ใครตามบ้าน-ออฟฟิศรังโจรของextream IT บ้าง
ทำไมมันดูมหากาพย์ขนาดนั้น พื้นที่ 1,000ตรม. ผมว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างจากพวก Home office ใหญ่ๆทั่วไปที่ขายกัน 20-30ล้านบาท บางที่เป็น 4-5ชั้นพร้อมลิฟท์ด้วย

ส่วนตัวจากที่ดู ผมแยกเป็น3ประเด็น
1. สเปค วัสดุ มันล้ำเกินไป
ทุกอย่างเป็น oversize หมดเลย
จากที่เคยทำงานบริษัทนำเข้า hardware furniture fitting ผมเข้าใจว่าในเมืองไทยมีคนรวย ที่ต้อใช้ของแบบ one of one นำเข้าเยอรมัน อิตาลี่ อยู่พอสมควร
แต่ส่วนใหญ่คนซื้อจะเป็นผู้รับเหมางาน interior มาเอาของเอง พร้อมคู่มือติดตั้ง ถ้าเทพๆเลยต้องจ่ายค่าตัวช่างมาจากเมืองนอกบินมา3วัน2คืน ค่าตั๋วบวกโรงแรมก็แสนนึงกลมๆ มาสอนช่างไทย แลกกับวัสดุมูลค่า5-6แสนบาท
ผมเคยเจอพวกงาน renovate โรงแรมใหญ่ๆ หรือออฟฟิศผู้บริหารฝรั่งโดยเฉพาะเยอรมัน พวกค่ายรถยนต์ ออฟฟิศสุดยิ่งกว่า สตง.

2. ดีไซน์ไม่จบแต่แรก
ผมว่าเป็นปกติของบ้านที่อั้นมาหลายปี อยากจะมีแบบนี้มานานแล้ว พอได้จังหว่ะก็จัดเต็ม แต่ดีไซน์เนอร์คิดตามไม่ทัน
สถาปนิกออกแบบตามไม่ทัน ไหลมาเข้าทางผู้รับเหมาก็เลยเป๋ไปเป๋มา
ผู้ควบคุมงานเห็นว่าใช้ youtuber เจ้าดังอยู่พักนึง ไม่รู้จบกันยังไง

3. มาตรฐานผู้รับเหมาไทย
ไม่มีเงินสำรอง เงินหมดก่อนรับงวดงานต่อไป หยุดงาน สับทีม หมุนเงิน ชักดาบ
ยิ่งเจอ2ข้อแรกไป งานช้ากว่าแผน ไหนจะฝนตกเยอะด้วย1-2ปีนี้
เจองานยากปากบอกว่าทำได้ไว้ก่อน

ใครอยู่ในวงการรับเหมาแล้วตามเคสนี้ รบกวนช่วยชี้แนะหน่อยครับ เผื่อวันนึงได้ทำบ้านในฝันของตัวเองครับ

ไม่จ้างพวกบริษัทสร้างบ้านดีๆไปเลยอ่ะ งบก็มีอยู่แล้ว แถมช่องดังเอาไปต่อรองเป็นสปอนขอส่วนลดได้อีก

ไม่รู้ว่าเค้าไปเลือกมายังไงนะ ผมจ้างบริษัทที่มีผลงานมาแล้วหลายหลังแล้วเลือกบริษัทที่เค้ารับทำแบบ Turnkey ด้วย

คือจบที่เดียว ทั้งแบบ ทั้งผู้รับเหมา ก็ไม่มีปัญหาอะไรจบง่ายๆสบายๆไม่จุกจิกจ่ายเงินตามงวด แบบมายังไงก็ไปยังงั้น

คุยแบบให้จบให้เคลียร์ก่อน ยอมเจ็บเรื่องแบบนาน ดีกว่ามาแก้จุกจิกหน้างาน

ส่วนเรื่องฝนบ้านผมก็ทำหน้าฝนนะ เค้าขึ้นโครงจากโรงงานเค้าก็ทำในร่มอยู่แล้ว

แล้วมาหน้างานมาทำต่อก็ทำในร่มหลบฝนเอา ไม่แน่ใจว่าพวกอ้างฝนนี่หาเรื่องดึงงานหรือเปล่าหรือยังไงมีผลแค่เล็กน้อยเองแค่ตอนขนส่ง

edit : ผมพูดถึงเฉพาะแค่บิ้วอินนะ แต่ถ้าเรื่องทำบ้านหน้าฝนก็มีปัญหาอยู่พอสมควรถ้าช่วงแรกโครงสร้างยังไม่เสร็จ
แต่ถ้าถึงคลุมหลังคา งานสถาปัตย์แล้วมีผลน้อย

ผู้รับเหมาทิ้งงานมันจะมีอยู่สองประเภท 1.พวกตั้งใจทิ้งตั้งแต่แรก 2.พวกที่ทำแล้วพอเห็นว่าจะไม่ได้กำไรหรือกำไรน้อยก็จะทิ้งเลย

