ถ้าอ่านความเห็นบนอินเตอร์เน็ต จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
คือกลุ่มที่แคร์ประเทศใหญ่
กับกลุ่มทีเลือกฝ่าย

อยากสื่อสารกับกลุ่มที่บอกว่า เลือกอเมริกาซิดี เลือกจีนซิดีกว่า
ในเรื่องการค้าขายระหว่างประเทศมันเลือกไม่ได้ และไม่มีทางทำสงครามกันได้
เพราะผลของสงครามการค้า คือการเจ็บตัวของทุกคน


--------
1 ขาดดุลการค้า

เกริ่นก่อนว่า การขาดดุลไม่ใช่เรื่องไม่ดี
บางคนเข้าใจว่าไทยขาดดุนจีน อเมริกาขาดดุลไทย อเมริกาซิเพื่อนแท้ ต้องเข้าใจก่อนว่าการใช้เงินคือประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อำนาจในมือคือของประชาชน ใครใคร้ซื้อๆ ดังนั้นแล้วทุกคนอยากซื้ออะไรก็ได้ จะสินค้าอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ เป็นเรื่องส่วนบุคคล การที่ประชาชนไปซื้อสินค้าจากประเทศหนึ่งเยอะก็คือการบริโภคเยอะและไม่จำเป็นต้องสมดุลการในทางตัวเงิน

เราทุกคนบนโลกต่างตอบแทนกัน ฉันจ่ายเงิน คุณให้สินค้ามา ฉันได้สินค้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการ

ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน ไม่มีใครขาดทุน

ลองจินตนาการภาพให้เล็กลง เราเดินเข้า 7-11 เพื่อซื้อครัวซองแซนวิช เราขาดทุนกับ 7-11 จริงหรือ แล้ว 7-11 เอาเงินจากเราไปโดยไม่ได้ให้อะไรเรามาจริงหรือ


------------------------
2 การขาดดุลกับใครซักคน ไม่ได้หมายถึงใครเอาเปรียบใคร

Apple จ้างประเทศไทยประกอบ Mac และ MacBook

ประเทศไทยซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์อะไหล่จากประเทศจีน
- หน้าจอ
- แบตเตรี่
- ชิปประมวลผล
- ชิปสื่อสาร
- อื่นๆ

โรงงานประกอบ Mac ในไทย ไปซื้ออะไหล่จากจีน เงินไหลเข้าจีน
โรงงานไทยประกอบสำเร็จขายต่อให้ Apple เงินจากอเมริกาไหลเข้าไทย

ในกรณีนี้คือไทยขาดดุลจีน และไทยเกินดุลอเมริกา
ในกรณีเดียวกัน Apple ซื้อสินค้าที่ประกอบจากไทย แต่เอาสินค้าไปขายทั่วโลก ส่วนหนึ่งกลับมาขายที่ไทยส่วนน้อย อเมริกาขาดดุลไทย แต่ของทั้งหมดเอาไปขายทำกำไรทั้งโลก

จากเหตุการณ์นี้ ถ้าไม่มีจีน ไทยจะทำกำไรจากการขายสินค้าให้อเมริกาได้หรือไม่

ลองจินตนาการภาพให้เล็กลง เราทำงานให้หน่วยงาน/องค์กร/บริษัทของเรา บริษัทต่างจ่ายเงินให้เราทางเดียว บริษัทขาดทุนจากเราหรือไม่
จริงๆเราต่างตอบแทนเป็นการทำงานให้บริษัทไปแล้ว และบริษัทเอางานของเราไปขายเพิ่มมูลค่าไปอีกต่อ

ถ้าบริษัทต้องจ่ายเงินให้เราทุกเดือน ถือว่าเราเอาเปรียบบริษัทหรือไม่?



