เอดู อดีตผู้อำนวยการกีฬา "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ได้เขียนข้อความอำลาถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมอย่างเป็นทางการ พร้อมอธิบายถึงสาเหตุของความล่าช้าในการประกาศอำลาสโมสร ทั้งที่ออกมาประกาศยุติบทบาทตั้งแต่เมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา


เอดูเข้าร่วมทีมในปี 2019 ในตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิค ก่อนจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรเมื่อ 3 ปีหลังจากนั้น

เขาได้ถูกแทนที่โดย อันเดรีย แบร์ต้า อดีตผู้บริการของแอตเลติโก้ มาดริด และมีข่าวลือว่า เอดู อาจเข้าร่วมงานกับ อีวานเจลอส มารินาคิส เจ้าของทีม นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เพื่อบริหารอาณาจักรฟุตบอลของเขา

ล่าสุด เอดู ออกมากล่าวอำลาสโมสรอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า

"ขอบคุณอาร์เซน่อล ขอบคุณเดอะ กันเนอร์ส" เอดู กล่าว

"ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ วันนี้ผมขอปิดฉากหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความหมายมากที่สุดในชีวิตการทำงานของผมอย่างเป็นทางการ"

"หลังจากเกือบ 5 ปีกับอีก 6 เดือน การเดินทางของผมในฐานะผู้อำนวยการกีฬาของ อาร์เซนอล เอฟซี ได้สิ้นสุดลงแล้ว"

"ผมเข้าร่วมสโมสรในเดือนกรกฎาคม ปี 2019 ในฐานะผู้อำนวยการเทคนิค ด้วยภารกิจที่จะพาอาร์เซน่อลกลับไปอยู่ในจุดที่สมควรจะอยู่ ในกลุ่มทีมชั้นนำของฟุตบอล เปลี่ยนวัฒนธรรมของสโมสรใหม่ มุ่งมั่นคว้าถ้วยรางวัล และทำให้การผ่านเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกกลายเป็นเป้าหมายขั้นต่ำที่สโมสรขนาดนี้ควรทำได้"

"ต่อมา ผมได้รับเกียรติให้เป็นผู้อำนวยการกีฬาคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมจะภาคภูมิใจตลอดไป"

"และในกระบวนการสร้างทีมใหม่นี้ พวกคุณแฟนบอลคือตัวแปรสำคัญของทุกสิ่ง"

"สำหรับแฟนบอล ผมขอขอบคุณจากใจจริง การสนับสนุน พลังงาน และความสัมพันธ์ที่เรารู้สึกได้อีกครั้งในทุกนัดมันช่างพิเศษจริงๆ"

"เอมิเรตส์กลายเป็นเวอร์ชันที่ดังกึกก้องของบรรยากาศในไฮบิวรี่เก่า การได้สัมผัสมันไปพร้อมกับพวกคุณคือสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืม"

"ถึงเจ้าของทีม สแตน และ จอช โครเอนเก้, คณะกรรมการ, มิเกล, นักเตะ, ทีมโค้ช, แพร์, แคลร์, ทีมบริหาร, ทีมงานเบื้องหลัง, ทุกคนที่ทำงานที่เอมิเรตส์ และโดยเฉพาะผู้คนที่ต้อนรับผมอย่างอบอุ่นใน Director's Box ขอบคุณสำหรับความร่วมมือและความเมตตาตลอดหลายปีที่ผ่านมา"

"มันไม่เคยง่ายเลย แต่การทำงานอย่างหนักร่วมกันด้วยจิตวิญญาณของทีม ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจและเติมเต็มตลอดช่วงเวลานี้"

"(เหตุผลที่ผมเพิ่งโพสต์ข้อความนี้ก็เพราะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมอยู่ในช่วงพักร้อน และด้วยความเคารพต่อสโมสรและทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผมจึงเลือกที่จะรอจนถึงวันสุดท้ายของสัญญาอย่างเป็นทางการก่อนจะเผยแพร่ข้อความนี้)"

"ผมขออวยพรให้อาร์เซน่อลประสบความสำเร็จและมีความสุขอย่างเต็มที่ และขอส่งความปรารถนาดีไปยังผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ อันเดรีย แบร์ต้า ที่จะมารับช่วงต่อในบทบาทที่งดงามนี้"

"ผมจากไปด้วยหัวใจที่สงบ และความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาด้วยกัน ขอบคุณมากครับ"

ขอบคุณเอดูเช่นกันครับ ทำให้สโมสรกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง มีดีบ้าง พลาดบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไอ้พวกซานเญอี หลายขุมเลย

