ราชันสิ้นลาย! เกมรุกมืดมน 'ปืน' บุกลูบคมคารัง 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แชมป์ยุโรป 15 สมัย เรอัล มาดริด จอดป้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไว้ที่รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อพวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ไม่สำเร็จ เล่นนัดสองในบ้านตัวเองต้องถูก ปืนใหญ่ อาร์เซนอล บุกมาย้ำชัยไปอีก 2-1 (สกอร์รวม 2 นัด 5-1) ชนิดเกมรุกทือจัดไร้อนาคต ตลอด 90 นาที แทบเจาะแนวรับผู้มาเยือนไม่ได้เลย
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
35.
ราอูล อเซนซิโอ

74'
6
4.
ดาวิด อลาบา

61'
6.5
17.
ลูคัส บาซเกซ

61'
6.5
9.
คิลิยัน เอ็มบัปเป้

75'
6.5
11.
โรดรีโก้

61'
6.5
ตัวสำรอง
20.
ฟราน การ์เซีย

61'
6
10.
ลูก้า โมดริช

74'
6
16.
เอนดริค

61'
6
21.
บราฮิม ดิอาซ

75'
6
19.
ดานี่ เซบาญอส

61'
6.5
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
วันพุธที่ 16 เมษายน 2568
กรรมการ ฟรองซัวส์ เลเตซิเยร์
เรอัล มาดริด
1
2
อาร์เซนอล
รวมผล 2 นัด อาร์เซนอล เข้ารอบสกอร์ 5-1
1-1 วินิซิอุส จูเนียร์ 67'
0-1 ซาก้า 65'
1-2 มาร์ติเนลลี่ 90+3'
เรอัล มาดริด เล่นในบ้านตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ทีมต้องพยายามพลิกกลับมาชนะอาร์เซนอลให้ได้อย่างน้อยระยะห่าง 3 สกอร์ หลังไปพลาดนัดแรกที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมถึง 3-0
คาร์โล อันเชลอตติ ปรับทีมเปลี่ยนผู้เล่น 2 ตำแหน่งจากเกมนัดแรก ด้วยการถอด ลูก้า โมดริช และ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า (ติดโทษแบน) ออก แล้วส่ง ลูคัส บาซเกซ เล่นแบ็กขวาแล้วขยับ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ มายืนกราน ขณะที่ ออเรลียง ชูอาเมนี่ ได้ลงเป็นตัวจริง
ฝั่งอาร์เซนอล ผู้เล่นชุดเดิมเหมือนเกมนัดแรก โธมัส ปาร์เตย์ ฟิตพอที่จะออกสตาร์ตเป็นตัวจริง และยาคุบ คิวิออร์ ยังได้ลงเล่นต่อเนื่องในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คร่วมกับ วิลเลียม ซาลิบา
บัปเป้ยิงเข้าแต่ล้ำหน้าอยู่ก่อนแล้ว
เริ่มเกมแค่ 2 นาที เรอัล มาดริด ส่งบอลตุงตาข่ายได้อย่างรวดเร็วจากวินิซิอุส จ่ายให้ เอ็มบัปเป้ ที่ยืนกางมุ้งอยู่ใช้หน้าอกจบสกอร์ แน่นอนว่า หอกตราไก่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าตั้งแต่แรกแล้ว
ซาก้าได้ง้างไกยิงหลุดกรอบได้ลุ้น
อาร์เซนอลก็มีโอกาสจาก ซาก้า ได้บอลทางซ้าย ได้ยิงคนเดียวโล่งๆ หลุดเสาไกลได้ลุ้น
ซาก้าอีกครั้ง คราวนี้ถูกคูร์กตัวส์เซฟ
โอกาสของ ซาก้า อีกครั้งจากบอลเลี้ยงตัดเข้าในแล้วซัด้วยซ้ายให้ คูร์กตัวส์ ต้องออกแรงพุ่งปัดออกหลัง
เอาแล้ว ปืนได้จุดโทษ
ผู้ตัดสินหยุดเกม วิ่งออกไปเช็ต VAR ย้อนหลัง ก่อนกลับมาเป่าให้จุดโทษอาร์เซนอล จังหวะ อเซนซิโอ ไปดึงเมริโน่ ตอนเล่นเตะมุม