------------------------
3 ทำไมสหรัฐอเมริกาต้องลดการขาดดุล

อเมริกามีปัญหาอย่างหนึ่งที่คนทั้งโลกรับรู้และไม่ชอบ แต่ทำอะไรไม่ได้คือการพิมพ์เงินด้วยความน่าเชื่อถือ และความมั่นคงของประเทศ เราจึงเชื่อได้ว่าอเมริกาจะไม่ล่มสลายในเร็ววัน จึงยอมถือสกุลเงินดอลล่าสหรัฐไว้ในมือกันทุกประเทศ

ลองจินตนาการภาพให้เล็กลงใหม่อีกครั้ง
ประเทศเหมือนบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีเงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า ในทางบริษัทนั้นคือขาดทุน แต่ประเทศไม่มีการขาดทุน สิ่งที่อเมริกาทำคือ พิมพ์เงินเข้ามาในระบบ หรือเพิ่มจำนวนหุ้นมาชำระสินค้าต่างๆ
แม้ว่าจะจ่ายเงินได้ แต่มูลค่าของหุ้นต่อหน่วยจะลดลง


ปัญหานี้จะแก้ไม่จบสิ้นคือ เงินไหลออกมากว่าเข้า ทำให้มูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ เปรียบดั่งคำว่า ดอลล่าเป็นแบ้งกงเต๊ก

สิ่งืั้ทำให้อเมริกายังอยู่ได้คืออิทธิพลความเป็นมหาอำนาจ หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ จะหมดความน่าเชื่อถือไปหมด

สิ่งที่อเมริกาพยายามแก้ไขคือ
1 ลดการใช้จ่ายนอกประเทศ
- กองทหาร การช่วยเหลือด้านสงคราม (NATO)
- เงินสนับสนุนด้านมนุษยธรรม (US, USAID)
- การแทรกแซงระหว่างประเทศ (NED, NGO)

2 ลดการย้ายออก และเพิ่มการลงทุนในสหรัฐ
- จูงใจให้เกิดการลงทุนในประเทศ ก่อนไปลงทุนนอกประเทศ
- จูงใจให้ทุนต่างประเทศไปตั้งในประเทศ
จากข้อ 2 นี้เป็นเหตุผลที่รัฐต้องใช้เครื่องมือในการควบคุมกลไกด้วยกำแพงภาษี

--------
4 กำแพงภาษี

ให้นึกถึงแม่น้ำ หรือมหาสมุทร ที่จะไหลจากที่สูงลงไปทีต่ำกว่า หากต้นทุนการดำเนินการทางธุรกิจที่ใดสูง จะถูกย้ายไปอยู่ในจุดที่ต่ำกว่า

ในยุคโลกาภิวัติ นั้นอุตสาหกรรมภาคการผลิต ได้ย้ายออกจากสหรัฐอเมริกา ไปยังประเทศต่างๆในโลก เพราะมีต้นทุนค่าดำเนินการที่ถูกกว่า

แต่ถ้าสินค้านั้นถูกส่งกลับมาแล้วโดนกำแพงภาษีไป สินค้านั้นจะมีราคาที่สูงขึ้น และจะสูงขึ้นมากไปกว่า ที่จะผลิตในประเทศตัวเองเป็นเหตุผลให้น้ำไหลกลับไปที่ต่ำกว่า

--------
ุ5 ทำไมสงครามการค้าถึงไม่ใช่คำตอบ

เพราะโลกนี้พึ่งพาการผลิตอยู่ที่ประเทศจีน เมื่อ 50 ปีที่แล้วอุตสาหกรรมต่างๆวิ่งเข้าไปในจีนกันทั้งหมด

ส่งผลให้บริษัทอเมริกา สามารถผลิตสินค้าได้ถูกลงมหาศาล โดยที่ยังสามารถขายสินค้าให้ทั่วโลกในราคาเดิมได้

เมื่อช่องว่างของต้นทุน และราคาขายมากขึ้น กลายเป็นกำไรที่มากขึ้น

ส่งผลให้ กิจการของสหรัฐอเมริกามีผลประกอบการที่ดี มูลค่าของบริษัทพุ่งเติมโต
ยิ่งบริษัทมีกำไร รัฐบาลก็ได้ภาษีจากบริษัทนั้นเยอะขึ้นตามกำไรที่มากขึ้น

ในเมื่อบริษัท อเมริกายังกำไร รัฐบาลยังได้ภาษี
สงครามการค้า จะทำให้ บริษัทกำไรลดลง ประชาชนมีต้นทุนที่สูงขึ้น และรัฐบาลก็จะได้ภาษีน้อยลงไปด้วย

