ถ้าคุณเป็นคณะกรรมการ ในการอนุมัติงบประมาณ คุณจะอนุมัติรึเปล่า ให้ใช้ข้อมูล ณ วันที่ประชุมในการตัดสินใจนะครับ ไม่ใช่ปัจจุบัน
1. ติดตั้งเครื่องวัดระดับความสั่นของอาคาร งบ 9 ล้าน
เห็นว่าเป็นเครื่องที่ประกอบเอง ตอนนั้นก็คงจะคิดเหมือนกันว่าแผ่นดินไหวไม่น่าจะเกิดที่ กทม ได้เพราะไม่เคยมีมาก่อน ยกตัวอย่างถ้าจะขอให้ซื้อเครื่องกวาดหิมะ ก็คงไม่มีใครเห็นด้วย แล้วตัวเครื่องที่ว่าประกอบเอง อารมณืคงเหมือนเครื่องตรวจระเบิด ที่คนอนุมัติก็โดนซัดเละว่าเป็นค่าโง่จนถึงทุกวันนี้
2. ค่าความคุมงานก่อสร้าง งบ 60 ล้าน ตอนเกิดเหตุแล้วก็คิดว่าจำเป็น แต่ตอนนั้นเราจะมองว่าเป็นการเอื้อให้ทุจริตได้รึเปล่า จะมีโอกาสถูกสาวไส้ได้มั๊ยว่าทำไมต้องมีงบส่วนนี้

ตอนที่ดูคลิป ก็โมโหนะ แต่คิดไปคิดมาถ้าเป็นเราตอนนั้น เราจะอนุมัติงบนี้มั๊ยนะ

ก็น่าคิดตอนนี้มันเหมือนเก่งหลังเกมอะ


ถ้าพ้นวาระ แล้วเปิดงบสมัยผู้ว่าชัชชาติติดเครื่องวัดระดับความสั่นของอาคาร 9 ล้าน ละไม่มีเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้น คนแม่งก็คงขำกัน ด่ากันอยู่ดี

มันแถ ลง มากกว่า ไม่อยากเสียหน้า

เครื่องที่ว่าประดิษฐ คงด้อยค่าเขา ความหมายน่าจะเป็นว่าระบบมันประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งเซนซอร์ หรือระบบ IoT เพื่อแจ้งเตือน มันไม่มีขายเหมือนรถดับเพลิงเป็นคัน ๆ ให้มันล็อกสเปกกินกันนะสิ

ส่วนความเสี่ยงแผ่นดินไหว กทม มันมีนานแล้วนะ มี กม บังคับแล้ว

ไอ้งบคุมงานนี่ สก ก็คงหาประโยชน์เข้าตัวไม่ได้ งบก่อสร้างหลายพันล้านแต่ของบคุมงานแค่หลักสิบล้านก็สมควรนะ
แล้วจะบ้าหรอที่ให้สำนักโยธา กทม ไปคุมเอง มีคนอยู่เท่าไร

ถ้าเป็นผมนะครับ เครื่องแผ่นดินไหวคงไม่ครับ แต่งบคุมงานผมอนุมัติครับ

เรื่องคนคุมงาน ผมว่ามันก็ต้องว่าไปตามกฏและหลักการสร้างอาคาร ไม่จำเป็นต้องเกินกว่านั้น มันจะโดนอะไรคล้ายๆ 157 แต่มันห้ามทำน้อยกว่าแน่นอน

ส่วนเครื่องวัดความสั่นสะเทือนมันต้องดูใส้ในมากกว่านี้ เช่น รู้ล่วงหน้ากี่นาที มันมีเวฟเล็กๆมาเตือนล่วงหน้าไหมหรือเวฟเเรกใหญ่เลย รอยเลื่อนรอบๆ กทม มีกี่รอย กี่รอยที่แอคทีฟ ต้องแรงเท่าไร กทม ถึงจะสะดุ้ง สถิติว่ากี่ปีจะมีเวฟมาถึง คือพวกนี้บอกแค่ว่าผมเคยเตือนแล้วแต่เขาไม่ซื้อ มันต้องถามกลับด้วยว่าคุณให้รายละเอียดอะไรเขาบ้างที่จะ convince ให้เขาเชื่อ ไม่ใช่บอกแต่ว่าต้องมีต้องมี แต่ไม่ให้รายละเอียดอะไรที่จูงใจเลย แล้วใครเขาจะเชื่อ เพราะคุณกำลังคุยเรื่องเทคนิคที่คนทั่วไปไม่รู้เรื่องเลย เฉพาะทางมากๆ ถ้าเขายอมซื้อสิแปลก จนกว่าจะจูงใจหรือทำให้เขากลัวได้ บวกกับข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนน่าเชื่อถือ กลับกันถ้าข้อมูลที่นำเสนอเพียงพอแล้วแต่ไม่เชื่อหรือมีการเมือง อันนี้เคลมได้

ข้อแรก 9 ล้านนี่ถูกมากนะครับ แต่เป็นผมก็คงต้องฟัง ชช.ดูก่อนอะครับว่านำเสนอยังไง.
ถ้าเอาตอนหัวว่างๆเลยก็คงไม่ครับ.

ข้อ 2 นี่ถ้าเป็นผมเอาแน่นอนครับ.

คิดว่าส่วนนึงรายจ่ายทั้งสองเคสคือค่าผู้เชี่ยวชาญครับ

เคสเครื่องตรวจแผ่นดินไหวเค้าแต่ติดตั้งอุปกรณ์แล้วจ้างผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ว่ายังโอเคไหม

เคสก่อสร้างก็จ้างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ

ผมคิดว่าพวกคนเก่งๆเค้ารู้ดีว่าการมีผู้เชี่ยวชาญมันดียังไง เค้าก็เลยของบ

กลับกันคนไม่ค่อยมีความรู้โดยเฉพาะด้านวิชาการเค้าจะมองไม่เห็นถึงความสำคัญตรงนี้

มันก็สะท้อนให้เห็นว่าบ้านเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับคนเก่งๆ