วนคนที่คิดว่าเขาสุดโต่ง​ รุนแรง​ ก้าวร้าว​ ดูถูก​คนพื้นที่​ ก็เอาหลักฐาน​มา​โชว์​หน่อยครับ​ จะได้เห็นกันไปว่าใครจริงไม่จริงยังไง

ผมเนี่ยเชื่อมาตลอดว่าเด็กรุ่นใหม่ การศึกษาดีๆ บ้านดีๆ มันน่าจะช่วยประเทศเราให้ดีกว่านี้ มาช่วยงัดคนแก่ได้

แต่...จากที่ดูคนขับ BMW แล้ว เหมือนเชื้อมันไม่ทิ้งแถวเลยครับ 555