ผมนี้ห้ะเลยย บอกแผนไม่ใช่ปัญหา แต่แท้กติกคือปัญหา ทั้งๆที่แท้กติกก็คือส่วนนึงของแผน

เมื่อคุณว่าแผน 3-4-3 นักเตะมันก็จะยึดฟอร์เมชั่นนั้นเป็นที่ตั้งอยุ่แล้ว ไม่ใช่ 3-4-3 ด้วยซ้ำ ที่จริงคือ 5-2-3

โง่ๆเลย บิ้วอัพไม่ได้ กลางสู้ไม่ได้อีก เพราะมีแค่ 2 เขามี 3

คุณภาพผู้เล่นก็ด้อยกว่าในบางต่ำแหน่ง เช่น เลิฟ บายินดี

ผู้เล่นที่ดีที่สุดในทีม ควรจะได้ลงในต่ำแหน่งที่ถนัดที่สุดคือเบอร์ 10

อันนี้ต้องมาเล่นเบอร์ 8 ในระบบกลาง 2 บ้าง ดันไปเป็นหน้ากึ่งปีกบ้าง จะคงเวิคหรอก

ใครบอกแผนไม่มีปัญหานี้นั่งถกกะผมได้ทั้งวัน

หน้ากระดาษยังงู้นยังงี้ ว่าฟอร์เมชั่นไม่ใช่ปัญหานี้ หนักละ

อันนี้ แผนยืนหลัง 4 ในฟอเมชั่น เทนฮาก สุดท้าย ใน เฟสเกม ก็ยืนหลัง 3



อันนี้ ของ อาเซน่อล เฟสฟูลเพลส เขาก็ยืน หลัง 3

ผมถึงบอกว่า ถึงเจาจะส่ง ฟอแมชั่น หลัง 4 ในเกม เขาก็ยืนหลัง 3 เหมือนกัน


อันนีั คือสิ่งที่เรึยกว่า อิน ดีเทล รายละเอียด การยืน ในช่วง transition ระหว่างเกมครับ

ละตอนบิัวอัพ




กลางมี 3 คนแล้วครับ เพราะดัน เลิฟ ขึ้นไป เป็นกลางรับบอลอีกคน กลายเป็น อูกาเต้ เลิฟ อิลิคเซ่น

แต่ติดที่คนรับบอลตรงกลาง เป็นอูกาเต้ กับ เลิฟ นี่แหละ บอลมันเลยบิ้วจากตรงกลางไม่ได้ คุณภาพมันไม่ได้

มันเลยต้องโดนบีบ ออกวิงแบค เข้า pressing trap ของนิว สุดท้ายวนกลับมาใหัโกลเตะทิ้ง

ไม่ก็ต้องเห็นบรูโน่ลงมาเอาบอล แล้ว โยนขึ้นหน้ามั่วๆ


ถ้าคุยอินดีเทล แบบนีั ผมก็คุยได้ทั้งวัน เพราะ มันเป็นปัญหารายละเอียด

แต่ถ้า เอะอะ ร้อง หลัง 3 หลัง 3 ผมว่าเสียเวลาคุย

อันนี้มันส่วนน้อยในเกมครับ แต่หลักๆคือฟอร์เมชั่นการยืน 80% ของเกม

มันมายืนกองกันอยุ่หลัง 5 ตัว กลาง 2 หน้า 3

มันทำให้การต่อบอลบิ้วอัพสู้ไม่ได้เพราะตัวกลางมันน้อยกว่า

ถ้าให้เลิฟขึ้นมาเป็นกลางตัวที่ 3 ประมาน 80% ของเกมแล้วต่อบอลสู้กลางนิวไม่ได้ ค่อยโทษคุณภาพผุ้เล่น

ไม่แปลกใจหรอที่แฟนแมนยูบ่นว่า ตัวรุกน้อย ไม่มีตัวจ่าย กลางต่อบอลสู้ยาก โดนรุมกินโต๊ะตลอด ก็เพราะว่า 80 % ของเกมตัวผู้เล่นมันกองอยุ่หลังหมดมากกว่าทีมอื่น 1 ตัว ตามฟอร์เมนชั่นที่ยืน ตัวรุกเลยเหลือน้อย

