“สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีของจีน เดินทางถึงมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ยกย่องเป็นเพื่อนบ้านที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข หวังเป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ “จีน-อาเซียน” ท่ามกลางปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐฯ คาดมีการลงนามข้อตกลงสำคัญหลายฉบับเพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น



สมเด็จพระราชาธิบดีอิบราฮิม อิซมาอิลแห่งยะโฮร์ทรงให้การต้อนรับประธานาธิบดีสีอย่างยิ่งใหญ่ ณ พระราชวังหลวงอิสตานา เนการาในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยผู้นำจีนได้เดินบนพรมแดงและตรวจแถวกองทหารเกียรติยศพร้อมเสียงบรรเลงเพลงจากวงดุริยางค์หลวง

หลังจากการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชธิบดีฯ ประธานาธิบดีสี มีกำหนดเข้าพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำให้กับเขาที่เมืองปูตราจายา ศูนย์กลางการปกครองของมาเลเซียที่ตั้งอยู่นอกกรุงกัวลาลัมเปอร์

กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียเปิดเผยว่าในการเยือนครั้งนี้ ผู้นำของสองชาติจะลงนามข้อตกลงทวิภาคีกันหลายฉบับ และว่าจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซียติดต่อกัน 16 ปี โดยการค้ารวมระหว่างสองประเทศคิดเป็น 16.8% ของการค้ากับต่างประเทศทั้งหมดของมาเลเซีย

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากจีนและมาเลเซียพึ่งจะเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตกันไปเมื่อปีที่แล้ว และยังเกิดขึ้นท่ามกลางสงครามการค้าที่ดุเดือดจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา

นักวิเคราะห์ชี้ว่าการเยือนของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีความหมายมากกว่าแค่การสานสัมพันธ์ฉันมิตรแต่เป็นการส่งสัญญาณปรับ "จุดศูนย์ถ่วง" ของภูมิภาคให้โน้มเอียงมาทางจีน

ก่อนเดินทางมาถึงมาเลเซีย ประธานาธิบดีสีได้เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับลายลักษณ์อักษรตอกย้ำถึงมิตรภาพอันยาวนานดั่งเพื่อนบ้านที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข พร้อมเสนอแนวทางยกระดับความสัมพันธ์ ทั้งการเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง แลกเปลี่ยนประสบการณ์บริหาร และที่สำคัญคือ การผลักดันความร่วมมือในหลากหลายมิติ ตั้งแต่ห่วงโซ่อุปทาน อุตสาหกรรม ไปจนถึงเศรษฐกิจยุคใหม่อย่างดิจิทัล สีเขียว สีน้ำเงิน และการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

ผู้นำจีนยังเรียกร้องให้ร่วมกันปกป้องระบบการค้าเสรี ต่อต้านลัทธิกีดกันทางการค้าและรักษาเสถียรภาพห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมประกาศสนับสนุนบทบาทของมาเลเซียในการเป็นประธานอาเซียน โดยหวังให้มาเลเซียเป็น "สะพานเชื่อม" ความสัมพันธ์จีน-อาเซียน เพื่อสร้างประชาคมที่ใกล้ชิดและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ร่วมกันเผชิญหน้าความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เริ่มต้นการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสัปดาห์นี้ โดยได้เดินทางเยือนเวียดนามแล้ว และมีกำหนดการเยือนกัมพูชาต่อ ท่ามกลางความพยายามของจีนในการวางตำแหน่งตนเองให้เป็นทางเลือกที่มั่นคงแทนที่สหรัฐอเมริกาที่ประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้าจนทำให้เศรษฐกิจโลกปั่นป่วน

https://ch3plus.com/news/international/morning/437479?fbclid=IwY2xjawJsl21leHRuA2FlbQIxMQABHuca9fMW2bjHIkrRnxEByyknU5Cz4AZ34_gUPK4d6px1IV8BwatNym9K3qx0_aem_JWYmwTYxens1ObsqqhtseQ