พวกแรกคือมันคำนวณแล้วว่ามันจะได้กำไรในช่วงแรกแน่ ๆ

งานก่อสร้างช่วงแรก ๆ มันไม่ค่อยมีอะไรหรอก มีงานฐานรากเป็นหลักมันจะเริ่มปัญหาเยอะตอนที่กำลังจะส่งงานเพราะมันต้องเก็บงานให้เรียบร้อย ผู้รับเหมาส่วนใหญ่มันก็จะทิ้งกันช่วงนี้แหละ

บ้านถ้าสร้างเท่าที่เห็นของคนรู้จัก บานตลอดเลยครับ

เจ็กผมเปลี่ยนผู้รับเหมาไป 2 รอบ เพราะทำช้า นึกว่าจะเสร็จตั้งแต่ปีก่อน ปีนี้ยังไม่เสร็จ ยังไม่ได้ตกแต่งภายในเลย งบเกินที่ตั้งไว้เรียบร้อย ยังไม่ทันได้ตกแต่งภายในเลย

อี๊ผมอีกคนคนนี้ก็งบบาน เพราะมีเปลี่ยนตัวบ้านจากแบบบ้าง มาถึงขึ้นตอนตกแต่งภายใน ก็เด้ง interior designer ไป 3 รายแล้ว จ่ายค่าแบบค่าปรึกษาฟรีๆทิ้งไปหลายแสน เพราะบางทีคุยไม่ถูกใจบ้าง ติดต่อยากบ้าง บางเจ้าก็เสนองานตกแต่งเป็น สิบล้าน แต่รายละเอียดมีกระดาษ 2 แผ่นงี้ ปวดหัวแทน

ส่วนใหญ่ ผรบ รายเล็กๆ รวมไปถึง sub con รายย่อยๆ ปัญหามีไม่กี่อย่าง

1.งานห่วย จนเบิกไม่ได้
2.คนงานหนี ไม่มีเงินจ่าย
3.รับคนเน้นปริมาณ รับช่าง แถมลูกแถมเมีย

วนกลับไปข้อ 1 ใหม่

สุดท้าย แอบไปรับงานที่อื่น งาน 2 แคม เอาเงินมาจ่ายคนงาน วนไป

ยิ่งเจอเคส ปล่อยลูกน้องทำงาน เจ้าของนอนตีพุงในออฟฟิศ เรียบร้อย เข้างาน 8 โมง กินข้าวถึง 9 โมง 11 โมงเก็บของพักเที่ยง บ่าย 3 เก็บของกลับบ้าน งานจะเสร็จกี่โมง 5555

จริงไหมครับ ที่ต้องแยกผู้รับเหมาให้เยอะเจ้ามากที่สุด เพราะไม่มีใครมีเงินมากพอมาหมุนโครงการ 6-12เดือน

1.เสาเข็ม
2.พื้น
3.โครงสร้าง เสา+พื้นคาน+บันได-หลังคา
4.ผนัง+ฝ้า+กระเบื้อง
5.ไฟฟ้า - cctv - network
6.น้ำประปา น้ำเสีย ส้วม
7.กระจก-ประตู
8.ทาสี
9.ครัว
10. build in

ข้อ1 ไม่น่ามีปัญหา เงินถึงหาได้หมด
ข้อ2/3สลับๆกันไป บางทีก็ออกแบบไม่จบ แก้หน้างานตามใจเจ้าของเยอะ งบก็บานเรื่อยๆ กับผรม.วางแผนงานไม่ดี คุมงบไม่ได้ ทำๆหยุดๆบานทั้งงบและเวลา

ปกติเงินมันเบิกตามงวดความก้าวหน้างานนะครับ ไม่น่ามีเจ้าไหนยอมทำจนจบหลังแล้วค่อยเบิกครับ
แล้วถ้ามีหลายทีมเจ้าของบ้านคุมกันตาเหลือกอ่ะครับผมว่า น่าจะต้องมีผู้รับเหมาหลัก 1 ราย แล้วก็มี consult ช่วยคุมอีกทีครับ มันต้องมีคนดูความเรียบร้อยโดยรวมแล้วคอยจัดคิวช่างครับ ไม่งั้นทีมนี้เข้าทีมนี้เข้า อะไรมาก่อนมาหลังทีมแยกไม่สนใจหรอก เอางานทีมกุเสร็จพอ

แต่ในอีกแง่ บางเรื่องก็ต้องเป็นทีมเฉพาะที่เก่งด้านนั้นไปครับ เราก็จะมั่นใจคุณภาพงาน แล้วทีมเฉพาะด้านนี่ไม่รับงานนอกความถนัดตัวเองนะครับ ผมเคยถามทีมฝ้าว่าให้ทาสีฝ้ามั้ย เค้าไม่ทำ พอจะให้ทีมปูพื้นไม้ซ่อมทำสีบิ้วอิน ก็ไม่ทำ หรือช่างไฟผมบอกให้ทำห้องน้ำได้มั้ย เค้าบอกเค้าไม่ชัวร์ไม่ได้รับประจำตีราคาไม่เป็น

