----- ช่วงเวลาแรก ----
มันมีเหตุอันใดที่ลุงจะเข้ามาเลนขวาสุดขับก็ไม่ได้เร็ว จะมาแช่ เหรอครับ จะอ้างว่าอัลพาร์ดตามมาเร็วก็เลยต้องหลบก็ไม่ใช่เรื่อง สู้หลบ BM ดีกว่า

---- ช่วงเวลาถัดมา ----
ฺBM จริงอยู่ที่ขับถูกตามกฎจราจร ขับมาในเลนหลัก แต่เมื่อเห็นลุงจะเปลี่ยนเลนแน่ๆ ทำไมไม่ชะลอ ดังนั้น จึงเป็นการประมาทร่วม แม้ว่าจะขับตามกฎจราจรก็ตาม

---- ช่วงเวลาสุดท้าย ----

BM ไปทำร้ายร่างกายผิดเต็มประตู แม้ว่าเค้าจะหนีก็ไม่ควรทำ ประกัน+กล้องหน้ารถ+อำนาจ ที่จะสามารถตามได้ล้นฟ้าอยู่แล้ว หมดอนาคตกันไปมั้งนะ และลุงก็คงได้บทเรียนที่ต้องจำไปอีกนาน (แค่ไหนไม่รู้)

ขับรถ เห..... ทั้งคู่

ส่วนใหญ่ หลายคนมาก

พออยู่หลังพวงมาลัย เหมือนเปลี่ยนร่างเป็นคนใจร้อน

แทบทุกอาชีพ ดารา หมอ นักธุรกิจ และอีกมากมาย

เวลาขับรถให้ใจเย็นๆ เปิดแอร์ให้เย็นขับชิลๆ สบายๆ

จงมีสติ อย่ามีอารมณ์แต่จงมีน้ำใจ ไปถึงปลายทางแน่นอน

ซวยคู่ครับ หัวร้อนจะเข้าคุก

ชนแล้วหนี เกือบตาย

ก็ win win แบ่งไปคนละครึ่งนะ ไม่มีความสงสารให้ฝ่ายใดทั้งสิ้น

คำต้องห้ามบรรทัดแรกนะแก้ก่อนครับ โดนแบนได้

ผมว่าลุงอาจจะมองไม่เห็นบีเอ็ม เพราะอยู่ทางขวาเลยออกไปไกล เลยเปลี่ยนเลน ส่วนบีเอ็มเห็นรถว่างก็เร่งใส่ กะเข้าตามเลนก่อน

ถ้าเป็นทางปกติหรือทางโค้ง ผมว่าลุงแกเห็น คงไม่ออกแน่ นี่มันเป็นทางเบี่ยง รถบีเอ็มถึงมาตามเลนปกติก็เหมือนวิ่งตัดเลนทแยงเข้าหา แถมมาเร็วด้วย มันก็เลยเกิดการเบียดกันขึ้น ผมว่าบีเอ็มเห็นรถลุงวิ่งตรงมาตลอด เพราะอยู่ด้านหลัง แต่เค้าเลือกที่จะไม่ลดความเร็ว มันเป็นการเอาตัวเองเข้าไปสู่จุดเสี่ยง ต่อให้ขับถูกกฎมันก็เกิดความเสียดายอยู่ดี

อย่างแรกที่ต้องคิดของคนขับคือขับไม่ให้ชน รถเราอยู่หลังเค้าเราเลือกที่จะชะลอได้ แถมรถยังแรงกว่า รอแซงทีหลังก็ยังได้

เลนส์มันบีบจาก 4 เป็น 2 เลน ผมก็มองว่าเป็นทางร่วมน่ะ ส่วนเรื่องสายตาคุณไม่ต้องยุ่งผมนะ

เอาจริงๆลุง แม่งปาดแล้วหนีอะ5555+ ถ้าจอดแล้วคุยกันก็จบ เป็นใครๆก็ต้องคิดว่าหนี เพียงแต่แม่งเสือกหัวร้อนเกิน

ลบดีกว่า

ขับช้ากว่านี้ทั้งคู่ ก็ไม่เกิดเรื่อง

โทษคนออกแบบถนนครับ ออกแบบได้ระยำมาก ลุงขับวิ่งตรงๆมาดีๆกลายเป็นเลนของคนอืนเฉย