ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 30772
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 11, 2025 00:29
Culture Shock กับการนั่งแกร้บที่กทม.
ความจริงผมจะตั้งมู้เล่าเรื่องนี้มาหลายวันละ แต่ขี้เกียจ แต่พอดีมีคนตั้งมู้ถามคนกทม.ว่าขับรถในกทม.เหนื่อยมั้ยก็เลยถือโอกาสมาตั้งมู้เล่าซักหน่อย
คือด้วยความที่ผมอยู่เชียงใหม่มาทั้งชีวิต ไปกทม.แบบนับครั้งได้ ประมาณสิบครั้งมั้ง แต่ 7-8 ครั้งที่ไปก่อนหน้านั้นคือตอนเด็กๆ นั่งรถไฟฟ้ากับรถบัสรร.ซะส่วนใหญ่ แถมยังไม่มีพวกแกร้บหรือไรเดอร์พวกนี้ จนล่าสุดบินไปงาน NR มิ่งตี๊ดมาก็เลยจำเป็นต้องนั่งแกร้บจากคอนโดเพื่อนไปคอนโดพี่สาว คอนโดพี่สาวไปที่จัดงาน และจากที่จัดงานกลับมาที่คอนโดพี่สาว
ทีนี้ในทริปนี้ผมนั่งแกร้บรถยนต์ 3 คัน 2 ใน 3 คือสาเหตุที่ทำให้ผมเกิดอาการ Culture Shock คือแบบผมไม่เคยการนั่งรถยนต์ที่หวาดเสียวแบบนี้จากคนที่ไม่รู้จักมาก่อนอะ เขาขับแบบอยากจะมุดก็มุด อยากจะปาดก็ปาด อยากจะแทรกก็แทรก เลนที่เบี่ยงซ้ายพี่แกก็แซงขวาแล้วไปแทรกเข้าข้างหน้าตรงเส้นทึบอีก จนเจอแท็กซี่บีบแตรใส่ ผมนี่ร้องเชี่ยยยอยู่ในใจเลย น่ากลัวจัด คือเขาขับแบบไม่กลัวชนกลัวเฉี่ยวอะไรเลย
ทีนี้ผมก็คิดในใจว่าอาจจะเป็นเพราะต้องรีบทำเวลา เพราะการเป็นแกร้บเป็นไรเดอร์ ก็พยายามทำความเข้าใจ จนผมกลับมาถึงเชียงใหม่แล้วต้องนั่งแกร้บกลับบ้าน ผมก็สังเกตว่าเขาไม่เห็นรีบเร่งอะไรแบบนั้นเลย ไม่ปาดไม่แทรกอะไรทั้งนั้น หรืออาจจะเพราะที่กทม.ผมเจอคนขับที่อายุไม่เยอะ แต่ที่เชียงใหม่เจอแบบค่อนข้างมีอายุหน่อย รุ่นน้ารุ่นลุงอะไรแบบนี้
ตอนแรกผมก็มีแอบคิดว่าหรือคนกทม.เขาขับรถกันแบบนี้วะ ทุกอย่างเร่งรีบไปหมด แต่พอนึกถึงตอนที่เพื่อนผมไปรับที่จตุจักรแล้วลองมาเปรียบเทียบกัน เพื่อนผมมันก็ไม่ได้ขับน่ากลัวอะไรขนาดนั้นนี่หว่า
อยากถามว่านี่คือปกติของคนขับแกร้บที่กทม.ใช่มั้ยครับ เพราะพี่สาวผมก็บอกว่าเขาชินแล้ว ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร แต่สำหรับผมตกใจมาก
แก้ไขล่าสุดโดย liveranfield เมื่อ Fri Apr 11, 2025 00:30, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