ส่วนตัวตอนสร้างบ้าน จะว่าโชคดีก็ได้ที่ไม่เจอ ผรม แย่ๆ แต่... ก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร กลางๆตามราคาละกัน

ปัญหาเรื่องเงินไม่เจอ เนื่องจาก ผรม บ้านรวย ทำเอาแพสชั่นล้วนๆ ขนาดบ้านเสร็จยังค้างเงินกว่า 50% ที่เค้ายังไม่ได้เบิก

ที่แย่คงเป็นช่างสี ที่เค้าหามา งานไม่เนี้ยบเลย มาเซงเอาช่วงท้ายนี่แหละ

โดยทั่วไปงานรับเหมาจะมีเงินอยู่10% เป็นค่ามัดจำในสัญญา

หมายความว่า มีทุนรับงานแค่ 10% ก็พอที่จะทำงานในหมวด 1-3 ได้

ซึ่งปกติจะเบิกหลังจากส่วนงานโครงสร้างแล้วเสร็จ(เบิกก่อนหรือหลังก็ได้)

ถ้าตามหมวดที่ท่านแยกมาเบิกงวดแรก30-40% ก็มีงานต่องานสภาปัตย์ได้เลย

งวดต่อไปก็งานระบบ ส่วนประดับต่างๆ ถ้าทำตามหวดงานทั่วไปได้ ไม่มีปัญหาเลยครับ

ปล.ทำงาน10%แล้วเบิกเลยก็ได้ ไม่ต้อรอเสร็จทั้งหมดตามหมวดงาน

เปิดผ่านๆต้นๆคลิปแรกกับคลิปสุดท้าย

ข้อ 1 เงินถึงก็ทำได้หมดแหละ ส่วนมากที่เห็นคือ ให้ ผรม.ทำเขาก็คิดค่าดำเนินการด้วย ส่วนมากก็จะขอตัดงานแล้วมีปัญหา

ข้อ 2 ปัญหาคือไม่มีแบบที่ดีที่สุดหรอก ถ้าเจ้าของบ้านไม่สรุปความคิดแบบก็ไม่มีวันจบ เห็นอะไรใน pinterest ก็เอามายัดใส่แบบ ปะติดปะต่อ อันนั้นปัญหาทั่วไป แต่พอดูคลิปตะกี้ เออ ก็น่าเห็นใจอยู่ ไม่วิจารณ์แบบคนอื่นละกัน

ข้อ 3 คิดว่าคงตามราคาครับ ช่างรับต่อเติมที่แปะตามเสาไฟฟ้า ทุนไม่เยอะหรอก รับงานเล็กๆ มารับใหญ่ขึ้น เจอเจ้าของดึงเงินให้แก้งานงวดนึงก็ตายแล้ว ไม่มีเงินหมุน ออกแบบเสร็จลูกค้าให้แนะนำ ผรม. ผมว่าผมรู้จักผรม.ที่ไว้ใจได้ ยังไม่กล้าแนะนำให้ใครเลย เสียทั้งสองทางบางทีทำงานไม่ถูกใจ เจ้าของมาตรฐานสูงกว่า ไม่ก็เบี้ยวเงินกันดื้อๆ ผรม.ดีๆก็กลัวลูกค้าโกงเงิน

เอาจริงคือแกแก้แบบด้วย จริงๆการทำไปแล้วทุบ ทำผนังเสร็จแล้วทุบเพื่อเพิ่มหน้าต่าง มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แล้วมันจะไม่แข็งแรงด้วย

ทำเสร็จอล้วก็จะมีรอยแครกอีก ก็ต้องซ่อมแซมกันต่อ

เคยดูผ่านๆ เหมือนเจ้าของบ้านเปลียนไปเรื่อย คิดไม่จบ
ส่วนคอนซัลท์นั้นผมรู้จักอยู่

เป็นปัญหาของลูกค้าหรือเจ้าของบ้านที่ไม่มีคนกลางในแต่ส่วนงาน
ส่วนงานแรก งานออกแบบ ต้องสรุปให้จบในแบบทั้งโครงสร้าง , ตกแต่งภายในและงานระบบไฟฟ้า ประปา แอร์ ต่างๆ
ส่วนงานถัดมา งานควบคุมการก่อสร้าง ต้องมีวิศวกรหรือผู้ควบคุมงานที่เชี่ยวชาญในแต่ละระบบ เวลาอยู่หน้างานจะสามารถแก้ไขปัญหาการก่อสร้างได้ และช่วยตรวจสอบการเบิกจ่ายงวด ตามงานที่ติดตั้งจริงๆ
ส่วนสุดท้าย การตรวจรับงาน ต้องหาทีมที่มีประสบการณ์ มีการทำ check list ให้ทั้งเจ้าของบ้านและผู้รับเหมา สำหรับงานแก้ไข
สุดท้าย เริ่มต้นของงานผู้รับเหมาทุกเจ้ามีความสามารถในการทำงานตามแบบได้ใกล้เคียงกัน แต่ต่างกันตรง ประสบการณ์ในการก่อสร้างให้งานจบตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยน