อียูคุยไม่คืบและ รมต ต่างประเทศของไอร์แลนด์เตือนให้เตรียมพร้อมว่าภาษีอาจจะอยู่อีกยาว
หัวหน้าทีมเจรจา มารอส เซฟโควิช คุยไปสองชั่วโมงก่อนจะกลับมาด้วยความมึนงง

1. สหรัฐบอกว่าพักภาษี 20% ให้ 90 วัน แต่ภาษีรถยนต์กับเหล็กจะไม่ลดให้

2. สหรัฐไม่สนใจข้อเสนอลดภาษีเป็น 0 ทั้งสองฝ่าย

3. อียูเสนอซื้อ LNG เพิ่ม สหรัฐไม่สนใจ

4. สหรัฐจะขึ้นภาษียา ให้อียูลงทุนในบริษัทยาในสหรัฐเพิ่ม และควรขึ้นราคายาในอียูด้วย เพราะราคายาอียูถูกเกินไป

5. ให้อียูเสนอเรื่องเหล็กกับอลูมิเนียมมาก่อน สหรัฐจะตั้งภาษีอยู่ดี แต่อาจจะเป็น common rate

6. สหรัฐต้องการให้อียูถอยเรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตร และกฏควบคุมดูแลเทคโนโลยี อียูปฏิเสธเด็ดขาดว่าไม่เจรจา

7. ถ้าจะทำข้อตกลงการค้า FTA ต้องทิ้งจีน

8. ถึงมีดีลแล้ว แต่สหรัฐขอสงวนสิทธิในการตั้งภาษีใหม่


https://www.forexlive.com/news/eu-expects-tariffs-to-remain-as-talks-make-little-progress-20250415/
https://www.irishtimes.com/politics/2025/04/15/briefings-suggest-eu-faces-choice-between-us-and-china/

มาเจรจาหรือมาข่มขู่เค้าพี่กัน

อันนี้เรียกว่าไม่ได้อยากมาคุย แค่อยากเปลี้ยนที่นอน

เมินข้อเรีกกร้องเรื่อง food safety ที่สหรัฐมองว่ากีดกันทางการค้าด้วย

ข้อ 7 นั่นแหละประเด็นสำคัญของเรื่องทั้งหมด

เรื่องซื้อ LNG อันนี้หลายคนจะงงๆ คือทุกสัปดาห์เมกามันจะบอกว่าแก๊สธรรมชาติในคลังเนี่ยเหลือเท่าไหร่ อย่างที่ประกาศเมื่อวานเหลือ 1.8 หมื่นล้านลบ.ฟุต (มุงใช้หน่วย SI จะตายไหม ) ซึ่งเลขมันน้อยก็ยิ่งบ่งบอกว่าขายได้เยอะหรือมีการใช้เยอะ ทำให้หน่วยเงินดอลล่าห์แข็งขึ้นนิดนึง (เป็นดัชนีตัวนึงแต่มีผลไม่ได้เยอะ)

ด้วยความที่แท็คติกตอนนี้ทรัมป์พยายามทำให้ค่าเงินอ่อนเพื่อจ่ายหนี้ให้จบ (มันเป็นหนี้หน่วยดอลหนิ) การขาย LNG เพิ่มที่ทำให้ค่าเงินแข็งขึ้นเลยตกจากโต๊ะไป ถ้าช่วงหลังๆเห็นอะไรแปลกๆ ให้นึกเรื่องนี้ไว้ก่อนคือ ทำดอลล่าห์ให้อ่อนไว้

ยิ่งภาษี 2 ฝ่ายเป็น 0% นี่ยิ่งทำให้ค่าเงินกลับมาแข็ง = เป็นไปไม่ได้

ผมว่าที่ EU รับไม่ได้คือข้อ 8 มากกว่า มีที่ไหนดีลกับเขาแล้วบอกยกเลิก ธุรกิจจริงๆไม่ทำแบบนี้เล้ย