ซาก้าเล่นท่ายาก จุดโทษถูกเซฟไว้ได้
ซาก้า มาเหนือเลือกยิงจุดโทษแบบปาเนนก้า แต่ทิศทางมันไม่ดี คูร์กตัวส์ ที่พุ่งออกไปแล้วยังสามารถเอามือามไปปัดบอลทิ้งได้ทัน ยัง 0-0
มาดริดลุ้นจุดโทษบ้าง...สุดท้ายแห้ว
เรอัล มาดริด ก็มาได้จุดโทษเหมือนกันจังหวะลูกวางยาวแนวลึก ไรซ์ไปกอดเอ็มบัปเป้จนล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ค VAR อยู่พักใหญ่ก่อนยืนยัน น้ำหนักไม่มากพอจะให้เป็นจุดโทษ ยัง 0-0
มาดริดบุกจริงแต่ได้ลุ้นน้อยมาก
เข้าช่วงท้ายครึ่ง เรอัล มาดริด พยายามเต็มที่แต่ยังไม่มีช็อตหวาดเสียวให้ได้ลุ้น เจ้าถิ่นถือว่าน่าผิดหวังกดดันทีมเยือนไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น
ไรซ์ช่วยเซฟก่อนจู๊ดได้ยิง
กลับมาเล่นครึ่งหลัง เรอัล มาดริดลุยต่อ โอกาสลุ้นยังมีไม่มากเหมือนเดดิม แต่จังหวะนี้ จู๊ดหลุดถึงหน้าประตูกำลังจะง้างไกยิงจ่อๆ เป็นไรซ์ที่วิ่งตามมาสกัดบอลเซฟทีมได้ทันอีก
ราย่าเซฟลูกยิงวินิซิอุส
วินิซิอุสมีโอกาสลุ้นประตูจากบอลที่กำลังจะเสียบสามเหลี่ยม แต่ราย่าไม่พลาด ตามไปปัดบอลออกหลังได้ทัน
มาดริดเปลี่ยน 3 ตัวแก้เกม
อันเชลอตติเห็นเกมไม่ดีขึ้นจัดการเปลี่ยน 3 ตัวส่งเอนดริค, ฟราน การ์เซีย และเซบาญอส แทนอลาบา, โรดรีโก้ และบาซเกซ
ทำไปทำมาเป็นปืนที่นำก่อนจากซาก้า 1-0
เปลี่ยนตัวเกมไม่ดีขึ้นแถมมาโดนอาร์เซนอลยิง 1-0 อีก จังหวะเมริโน่ โหม่งตัั้งให้ ซาก้า หลุดทางขวา ก่อนผู้เล่นอาร์เซนอลจะค่อยๆต่อบอลแล้วมาจบที่ซาก้าอีกครั้ง หลุดเดี่ยวชิปบอลบอลผ่านมือคูร์กตัวส์เข้าประตูไป
เกมยังไม่จบ วินิ ยิงตีเสมอทันควัน 1-1
ดีใจได้แปปเดียว เรอัล มาดริด ตีเสมอ 1-1 ทันควันจาก ซาลิบา พลาดถูกวินิซิอุสแย่งบอลเข้าไปยิงง่ายๆ
โอเดการ์ดเกือบยิงได้
อาร์เซนอลเกือบได้อีกลูกจากโอเดการ์ด ได้สับนอกกรอบบอลหลุดเสาไกลออกหลังนิดเดียว
เอนดริคได้ยิงจ่อๆ หลุดกรอบอีก
ช่วงทดเจ็บ เรอัล มาดริด น่าได้สุดๆ จากโอกาสวอลเล่น์ในกรอบของเอนดริค แต่บอลมันพุ่งหลุดเสาไกลออกหลัง
มาร์ติเนลลี่โต้กลับเช็คบิล 2-1
เรอัล มาดริด ดันสูงกลายเป็นเปิดพื้นที่ในเกมรับเยอะมากจนโดนโต้กลับ มาร์ติเนลลี่หลุดครึ่งสนามเข้าไปยิงผ่านมือคูร์กตัวส์ 2-1
จบเกมอาร์เซนอลบุกชนะเรอัล มาดริด 2-1 สกอร์รวม 2 นัด 5-1 ผ่านเข้ารอบไปตามระเบียบ
อาร์เซนอล
Starting Formation: 4-3-3
12.
ยูร์เรียน ทิมเบอร์

90+5'
6
41.
เดแคลน ไรซ์

90+5'
7.5
11.
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

90+5'
7.5
7.
บูคาโย่ ซาก้า

77'
7
ตัวสำรอง
3.
เคียแรน เทียร์นี่ย์

90+5'
6
19.
เลอันโดร ทรอสซาร์

77'
6
4.
เบน ไวท์

90+5'
6
17.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้

90+5'
6
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Thu Apr 17, 2025 04:20, ทั้งหมด 16 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