อยากชวนมาดีเบตเรื่องนี้ครับ

คือเห็นเวลามีคนถาม จะพัฒนาประเทศยังไง ก็มีแต่คนบอกให้พัฒนาการศึกษา ยิ่งทำให้คนเรียนจบสูง ๆ มากเท่าไหร่ ประเทศก็จะมีคุณภาพ

แต่ๆๆ

ทุกวันนี้หางานโคตรยากเลยนะครับ คนจบ ป.โท ลงมาแย่งงานคนจบ ป.ตรี คณะวิศวะจากสุดเท่ ตอนนี้มองไปรอบ ๆ วิศวะเตะฝุ่นเต็มไปหมด ยังไม่นับคณะกลางๆ อสบ. วทบ. ก็หางานดี ๆ ยาก

เลยอยากรู้ว่าตอนนี้การศึกษาประเทศเรามันแย่ หรือมันดีเกินไปกันแน่

มองว่า 2 ข้อนี้ต้องมองเป็นเรื่องเดียวกันแยกไม่ได้

การศึกษา+ตลาดงาน

งานจะมา คนต้องพร้อมก่อนครับ

เมื่อก่อน เราเป็นประเทศชั้นแรงงาน เพราะเรามแรงงานเยอะ ผู้ผลิตเลยแห่มากัน

ถ้าเราอยากเปลี่ยนประเทศเป็นประเทศด้าน เทค ไฟแนนซ์ หรืออุตสาหกรรมใหม่ๆ นอกจาก กฏหมายแล้ว แรงงานเราต้องพร้อมสำหรับทำงานด้านนั้นด้วยครับ ไม่งั้น นักลงทุนเค้าไม่มาแน่ๆครับ

หรือต่อให้ หางานใยประเทศไม่ได้ แต่ก็สามารถออกหางานต่างประเทศได้นิครับ

ตั้งเป้าหมายไว้ พัฒนาให้ถูกทาง ตรงตามเป้าหมาย ไม่มีตกงานหรอกครับ

ผมว่ามันแยกกันนะครับ

การศึกษาทำให้ประเทศดีขึ้นจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีงานทำ
การมีงานทำมันเกิดจากภาพรวมเศรษฐกิจ

ถ้าเศรษฐกิจดี หมายความว่า มีบริษัทที่ต้องการการเติบโตเพื่อให้มีรายได้มากขึ้นจึงต้องจ้างคนมาทำงานมากขึ้น ซึ่งบริษัทก็จะมี budget ในการจ้างคนเยอะตามเศรษฐกิจ ถ้าบริษัทเติบโต ประเทศก็มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี หมายความว่า บริษัทก็ต้องหยุดการเติบโตไว้ก่อน แต่ต้องพยายามรักษารายได้ปัจจุบันไว้ ทำให้มี budget น้อย ก็จ้างคนเยอะๆไม่ได้

แต่ถ้ามองในมุมของการเมือง การมีคนที่มีการศึกษาดี มีคนเก่ง มันก็ช่วยขับเคลื่อนประเทศได้แน่นอนอยู่แล้วครับ เพราะรุ้ว่าต้องบริหารประเทศอย่างไร (ถ้าไม่นับเรื่องการคอรัปชั่น)

สรุปว่ายังไงการที่ประเทศมีคนมีการศึกษาดีๆมันก็ช่วยพัฒนาประเทศได้อยู่ละครับ

แต่ถ้าถามว่าตอนนี้การศึกษาประเทศเรามันแย่ หรือมันดีเกินไป ตอบเลยว่าแย่ครับ

คำว่าพัฒนาการศึกษาก่อน มันไม่ได้มีแค่ในแง่การทำงานนะครับ

มันผลักดันคุณภาพชีวิตโดยรวมของคนในประเทศ ทัศนคติของสังคม

เอาง่ายๆ ถ้าคนมีการศึกษาปริมาณมากพอและเพียงพอ ไอ้พนันออนไลน์หัรือคอลเซ็นเตอร์มันไม่ระบาดแบบนี้หรอก

และเรื่องคุณภาพก็ต้องพัฒนา คุณดูคนใหญ่คนโตในประเทศเรา ระดับผู้ว่า สตง.บอกตึกถล่มเพราะฮวงจุ้ยไม่ดี

ผมมองว่าคนละเรื่องนะ ตลาดงานเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษาเรื่องสังคม

ทีนี้ก็ขึ้นกับว่าประเทศดีขึ้นมองมุมไหม ถ้ามองด้านสังคม ถ้าประชากรโดยรวมมีการศึกษาดี สังคมก็มีอารยะขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น

แต่ถ้ามองด้านเศรษฐกิจอาจจะไม่เกี่ยวกัน เช่น ประเทศญี่ปุ่น คนมีการศึกษาดี สังคมมีระเบียบวินัย แต่เศรษฐกิจก็ถดถอยโดนจีนเกาหลีแซง

การศึกษาทำให้ประเทศดีขึ้นจริงครับ เพราะถ้าคนได้รับการศึกษาเยอะ ก็จะทำให้คิดค้นสินค้าและบริการและนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นได้ เมื่อคิดค้นได้ก็จะทำให้สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันการค้าโลกได้ ถ้าคิดของที่ดีขึ้นมามันก็จะทำให้เอาไปขายต่างประเทศได้เยอะๆ ราคาดี กำไรดี และในโลกทุนนิยม เมื่อมีบริษัทที่กำไรดี ก็จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ที่เอาเงินมาลงทุนในประเทศได้มากขึ้น ช่วยให้เงินไหลเข้าประเทศเยอะขึ้นทั้งจากการขายสินค้า/บริการ และเงินไหลเข้าจากการลงทุนด้านการเงิน