จริงๆทรัมป์มันเหม็น EU นานแล้วแหละ ด้วยความที่มันมีกฎนู่นนี่นั่นที่แข็งแรงมาก (ส่วนมากก็ปกป้องผู้บริโภคน่ะแหละ ไอ Type C แอปเปิ้ลยอมก็เพราะกฎ EU) เรื่องยานี่ตัวดีเลย เมกามันโดนล้อประจำว่าเป็นประเทศโลกที่ 1 แต่คุณภาพชีวิตการเข้าถึงยาไรงี้แม่งเกือบเท่าแอฟริกา (ตอนจะเอาแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ก็เจอเขาตอบกลับมาเบาๆว่า "ประเทศกุมีสิทธิ์ประกันสังคมนะ" แค่นี้ก็หัวไหม้แล้ว )

ผมบอกเลย สุดท้ายแม่งต้องทบทวนนั่นแหละ ยิ่งเจอ J.Pow ด่าอ้อมๆแต่เจ็บขนาดนั้นไปเมื่อคืนวันพุธบ้านเรา แกหัวไหม้ด่าไปเมื่อวานแต่คนแม่งกลับเชียร์ J.Pow กว่าเดิมอีก

ประเทศแม่ง Food Safety ห่วยยังกะอะไรดี คนตายห่านเพราะอาหารเป็นพิษในเมกาปีละ 3k คน

EU ยังโดนขนาดนี้ ไทยเราเหลือไรให้ไปคุยวะ

ขนาดลูกหม้อยังโดนขนาดนี้ ฝาหม้อแบบไทยจะไปเหลืออะไรละนิ

4. สหรัฐจะขึ้นภาษียา ให้อียูลงทุนในบริษัทยาในสหรัฐเพิ่ม และควรขึ้นราคายาในอียูด้วย เพราะราคายาอียูถูกเกินไป


อันนี้เข้าขั้นเฮีย ประเทศอื่น จีน อินเดีย ประชากรเยอะเค้ายังชื้อสิทธิบัตร ไอ้นี่ เงินก็ไม่จ่าย จะข่มขู่เค้าให้ตั้งราคาตามที่ตัวกรุเองอยากได้ คนประเทศมรุงกินฟาสฟู้ด อาหารขยะ เยอะจน ncd เบาหวาน ไขมันอุดตัน ครึ่งประเทศ ไม่เล่นบริษัทอาหารขยะบ้านตัวเอง ไปเล่นบริษัทยาประเทศอื่น ประชาธิปไตยแบบใด

กับไทยไม่แน่ ถ้า offer ดีๆให้จนท.ไทย ผ่านได้หมด มาตราฐานจีนยังผ่านได้ นับประสาอะไรกับมาตราฐาน us

อันนี้ถ้าไม่ใช่ดีลนะแต่เป็นข้อเสนอรับไม่รับก็แล้งแต่ 555

จริงๆอยากให้ทุกประเทศสมัคคีขึ้นภาษี USA ประเทศเดียวทั้วโลก ประเทศอื่นก็ปกติเดิมๆ ผลจะเป็นยังไงนิ

เพราะงี้ถึงเกิดเหตุการณ์คนอเมริกันยิง CEO บริษัทประกันสุขภาพในสหรัฐ เพราะค่ารักษาค่ายาแพง บริษัทประกันก็เคลมยากตาม ทรัมป์ยังอยากให้ยาทั่วโลกแพงตามเข้าไปอีก จะแพงไปถึงไหน พวกนี้ต้องบินหนีมารักษาที่บำรุงราษฎร์

แปลก การเจรจาต่างฝ่ายต้องเสนอสิ่งที่ตัวเองจะยอมเสียประโยชน์เพื่อแลกกับประโยชน์ใหม่ที่จะได้รับ

ทำไมเหมือนทั้ง 8 ข้อ ไม่ค่อยเห็นอะไรใหม่ๆที่น่าสนใจที่อเมริกายื่นให้ยุโรปเลย

ยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส ที่เคยเป็นประเทศให้กำเนิดอเมริกามาก่อน