--------
ุ6 ดึงการผลิตกลับไปอเมริกาไม่ได้อีกแล้ว

ใครจะบอกว่าอเมริกาทำได้ทุกอย่าง คำตอบเหมือนว่าจะใช่ แต่ต้นทุนไม่ได้
อเมริกาผลิตชิปได้ไหม ได้ซิ Intel ไง
แต่ทำต้นทุนสู้ TSMC ไม่ได้

ก็นี้ไงเป็นเหตุผลให้ดึงเทคโนโลยีของ TSMC ไปผลิตในอเมริกาให้หมด
แต่อย่าลืมว่าคอมพิวเตอร์ มือถือ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องไปประกอบในจีน

แล้วทำไมจะประกอบในอเมริกาไม่ได้
1 ค่าแรงคนอเมริกาแพง
2 ไม่มีทรัพยากร ถ้าจะประกอบจริง ก็ต้องซื้อจอ ชิปสื่อสาร แผงวงจร แบทเตอรี่จากจีน
3 ถึงจะผลิตได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีแร่ธาตุหายาก..


พอจบที่ข้อ 3 จบคือจบทันที


--------
ึ7 แร่ธาตุหายาก Rare Earth Elements (REE)

แร่หายาก จริงๆไม่ได้หายาก
ประเทศไหนก็มี
แต่จำนวนน้อยจนไม่สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้

โลกนี้ผู้ผลิตแร่หายากจีนผลิตได้ไป 70% อเมริกาผลิตได้ 12%
จีนมีปริมาณแร่หายากสำรอง 44 ล้านต้น อเมริกามีเพียง 2.3 ล้านต้น
ถ้าเขียนตัวเลขให้ดูเว่อคือ จีนมีมากกว่าอเมริกา 2,000%

แน่หายากใช้ในอะไร
- จอ
- ลำโพง
- แบทเตอรี่
- จรวจนำวิธี

เอาแค่ 3 อย่างแรกถ้าไม่มี Supply จากจีนอเมริกาจะผลิตมือถือได้ปีละกี่เครื่องเพียงพอต่อคนทั้งโลกใช้งานหรือไม่

ส่งผลให้จีนใช้ข้อได้เปรียบนี้ ออกนโยบาย ห้ามส่งออกแร่ธาตุหายาก วิธีใช้งานคือ ต้องใช้ผลิตเพื่อประกอบสินค้าในประเทศจีนเท่านั้น


หมายความว่าอุตสาหกรรมการผลิต ต้องเกิดในจีนเท่านั้น


-------
8 ที่ไหนบนโลกมี REE บ้าง

Top 3 ประเทศ
1 จีน 44 ล้านต้น
2 รัสเซีย 28 ล้านตัน
3 เวียตนาม 22 ล้านตัน

3 ประเทศที่ถือครองสูงสุดเป็นคอมมิวนิสล้วน
สินค้าญี่ปุ่น เกาหลี ย้ายหนีไทย จีนไปอยู่เวียตนาม เพราะต้องการแร่เหมือนกัน

ปธน.จีน ต้องบินไปแจ้งกับ เวียตนามว่าอย่าหมอบกับสหรัฐ เพราะเวียตนามมีปริมาณแร่เท่าครึ่งหนึ่งของที่จีนมี โลกนี้ไม่มีใครมีเยอะแบบนี้อีกแล้ว อย่าไปหมอบ

-------
9 สงครามการค้า ถ้าเกิดขึ้นจริง (เกิดไปแล้วบางส่วน)

ประเทศที่ไม่มีอาวุธทางกายภาพ และทางเศรษฐกิจ จะทำอะไรได้ นอกจากยืนมอง ของราคาแพงขึ้น


ปัญหาของอเมริกา คือปัญหาของอเมริกา แต่ด้วยความที่มีอธิพลต่อโลกจึงกระทบโลกไปด้วย

อเมริกาต้องรักษาสมดุลว่า ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศ และเงินลงทุนจากต่างประเทศ เพิ่มลดการขาดดุลระหว่างประเทศ ด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่สงคราม