ชอบแนวทางการเลือกนักเตะ นิสัยต้องได้ mindset ต้องได้ มีใจอยากย้ายมา ทำให้เราได้เห็นถึงเอนเนอร์จี้ของนักเตะในสนามอีกครั้ง ไม่ใช่พวกโดนนำแล้วฝ่อ

ขอบคุณเอดูเช่นกันครับ ทำให้สโมสรกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง มีดีบ้าง พลาดบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไอ้พวกซานเญอี หลายขุมเลย

ชอบแนวทางการเลือกนักเตะ นิสัยต้องได้ mindset ต้องได้ มีใจอยากย้ายมา ทำให้เราได้เห็นถึงเอนเนอร์จี้ของนักเตะในสนามอีกครั้ง ไม่ใช่พวกโดนนำแล้วฝ่อ

อ่อ ที่ไม่แต่งตั้งคนใหม่ เพราะรอเอดูหมดสัญญาหรอกเหรอ

เอดู คือหนึ่งในทีมงานที่ช่วยให้ปืนกลับมาจากยุคมืด

เครียร์ผู้เล่นที่ไม่ได้ใช้งาน ค่าเหนื่อยแพง แก้ปัญหาผู้เล่น ถึงจะมีปัญหาการปล่อยผู้เล่นที่ไม่ได้ราคา รวมถึงปล่อยฟรี
การดึงแพคชั่นของทีมงานหลังบ้าน การเชื่อมต่อกับแฟนบอล
การตัดสินใจนักเตะ ในการดีล การพูดคุย ทัศนะคติของตัวนักเตะเป้าหมาย

อาจจะไปกันไม่สุดทาง แต่ก็ขอบคุณ เอดู มาก มีอิทธิพลในทีม

ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะเอดู

อนาคต หวังว่ามีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกครั้ง

โชคดีครับ

เยี่ยมยอด
1.การรั้งนักเตะ ต้องบอกว่ารั้งนักเตะคนสำคัญได้หมดทุกคนไม่มีพลาด มีฝีมือ ต่อสัญญาได้หมด ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำได้
2.นโยบายดันดาวรุ่ง ซึ่งเสี่ยงมากๆ ในตอนนี้ถ้าพลาดอีกสโมสรจะดิ่งลงเหว
3.เลือกและมั่นใจต้า ซึ่งเสี่ยงมากๆ เช่นกัน ในการเลือก ผช. โค้ชที่ไร้ประสบการณ์ สองตอนต้าแพ้รัวๆ ยุคเปเป้+วิลเลี่ยน ก็ซื้อใจโดยต่อสัญญา โค้ชบางคนปลิวละ แสดงถึงความไว้ใจเชื่อใจฝีมืออารเตต้ามาก ซึ่งต้องใช้การมอง วิสัยทัศน์สูง
4.นโยบายเคลียร์ dead wood เลือกนักเตะจากอายุ แพชชั่น ผลงานแทน และโล๊ะออกได้หมด2-3ปี
5.มุ่งเป้าหมายสำเร็จของทีม ไม่มีนอกมีใน ทำงานเป็นระบบ มีจัดตั้งทีมมอยหมายหน้าที่ชัดเจนกว่าคนก่อน

ดี
-นโยบายสร้างวัฒนธรรมสโมสร รื้อแพชชั่นกลับมา
-ทั้งหมดต้องใช้วิสัยทัศน์สูง ซึ่งเอดูมี
-การเลือกตัวนักเตะ เจรจาทำได้ดี แต่ต้าเลือกตัวดีกว่า
-สนับสนุน ผจก. และเป็นผู้ Supporter ผู้จัดการ+สต๊าฟทีมหลังบ้านที่ดี หาตัวตามที่ต้าต้องการสุดฝีมือ

แย่
1.ขายนักเตะได้ราคากาก บางทีปล่อยยืม หรือขายได้ราคาไม่เคยได้เกินคาด เป็นไปตามคาดเท่าไรก็ได้ท่านั้นบางทีได้น้อยกว่า มีบาโลกกุน เอ็ดดี้ สมิธโรว์ ที่ขายดี นอกนั้นไม่ราคาต่ำ ก็ปล่อยฟรีเอาเคลียร์ค่าเหนื่อย
2.ทักษะการเจรจา/ต่อรองไม่เคี่ยว ส่วนหนึ่งมาจากนิสัยสร้างเครือข่าย ปรองดอง ได้ราคาที่ค่อนข้างแพงหลายตัว แต่ไม่ยังดีไม่ค่อยมีแพงเวอร์ สมกับฝีมือหลายคน
3.การเน้นความสัมพันธ์คอนเนคชั่น ปรองดอง บางทีก็เป็นผลเสียในการเจรจา เช่น เคส ตอร์เรร่า มั่วแต่ตามใจนักเตะที่งอแงจนขายไม่ได้ราคาในเวลาต่อมา จะให้ฟิออไปคุยกับวลาโฮวิชให้ ก็ไม่ทำ ใส่ออปชั่นไปก็ไม่ใช้ การเชื่อใจสร้างความสัมพันธ์กับทีมที่นิสัยแบบนั้นก็ไม่เวิร์ค
4. และผลจากข้อ 1+2. ก็ตามมาให้ปืนล้มเหลวในการคว้าตัวรุกในตลาดรอบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากบัญชีการขายที่ติดเลขลบ เพราะส่วนหนึ่งยอมรับว่าขายนักเตะไม่ได้ราคามาต่อเนื่อง แต่ข้อดีก็มีคือการเก็บสตาร์ไว้ไม่ขายทีมก็เลยไม่มีรายได้จากการขาย