ผมแปะรุปใส่แบบนี้ไม่เป้น เลยไม่สามารถโชว์จังหวะต่างๆได้เฉยๆ

ลองคิดง่ายๆ ถ้าสลับให้นิวคาสเซิล ไปเล่นหลัง 3แทน ส่ง เอมิล คราฟลงมาเป้นเซนเตอตัวที่ 3 แทนกลาง 1 คน สมมติว่าแทน โตนาลี่ก็ได้

คราวนี้กลางนิวก็อ่อนลงละ เพราะเหลือ 2 ตัว เพราะว่า 80% เอมิล คราฟจะต้องยืนในระบบหลัง 3 ร่วมกับ เบินกะแชร์ ไม่ใช่ 10-20% ตามรูปที่แปะมา

ที่ต้องยืนหลัง 5 เพราะ โดนนิว บุกใส่ครับ shape เกมรับ มันเป็นแบบนั้น

ที่โดนนิวบุกใส่ เพราะไม่สามารถบิ้วเกมขึ้นหน้าได้

สุดท้ายจบที่ บายินดี เตะทิ้ง ไม่ก็บรูโน่เตะทิ้ง

นิวเลยรีไซเคิลบอลมาบุกใส่ได้เรื่อยๆ

ทำให้แมนยูต้องยืนอยู่ใน shape เกมรับ 5-2-3 เกือบตลอดเวลา

เพราะหลุดจาก phase บิ้วเกมหน้าโกลตัวเองไม่ได้

ถ้าบิ้วขึ้นไปได้ หลุดเพลสนิวไปได้ มันก็ transition ต่อ ไปยืน 3-2-5 แบบทีมอื่นในพีเมีย เหมือนกัน

ส่วนทำไมหลุดจากเฟสบิ้วหน้าโกลไม่ได้ ก็อย่างที่ผมบอก คือ เลิฟ กับ อูกาเต้ รับบอลตรงกลางไม่เก่ง

บอลมันเลยต้องออก วิงแบคไปติด กับดักเพลสของนิว บอลหมุนเป็นตัว U

แถมไม่มีกองหลังที่จ่ายบอลเข้าตรงกลาง ได้ดีๆ แบบ อินาซิโอ้ ที่ ลิสบอน

ของแมนยูมีคนทำได้แค่ เฮฟเว่น กับ มาติเนสครับ

บอลมันเลยวนกันเป็นตัว U เพราะงี้แหละ มันเลยหลุดจาก build up phase หน้าโกลไม่ได้

เลยต้องโดนบุก ยืน 5-2-3 ตลอด เวลาไม่มีบอล

ถ้าคุยกัน อินดีเทล แบบนี้ผมไม่เถียงเลยว่าไม่มีปัญหาจริงๆ

อิน ดีเทลอะไรครับเนี่ย คุณใส่กองหลังมา 3 คุณก็จะได้ทักษะกองหลังตัวนั้นมา ไม่ได้ทักษะกองกลางมา

เลิฟมันจะไปรับบอลตรงกลางเก่งได้ไง หน้าที่มันคือเกมรับ สกัดบอล คุมแผงหลังตรงกลาง

ถ้าคุณใส่แผน 4-2-3-1 มา คุณก็จะได้ ไมนูมาเล่น ไม่ใช่เลิฟ

คราวนี้ก็จะรับบอลได้ พลิกบอล ครองบอลสู้นิวได้ (ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่มันจะมีตัวเพิ่มมารับบอล จ่ายบอล เคลื่อนบอลขึ้นหน้าได้ มากกว่าดันเลิฟมาเล่นอะครับ บอกแค่นี้ )

ดีกว่ากองๆกันอยุ่หลัง 5 คน

ต่อให้เอากองหลังที่คุณว่ามาเล่น แต่กลางยังมี 2 คน กองหลังคนนั้นส่งทะลุมาให้บรูโน่ได้ คุณก็จะโดนกลางนิวคลาสเซิลทั้ง 3 รุมกินโต๊ะอยุ่ดี อาจจะไม่ 100% แต่ก็ 80 % 2 คนมันสู้ 3 คนไม่ได้ครับ