จะมีใครเค้าอยากไปลงทุนในพื้นที่ที่ไม่มีสกิล/ความรู้ ในสิ่งที่เราอยากทำ

ทำไมเวียดนามเค้าถึงลงทุนไปกับการศึกษาสกิลด้านเทคโนโลยีเยอะ

ดูแค่พวกเจ้าของบริษัทเทค ใครอยากมาตั้งในไทย การศึกษาก็ยังวนเวียนอยู่กับความรู้เดิมๆ หลักสูตรก็ถูกควบคุมให้อยู่กับที่ยังงั้น ไหนจะไอ้รมตศึกษา อยากให้ศึกษาโมเดลเกาเหนือ

ไม่มีการศึกษาก็ไม่มีงานครับ

ไม่มีนักลงทุนที่ไหนมาลงทุจ้างงานดีๆในประเทศที่แรงงานชั้นต่ำหรอกครับ อย่างมากก็ได้แค่ unskill work ค่าแรงต่ำๆที่นับวันโดนแทนเด้วย technlogy หมดแล้ว

ถ้าคุณไม่พัฒนาบุคลากรก่อนก็ไม่มีงานอยู่ดีครับ

จบมากไม่มีงานตอนแรกๆรัฐก็ต้องสนับสนุนสว่วนนี้ก่อนคนแรกครับ ยอมตั้งโปรเจ็ค รัฐวิสาหกิจหรือ state owned businesses ก่อนโดนมีรัฐเป็นผู่ลงทุน เพื่อมีพื้นที่ให้บุคลากรชั้นสูงฝึกฝีมือครับ ผลพลอยได้คทอประเทศจะได้ product และอะไรใหม่ๆมาใช้ในราคาไม่แพงด้วย

ยกตัวอย่างสิ่งที่ก้าวไกลเคยเสนอเป็นนโยบายคือ startup ครับ เอารัฐไปลงทุน startup เล็กๆให้เกิดรัวๆ พวกนี้ต้องการ skillednworker ทั้งนั้นไม่มีเช้าชามเย็นชาม พอ startup เกิดเยอะๆนั่นแหละแหล่ง shppoing แรงงาน skilled worker

หลังจากนัันแหละถึงจะมีต่างชาติมาลงทุน

แล้วก็เลิกมโนว่าแรงงานชั้นสูงไม่ต้องมีการศึกษาสูง ไม่จริงเลยครัง คนที่ผ่านมหาลัยมาส่วนใหฯ่อย่างน้อยๆมี logic และความคิดที่เป็นระรบบกว่าพวกไม่จบเยอะ

สำหรับผมแล้วหางานที่แรกเน้นบริษัทใหญ่ก่อนตำแหน่งอะไรก็ช่าง เงินเดือนเท่าไหร่ก็ยอม ผมเองก็สตาร์ทหมื่นห้าร้อย เพื่อนๆไปหมื่นห้าพันกันหมด
ที่เหลือคือเรื่องของต่อยอดแล้ว อบรมสัมมนา เรียนรู้จากหน้างาน คุยกับเจ้านายที่เก่งๆ ลูกค้าเขี้ยวๆ

จุดสำคัญผมว่าตอนเปลี่ยนงานตามช่วงอายุ
10 ปีแรกผมเปลี่ยนไป 4 ที่ เร่งขยับให้พ้นจุดที่คนแข่งกันเยอะๆ
หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของความพอใจแล้วครับ ไม่ต้องขยับเยอะเน้นมั่นคง

ย้อนไปสมัยมหาลัยก็สำคัญนะ มหาลัยดังหลายๆที่เปิดรับภาคสมทบจ่ายแพงขึ้นนิดนึง พูดตามตรงว่ายังดีกว่าเรียนม.เอกชนที่ไม่มีชื่อเสียง หรือดีกว่ามหาลัยท้องถิ่น ราคาต่สเทอมก็ถูกกว่า
เรียนจบมาเป็นแต้มต่อไปชั่วชีวิต

การศึกษา​ไม่ได้มีแค่วิชาการ

การเรียนบางอย่างแค่ให้รู้ทันโลก มันก็พัฒนาคนขึ้นมากแล้วครับ

เอาวิชาที่มีประโยชน์​ในการใช้ชีวิตใส่เข้าไปบ้าง ไอ่พวกไร้สาระก็ตัดๆ มันออกไป

การศึกษาทำให้เห็นผลในระยะกลางถึงยาว เรื่องงานเรื่องปากท้องเป็นเรื่องปัจจุบัน

การศึกษาที่ดีทำให้คุณภาพประชากร และประเทศดีขึ้น เพราะ คนมีคุณภาพ การเมืองก็ดีขึ้น การตัดสินใจอะไรๆก็ดีขึ้น คิดเป็นระบบมากขึ้น ตกงานก็ยังหาลู่ทางมีอาชีพได้โดยไม่ต้องคิดแต่ว่าจะต้องเป็นลูกจ้าง หาช่องว่างของตลาดเก่งขึ้น gdp ของประเทศก็เพิ่มขึ้น

ถ้าคิดไม่ออกว่ามันดีขึ้นยังไง ลองไม่ให้การศึกษากับทุกคนดูสิ