เอดูได้รางวัล ผจก. ยอดเยี่ยม Golden Boy ที่ผลิกโฉมทีมหลังบ้านปืนที่เละต่อเนื่อง ทับซ้อนหน้าที่ ไม่มีระบบ บางคนไม่มีความสามารถนำมาสู่ความชัดเจน
แต่ท้ายที่สุดเมื่ออยากได้รับอำนาจเต็มที่เลือกนักเตะด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่ใช่ค่อย ๆ อยู่กลืนมาอยู่ใต้เงาของอาร์เตต้าในการลิสต์คนนู้น และมีไปอยู่กับสโมสรที่ทุ่มงบและเชื่อใจให้อำนาจมากๆ จะไปท้าทายหาโอกาสใหม่ ๆ ก็ไม่แปลก โชคดี

น่าจะมี Gardening Leave เหมือนตอน ผอ. นิว จะไปแมนยู แหละครับ 6 เดือนพอดี

จริงๆแกก้ช่วยสโมสรได้เยอะนะ ถึงจะจบกันแปลกๆแบบขัดใจผมพอควรก้เถอะ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญสุดคือ รั้งต้าไว้เลย อย่างน้อยทีมติดอันดับบนๆ เข้ารอบ UCL ลึกๆตลอด ก้ทำให้เสถียรภาพสโมสรดีขึ้นเยอะ

ข้อเสียก้มีแต่ผมก้พอรับได้ ขอให้โชคดีคัรบ

ผมชอบนโยบายการเคลียนักเตะที่ไม่มีใจ ออกไปทั้งหมดให้เร็วที่สุดมาก ถ้าอ้างอิงจากแมนยูตอนนี้คือ ก็อย่างที่เห็นครับ คาราคาซัง ทีมไม่ไปไหนเลย ดิ่งลงไปเรื่อยๆ เทียบกับเรา เทียร์นี่ย์ ซินเชนโก้ แค่ได้ลงมาก็ใส่สุดหมด max ทุกคนกระหายจะทำเพื่อทีม ตัวเลขรายได้ก็กลับมาเขียวติดลมบน บรรยากาศภายในทีมช่างต่างกันเหลือเกิน ขอบคุณจากใจ คนมีฝีมือ กล้าตัดสินใจมันดีอย่างนี้นี่เอง

5ปี เพิ่งจะมาเห็นผลกันตอนนี้ อันนั้นคือเค้าเริ่มนับ 1 และทำมาเรื่อยๆ

ไอของเราเมื่อไหร่จะเริ่มนับ 1 และเจอคนที่ใช่สักที ไม่งั้นนับ 1 ใหม่วนไป แถมบวกไปอีก 5-10ปี ออกดอกออกผล

เราเอาอดีตนักเตะยุคแชมป์มาเป็นผู้อำนวยการดูอาจจะดี

ส่วนนึงที่ปืนกลับมาได้ เอดูมีส่วนเยอะเลย คอมโบกับต้าร์ หาตัวที่อยากได้ ถึงแม้จะปล่อยนักเตะได้ราคากาวๆ ก็เถอะ ขอบคุณอย่างน้อยก็ได้ตำนานทีม กลับมาสร้างอะไรให้ทีมบ้าง รอเบิร์คแคมป์กับอองรีมาเทรนกองหน้าให้อยู่

แมนยูนี่หนักเลยครับ ต้องแก้เรื่องการซื้อขาย กับคัดกรอง Mindset นักเตะด่วนๆ

แมนยูที่ผมเคยกลัว นักเตะไม่ได้มีทัศนคติแบบนี้ ไม่ใช่พวกฟู่ฟ่าบ้าโซเชียล

บอกตามตรง ตั้งแต่การ์นาโช่เพิ่งดังใหม่ๆ ผมดูไอจีน้องมันแล้วดูน่ากลัว ดูทำตัวเซเลปเกินวุฒิภาวะครับ