* ถ้านิวส่งเอมิล คราฟมาก็จะได้ทักษะกองหลังของเอมิล คราฟ ไม่ไช้ดัน เอมิล คราฟ ขึ้นมา บางช่วงของเกม แล้วจะได้ทักษะของโตนาลี่ ที่โดนดร้อปไป จากการวางฟอร์มเมชั่น หลัง 3

ท่านเข้าใจมั้ยครับ ผมเริ่มเหนื่อยอธิบายละ

ผมพอจะเห็นด้วยแค่ lindelof ทักษะพลิกบอลขึ้นหน้าไม่ได้เก่ง แต่หน้าที่หลักของ pivot มันไม่จำเป็นต้องได้บอลแล้วพลิกหลับอย่างเดียว

แล้วการที่คุณยังนับกลางได้แค่ 2 อีกแปลว่าคุณไม่เข้าใจละ

ถกกะผมหน่อยครับ อยากได้ความรุ้ใหม่ๆบ้าง ที่ยกตัวอย่างลินเดเลิฟ เพราะ เขายกมาว่า เลิฟรับบอลไม่เก่งทำไรไม่ได้ ผมเลยบอก ก้อส่งลงมาเอง 55

ที่คุณเถียงกับอีกคนอ่ะผม ไม่รู้ว่าคุณคุยเข้าใจตรงกันหรือป่าวแต่ linderlof หรือ maguire ขึ้นไปเป็น pivot แค่ตอน build up ตอน goal kick

เพราะ onana มันช่วย build up ด้วย เป็น cb คนที่ 3

ก็เขาเอารุปเฉพาะตอน 10-20% ของเกมมาถก ผมก้อถกตามนั่น แต่ 80% ตอนยืนหลัง5 แล้วมันสุ้ไม่ได้ กลางเหลือ 2 เขาไม่ถกกะผมเรื่องนี้อะครับ แล้วก้อหายไปละด้วย ไม่ถกต่อ อาจจะขี้เกียจถกกะผม เพราะผมดื้อ เถียง55

เอางี้ผมเอาคลิปแบบ fan view มาเลยมันจะได้จบๆ

อันนี้ build จาก gk


อันนี้กลางสนาม




แผนที่เป๊ปใช้จนเทพมันก็ล้อมาจาก 3-4-2-1 นี่ละคับ มันอยู่ที่ว่าตอนฝึก อโมริมสอนยังไงให้นักเตะไม่สามารถมองเห็นได้

หรือถ้าคุณจะบอกอโมริมใช้ วิงแบค ไม่ใช่ปีก แต่คุณอย่าลืมนะตอน lisbon อโมริมก็ใช้ปีกไปยืนตำแหน่ง wingback เหมือนกัน

เค้าสัมภาษณืตั้งแต่ก่อนคุมนัดแรกแล้วว่าจะให้แบคไปยืนก่อน เพราะมันฝึกง่ายกว่า การให้ปีกไปยืน

นั่นแหละ ผมพยายามอธิบายละ แต่ว่า เข้าใจไม่ตรงกัน ผมก็เลยไม่อยากคุยต่อ จะทะเลาะกันเปล่าๆ

จริงละ คงพูดกันคนละเรื่องละ ผมถกเรื่องฟอเมชั่นการใส่ตัวลงมายืน ต่ำแหน่งการยืนต่างๆ สุ้กัน 90 นาที โดนเบี่ยงมาเรื่องบิ้วอัพ หน้าโกล

โดยทีมที่เล่นหลัง4 ด้วยนะ ชอบดูแต่ผลลัพตอนที่ไม่เวิค ไม่ลองมองถึงต้นตอขึ้นการเล่นที่มันทำให้ไม่เวิคด้วยซ้ำ ผลงานก็เหนชัดๆแบบเดิมๆ แพ้แบบเดิมๆ ไม่มีทางที่จะกดเขาได้ตั้งแต่เริ่มเกม ต้องกากก่อนแล้วค่อยมาฮึดเอาตอนโดนนำ