ัเอาจริงๆ มันคือเหตุผลง่ายๆ ที่ควรคิดได้นะครับ

มันได้ชื่อเสียง มีหน้ามีตา เป็นที่ชุบตัว โดนเฉพาะคนที่มีลูกหลาน เสเพลหรือไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ทำงานนี้ ทางบ้านก็มีหน้ามีตา มีคนเกรงใจ ไปอวดคนอื่นได้ด้วย
อีกอย่างการเป็น สท มันไม่ใช่เป็นง่ายๆหรอกครับ
ต้องมีเงิน มีคอนเนคชั่น

และถ้าเงินถึง อนาคตมันไปต่อยอดทางการเมืองได้อีกหลายอย่าง

เดือนนึงทำ 2-3 วัน ไม่ใช่งานที่รักเราได้อย่างไร

เงิน อำนาจ บารมี ถ้ามี 2 อย่าง อย่างที่ 3 จะตามมา
เคสนี้มีเงิน มีอำนาจ แต่ยังไม่มีบารมี

แต่ถ้าว่ากันแฟร์ ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย งานอื่นก็เจอลูกคนรวย
มาทำเยอะแยะ เงินเดือนแค่หมื่นกว่าๆเหมือนกัน

เทศบาลไหนรายได้จากรัฐเข้าเยอะ นี้เกือบ 20k เลยนะ

ประชุมเดือนละรอบ สบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เหมาะกับพวกมีธุรกิจของตัวเอง

แล้วเอาชื่อเข้าไปลง เพื่อสร้างบารมีต่อยอด

เผลอๆ 2-3 วันที่เข้าไปทำ เข้าไปทำแปปเดียวแล้วเดินออกเลยป่ะครับ

ก็เหมือนพ่อพลวงเราอะครับ มีเงิน อยู่ในวังสบายๆ ดี อยู่แล้ว จะมาพยายามทำตั้ง 4,000 โครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนฟรีๆ ทำไม

2-3ชั่วโมงครับ

อาชีพเสริมแหละ สท. ไม่ต้องเข้างาน แค่มาประชุมสภา ร่วมงานอีเว้นนู่นนี่

สท. แถวบ้านผมอยู่ร้านวัสดุก่อสร้างทั้งวัน

พวกที่ลงเล่นในแวดวงการเมือง ไม่ว่าจะ ท้องถิ่น หรือระดับประเทศ พวกเค้าเหล่านี้ต้องทำเพื่อปกป้อง และส่งเสริมธุรกิจครอบครัวตัวเองครับ อันนี้เรื่องพื้นฐาน

ส่วน hidden agenda อันนี้แล้วแต่ความซับซ้อนของแต่ละคนครับ

เงินฟรีโดยไม่ต้องทำงานครับ แล้วรอเอาเงินตรงนี้ไปใส่ซองงานศพ ไปใส่ซองตามงานบุญของชาวบ้าน


สรุป ได้เงินฟรี + ได้หน้า โดยไม่ต้องเปลืองเเรง

ถ้ามีเงินเหลือใช้ผมก็อยากเป็นนะ เจ้าหน้าที่อุทยานน่ะ เฝ้าป่า เดินป่าไปวันๆ สบายใจดีออก ถึงเงินน้อยก็ไม่ลำบากอะไร เบื่อๆ ก็เข้าเมืองกิน Omakase เติมใจ แล้วกลับมาทำงานต่อ

รายได้จริงๆเยอะกว่านี้ครับ
แถมมีอำนาจพ่วงมาด้วย

ทำงานเดือนนึงกี่วัน ประชุมทีถึงเคยเห็นหน้าที ไม่มีประชุมคือทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

ค่าคอม ไม่จำกัด

พ่อเป็นนายก ลูกเป็น สท. หวานเจี๊ยบบบบ