ปักกิ่ง — เมื่อวันจันทร์ จีนเตือนว่าจะตอบโต้ประเทศที่ร่วมมือกับสหรัฐในลักษณะที่กระทบต่อผลประโยชน์ของปักกิ่ง ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกกำลังคุกคามที่จะพัวพันประเทศอื่นๆ

คำเตือนของจีนมีขึ้นหลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีรายงานว่าเตรียมใช้การเจรจาภาษีเพื่อกดดันพันธมิตรของสหรัฐให้จำกัดการค้ากับจีน เดือนนี้ ทรัมป์ได้ระงับการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ต่อประเทศอื่นๆ เป็นเวลา 90 วัน ขณะที่เพิ่มภาษีสินค้าจากจีนเป็น 145%

“จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการที่ฝ่ายใดทำข้อตกลงโดยเสียผลประโยชน์ของจีน หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จีนจะไม่ยอมรับและจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด” กระทรวงพาณิชย์จีนระบุ ตามการแปลของ CNBC

กระทรวงฯ เตือนถึงความเสี่ยงต่อทุกประเทศหากการค้าโลกกลับสู่ “กฎแห่งป่า”

แถลงการณ์ดังกล่าวยังพยายามแสดงภาพลักษณ์ของจีนว่าเต็มใจร่วมมือกับทุกฝ่ายและ “ปกป้องความยุติธรรมระหว่างประเทศ” พร้อมทั้งวิจารณ์การกระทำของสหรัฐว่าเป็น “การใช้ภาษีในทางที่ผิด” และ “การรังแกฝ่ายเดียว”

ในเดือนนี้ จีนเปลี่ยนท่าทีเป็นแข็งกร้าวมากขึ้น โดยตอบโต้ภาษีของสหรัฐด้วยการเก็บภาษี 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ นอกจากนี้ ปักกิ่งยังจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญและขึ้นบัญชีดำบริษัทสหรัฐหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งจำกัดความสามารถในการทำธุรกิจกับบริษัทจีน

นักวิเคราะห์คาดว่าสหรัฐและจีนจะยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆ นี้ แม้ว่าทรัมป์เมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าเขาคาดว่าจะมีข้อตกลงภายในสามถึงสี่สัปดาห์ข้างหน้า

สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเดินทางเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ซึ่งเป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกในปี 2025 ตามเอกสารอย่างเป็นทางการของจีนจากการพบปะกับผู้นำทั้งสามประเทศ สีเรียกร้องให้ร่วมกันต่อต้านภาษีและ “การรังแกฝ่ายเดียว”

นับตั้งแต่ทรัมป์กำหนดภาษีต่อจีนในสมัยแรก ประเทศในเอเชียนี้ได้เพิ่มการค้ากับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจจุบันเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในระดับภูมิภาค ส่วนสหรัฐยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในระดับประเทศเดียว

สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์จีนแต่งตั้งหลี่ เฉิงกัง เป็นหัวหน้าผู้เจรจาการค้าระหว่างประเทศคนใหม่ โดยเขายังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการและเคยเป็นเอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) จีนได้ยื่นฟ้องสหรัฐต่อ WTO เกี่ยวกับการขึ้นภาษีล่าสุดของทรัมป์  

เจ้าของกระทู้เลือกเมกาสินะ

 

อยากรู้แฮะว่าถ้าถึงวันที่ถ้าถูกบีบให้ต้องเลือก เมกา + ยุโรป vs จีน + รัสเซีย + เกาหลีเหนือ ฯลฯ

รัฐไทยจะเลือกอะไร