Top Comment [RE: ยุคทองสถานีชาร์จ? แท็กซี่รอเปลี่ยนไฟฟ้า 20,000+ คันกับเหตุผลที่ลงทุนตู้แรง-ใหญ่สุดในไทย! - [ที่สุด]]
ที่บ้านเคยทำอู่แท็กซี่ เห็นข่าวนี้ก็เลยกลับมาคิดดูว่ามันจริงมั๊ย (มองว่าเป็น PR ของแบรนด์ขายที่ชาร์จมากกว่า)
แท็กซี่รอเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า 20,000 คัน+ > อันนี้ไม่จริง
แล้วข้อเท็จจริงคืออะไร ?
> รถแท็กซี่เตรียมปลดป้ายเนื่องจากหมดอายุ 10/12ปี ในช่วงนี้ ประมาณ 20,000 คัน เป็นเรื่องจริง
> ไม่ใช่ทุกคันที่หมดอายุแล้วจะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า
> รถแท็กซี่ที่ยังไม่หมดอายุ (ปี 2016-2019) ยังมีค้างในระบบอีกมาก ที่จอดไว้เฉยๆ ไม่มีคนเช่าขับ
> ยอดขายแท็กซี่ขาลงคือช่วง 2019 ที่ Altis ปรับเป็นโฉม TNGA ที่จะขายได้น้อย
> โอกาสที่แท็กซี่จะเปลี่ยนแบบจำนวนมหาศาล คือช่วงประมาณปี 2030 +/- นิดหน่อย
ยอดขาย Altis ช่วงปี 2013-2015 แท็กซี่คิดสัดส่วนประมาณ 20% ก็จะได้ราวๆ 20,000 คันพอดี
Spoil
- 2013 35260 คัน แท็กซี่คิดสัดส่วน 20% = 7050 คัน
- 2014 36593 คัน แท็กซี่คิดสัดส่วน 20% (แต่จากรายงานข่าวบอกไม่เกิน 7000 คัน)
- 2015 36503 คัน แท็กซี่คิดสัดส่วน 20% = 7350 คัน
ทั้ง 3 ปี รวมกันก็จะได้ประมาณ 20,000 คัน
ทำไมอู่หรือสหกรณ์แท็กซี่ถึงเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าในช่วงหลังปี 2020 ?
> อันนี้ผมก็ตอบไม่ได้เพราะออกจากธุรกิจนี้มานานมาก
> อาจจะได้ข้อเสนอที่ดี จากค่ายรถไฟฟ้า เลยตอบรับข้อเสนอ
> คนขับอาจจะชอบใจที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่เรื่องรถพังเป็นปัญหาของอู่
> โครงการ Altis Hybrid Limo (เกรดต่ำกว่า Hybrid Smart ขายแต่แท็กซี่) ออกมาทดลองตลาดได้พักนึงแล้วเงียบหายไป
> Altis TNGA บำรุงรักษายากกว่ารุ่นเดิม แบตลูกเล็กหมดไวมาก ลูกปืนล้อพังไว(กว่าเดิม)
> ผู้โดยสารรู้สึกนั่งไม่สบาย (จริงๆ โฉม TNGA ขับดี นั่งทางไกลสบายไม่เวียนหัว แต่แท็กซี่แค่นั่งใกล้ๆ จะอึดอัดหน่อย)
อนาคตจะเป็นยังไง ?
> คงต้องดูโตโยต้า จะเดินเกมยังไง
> Hybrid+LPG กฎหมายออกมาแล้ว ว่ารถไฮบริดจะไปติดแก๊สจะทำไม่ได้แล้วถ้าไม่ได้ออกมาจากโรงงาน (แต่ตอนนี้ยังพอจะรีบไปจดกันได้อยู่)
> กระแสตอบรับ Taxi ญี่ปุ่นที่เคยเอามาโชว์ตัว คงจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะมองถึงตอนปลดป้าย คนซื้อไปใช้คือภาพลักษณ์แท็กซี่ติดตัว
> ถ้าทำ Altis Hybrid+LPG ยังพอมีโอกาสขายได้ แต่ต้องรอโฉมหน้าเลย ว่าหลังคาจะลาดลง นั่งไม่สบายอีกไหม
> ถ้าที่บ้านผมยังทำแท็กซี่อยู่ คงไม่ไปรถไฟฟ้าแต่เอาไฮบริดแทน (อาจจะต้องดูกระแสจากคนขับรถอีกที)