กำแพงภาษีมีได้ แต่ไม่ใช่ระดับ 150%


หากจะหาผู้ชนะการศึกนี้ จะไม่มีใครชนะ

------------
10 ทางออกทางทฤษฏี

พัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทำให้มีสินค้าที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น
ปรับโครงสร้างทางการคลัง การเพิ่มดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินจากต่างประเทศ (แต่คนในประจ่ายจะจ่ายดอกแพงไปด้วย)
เพิ่มศักยภาพในการส่งออก นอกจากผลิตเพื่อใช้ในประเทศแล้ว ต้องส่งออกมากขึ้น
การแทรกแซง และการสร้างค่านิยมผลิตภัณฑ์อเมริกา (Softpower)

ไอ้นาวาโร่ที่เป็นกุนซือทรัมป์เย้วๆเรื่องกำแพงภาษีนี่แม่งเป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์นะ แต่แม่งเหมือนติดอยู่ในยุค 1800-1900 ที่เมกาแม่งผลิตเองทุกอย่าง เรือแม่งยังเป็นเรือกลไฟอะไรแบบนั้นอะ

ครั้งสุดท้ายที่เมกาแม่งมีนโยบายเชิง Protectionism หรือป้องกันสินค้าตัวเองด้วยกำแพงภาษีเนี่ย คือ 100 ปีก่อนจนเกิด Great Depression ที่ส่งผลให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นู่นอะ

มันหมดยุคนานแล้วอะที่แบบว่าตัวเองต้องได้ดุลการค้าทุกประเทศงี้ ไม่มีประเทศไหนหรอกที่แม่งทำได้ทุกอย่างแบบ sustainable ในตัวเองไม่พึ่งพาชาวบ้านอะ ขนาดเกาหลีเหนือมีจูเชยังเป็นขอทานรับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมทุกปี ปีไหนเดือดร้อนหนักๆก็ยิงจรวดเรียกร้องความสนใจทีนึง

นี่ว่าแม่มทำตัวบ้าบอมาก นึกออกข้อดีเดียวคือทำเพื่อด้อยค่าดอลล่าร์ แล้วรีบเอาทองหรือคริปโตเทขายเพื่อจ่ายหนี้คืนเจ้าหนี้ทั้งหลายทั้งญปและจีน แต่คือแลกกับพังเศรษฐกิจบ้านตัวเอง อันนี้ก็ไม่รู้ว่าคุ้มรึเปล่านะ

ทำไมถึงได้เอาลูกค้า(เรา) - พ่อค้า(7-11) / พนักงาน(เรา) - เจ้านาย มาพูดเรื่องงบดุลได้หรอครับ
การขาดงบดุลระหว่างประเทศเปรียบเสมือนพ่อค้า - พ่อค้าที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสินค้าของตัวเอง ไม่ใช่หรือ?

ไทยก็มีสินค้าของเรา จีนก็มีสินค้าของเขา การที่ไทยเอาของจีนเข้ามาขายเยอะๆ
มันก็ควรจะแลกเปลี่ยนด้วยการนำของไทยไปขายในบ้านจีนเช่นกัน หรือเปล่าครับ? นี่ถึงเรียกว่างบดุล

การเปรียบลูกค้า 7-11 กับเรื่องงบดุลมันดูแปลกๆครับเพราะ 7-11 ไม่เคยซื้ออะไรจากผมเลย มีแต่ผมซื้อ งี้ผมก็ขาดงบดุลอย่างเดียวน่ะสิ

พูดถึงสงคราม เจ็บน้อยสุดคือชนะได้รึป่าวแบบนี้

นับถือใจ

แนวความคิดดีนะ พยายามถ่วงดุลจีน แต่มาช้าไปแล้ว จีนแทรกซึมไปทุกอุตสาหกรรมทั้งโลกไปแล้ว ขนาดสินค้าประเทศตัวเองยังผลิตที่จีน ชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดก็ทำที่นั่น

ในความจริง มีแต่ซื้อถูก ไปขายแพง
เราซื้อขนม 7-11 เพื่อให้มีแรงไปทำงาน รับตังจากบริษัท

เราไม่สามารถ เกินดุล หรือสมดุลกับคู่ค้าทุกคนได้
การขาดดุลกับคู่ค้าจึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย
ตราบที่เราไม่ขาดทุน


ถ้าสหรัฐขาดดุลไทย เพราะจ้างเราผลิตสินค้า
แต่เอาไปทำกำไรทั่วโลก ตัวบริษัทยังมีกำไร
จะไปสนใจทำไมว่าจ้างไทยแล้วขาดดุล

จขกท.จะสื่อประมาณว่า
คุณอาจจะขาดทุนให้7ทุกเดือนเพราะไปซื้อของในร้าน
แต่ของที่คุณซื้อใน7 คุณเอาไปใช้เปิดร้านอาหารตามสั่งขายคนอื่นๆต่อ

ดังนั้นไม่ได้หมายความว่าปีนี้คุณขาดทุน
เพราะคุณเอาของที่ซื้อจาก7ไปสร้างรายได้จากการขายอาหารต่อ

ก็เปรียบเสมือนว่าเมกาบ่นว่าขาดดุลให้จีนทุกปี
แต่ไอโฟนที่ผลิตมาจากจีน
แอปเปิ้ลเอาไปขายต่ออีกทำกำไรต่ออีกเป็นร้อยประเทศ
แอปเปิ้ลที่เป็นบริษัทเมกาก็นำเงินกลับเข้าเมการวมถึงจ่ายภาษีให้ประะทศกลับคืน

สุดท้ายแล้ว ไอโฟน สินค้าอิเล็คโทรนิกส์ แร่หายาก ที่ใช้ในการผลิต
ในเมื่อเมกาไม่มีต่อให้ไม่ซื้อจากจีน
ก็ต้องไปซื้อของเหล่านี้ขาดทุนให้ประเทศอื่นอยู่ดี
ก็ในเมื่อแร่เหล่านั้นเมกาหาไม่ได้จะปลูกเองเหมือนพืชผลเกษตรกรรมก็ไม่ได้

Rare Earth คือแร่อะไร มีชนิดเดียวหรือหลายชนิด

.

ป่าวครับท่าน ผมไม่เข้าใจตัวอย่างเรา - 7-11 อ่ะว่ามันสามารถเป็นตัวอย่างของการขาดดุลการค้าได้ยังไง เพราะดุลการค้ามันต้องเทียบประเทศ-ประเทศ / ผู้ประกอบการ-ผู้ประกอบการ ในเคสของ ผมกับ7-11 คือลูกค้ากับร้านค้า ผมมีแต่เสียเงินให้เขา เขาไม่เคยต้องซื้ออะไรจากผมอยู่แล้ว

ถ้าจะเทียบกับ 7-11 ผมว่าอีกฝั่งต้องเป็น Mitsubishi ที่เป็นธุรกิจเช่นเดียวกัน เช่นสมมุติ 7-11 มีแผนจะขยายอีก 100,000 ทั่วประเทศ โดยได้จ้างมิตซูเป็นผู้ติดตั้งแอร์ทุกสาขา มิตซูก็ติดให้เสร็จจนหมด แต่ระหวว่างที่ทำงานมิตซูกลับไม่ซื้อของกินจาก 7-11 เลยแต่ดันไปซื้อจาก CJ More ทำให้ 7-11 เสียค่าแอร์ค่าติดตั้งให้มิตซู แต่กลับไม่ได้ขายบริการอะไรให้เขาเลย แบบนี้ถึงจะเรียกว่าขาดดุลการค้า รึเปล่าครับ

แบบนี้เหมือนว่าทรัมป์เปิดศึกนี้ ทำให้คนรู้มากขึ้นว่าจีนเหนือกว่า
เรื่องแร่หายาก และกำลังผลิดของในจีนไม่อาจลบล้างได้ และหนี้ของสหรัฐล้างไม่ได้ง่ายๆ
ทีนี้เลยกลับลำจะไปเจรจา
แล้วจีนมีเหตุผลอะไรต้องเจรจาไหมคับ ผมเข้าใจว่าตอนนี้จีนถือไพ่เหนือกว่าแล้ว