คาดการณ์ผิด ตอนแรก คิดว่าจีนจะเจ็บหนัก

รอบนี้สีจิ้นผิง เก็บเวล ฟามของ เตรียมกำลัง เก็บเสบียง เตรียมพร้อมรับมือมาแล้วระดับนึง ไปๆมาๆ เหมือนจีนจะสวนอเมริกาคืนด้วย เดินสายเช็คของเช็คพันธมิตรก่อนเลย ถ้าได้เปรียบคือ จีนเอาแน่



สไตล์มันต่างกัน ฝั่งตาทรัมป์ นี่ สไตล์ฝรั่งอเมริกันคาวบอยลูกทุ่ง พกปืนถีบประตู เน้นเสียงดัง ปืนใส่ลูกเยอะไว้ก่อน ปืนมีต้องได้ยิง โดนไม่โดนว่ากันอีกที สาดไปเลยหมดแม็ก ยิงก่อนค่อยคิด

ฝั่งตาสี สไตล์มือกระบี่จีน น้ำนิ่งไหลลึก นั่งจิบเหล้าเงียบๆ ไม่ยุ่งกับใคร แต่ใครยุ่งกับกรุ ชักกระบี่ออกมาฟันทีเดียว กระบี่ปกติเก็บไว้ในฝัก แต่ถ้าชักออกมาแล้วต้องฟันให้ตาย



คู่นี้เอาจริงๆ มันส์แน่นอน อเมริกา vs เยอรมัน ญี่ปุ่น , vs โชเวียต เอาจริง พวกนั้นห่างชั้นกับอเมริกาหมด แต่ตอนนี้เจอคู่มือตึงๆแล้ว อินทรี ปะทะ มังกร สุดท้ายใครจะอยู่จะไปไม่รู้ ที่รู้ๆ คนตาย ประเทศเล็กๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใครเลย โดนดาเมจ2ฝั่งเต็มๆ

ทำไมไม่มาไทกั่วอะ

เราส่งคนไปเยือนเค้าแล้วนิครับ เห็นไปแว๋บๆ ในข่าว

อเมริกาเอาแต่ผลักมิตรออกห่างตัวเอง แต่จีนพยายามผูกมิตรให้ได้มากที่สุด(ถึงเค้าจะรู้ทันก็เถอะว่าเพื่อประโยชน์ประเทศตัวเอง) จีนใช้เวลาแทรกซึมไปเรื่อยๆมาเป็น 10 ปี ทรัมป์อ่ะคิดว่าระยะเวลาสั้นๆแค่นี้ประกาศสงครามการค้าแล้วตัวเองจะชนะก็ยากหน่อยล่ะ ใครจะอดทนได้นานกกว่ากัน แต่ดูเหมือนอเมริกาตอนนี้ลำบากอยู่นะ ภาษีแพง ค่าเงินดอลก็อ่อนนำเข้ายิ่งแพงไปอีก สีใช้วิธีเดินไปหา ทรัมป์ใช้วิธีให้เค้าวิ่งมาหา คนละแนวกันจริงๆ

ผลประโยชน์ทั้งนั้น ใครเป็นไงรู้กันหมดระดับผู้นำ

หาที่ปล่อยของแหละ

ประเทศที่ สี ไปเยือนหนนี้ล้วนแต่หวังให้เป็นเส้นทางเบี่ยงสินค้าไปยังสหรัฐ พวกประเทศเหล่านี้ต้องระวังให้ดีๆเพราะจะยิ่งขาดดุลต่อจีน(จีนส่งออกมายังประเทศ)และยังโดนสหรัฐเพ่งเล็งเพราะได้ดุลต่ออเมริกามากขึ้น(ประเทศนั้นๆเอาสินค้าจีนมาส่งออกในนามของประเทศ) นักการเมืองอาจจะชอบเพราะเห็นตัวเลขส่งออกพุ่งแต่ใส้ในแทบไม่ได้อะไร

แล้วถ้าอย่าง สี เหลือง