BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: #YNWA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2009
ตอบ: 482
ที่อยู่: บ้านขามเจริญ
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 16:50
[LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์
ตำแหน่งแบ็คขวาของลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในบทบาทที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและพัฒนาการที่น่าสนใจ ตั้งแต่ยุคทองในทศวรรษ 1980 จนถึงยุคสมัยใหม่ที่แอนฟีลด์กลายเป็นเวทีของฟุตบอลระดับโลก นักเตะหลายคนได้ฝากผลงานไว้ในตำแหน่งนี้ ตั้งแต่สตีฟ นิโคล, แกรี่ กิลเลสพี, ร็อบ โจนส์, เวการ์ด เฮกเกม, มาร์คุส บับเบิล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เจสัน แม็คเอเทียร์, สตีฟ ฟินแนน, อัลบาโร อาร์เบลัว, เกล็น จอห์นสัน, จอน ฟลานาแกน, นาธาเนียล ไคลน์, โจ โกเมซ จนถึงเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (TAA) ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยเส้นทางของเหล่าแบ็คขวา “หงส์แดง” ที่เคยคร่ำหวอดอยู่ในรั้วแอนฟีลด์ พร้อมกล่าวถึงอาการบาดเจ็บที่เหมือนอาถรรพ์ และเชื่อมโยงจากจุดเริ่มต้นของสตีเวน เจอร์ราร์ดสู่ TAA ด้วยมิติที่ลึกซึ้งและการหักมุม


ยุคทศวรรษ 1980: สตีฟ นิโคล และ แกรี่ กิลเลสพี - ความแข็งแกร่งแห่งยุคทอง

ในช่วงทศวรรษ 1980 ลิเวอร์พูลครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษและยุโรป สตีฟ นิโคล เข้ามาร่วมทีมในปี 1981 จากอายร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 300,000 ปอนด์ เขาเริ่มต้นในฐานะกองหลังตัวกลางหรือมิดฟิลด์ แต่ถูกจับมาเล่นแบ็คขวาด้วยความสามารถรอบด้าน นิโคลคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย และยูโรเปียน คัพ 2 สมัย ด้วยความแข็งแกร่งและการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม ขณะที่ แกรี่ กิลเลสพี ซึ่งย้ายจากโคเวนทรี ซิตี้ ในปี 1983 มักถูกใช้งานในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค แต่ก็เคยถูกโยกมาเล่นแบ็คขวา เขาคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย และยูโรเปียน คัพ 1 สมัย เป็นส่วนหนึ่งของแนวรับที่แข็งแกร่งในยุคนั้น


ทศวรรษ 1990: ร็อบ โจนส์ - ผู้กำหนดมาตรฐานก่อนเนวิลล์

เมื่อเข้าสู่ยุค 1990 ร็อบ โจนส์ กลายเป็นดาวเด่นในตำแหน่งแบ็คขวา เขาย้ายจากครูว์ อเล็กซานดรา มาร่วมทีมในปี 1991 และกลายเป็นหนึ่งในแบ็คขวาที่น่าประทับใจที่สุดในพรีเมียร์ลีกยุคแรก ด้วยการอ่านเกมรับที่ยอดเยี่ยม การดักทางคู่ต่อสู้ และการเข้าสกัดที่แม่นยำ (ในระดับเดียวกับแกรี่ เนวิลล์ แต่โจนส์มาก่อนเนวิลล์เสียอีก) เขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 1992 และติดทีมชาติอังกฤษตั้งแต่อายุ 21 ปี หากไม่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่าซ้าย เขาน่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญของเนวิลล์ในทีมชาติอังกฤษ ทว่าอาการบาดเจ็บนี้ไม่อาจเยียวยาได้ แม้จะเข้ารับการผ่าตัดถึงสามครั้งก็ตาม ในฤดูกาล 1998-99 เขาไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นัดเดียว และสุดท้ายถูกปล่อยตัวแบบไม่มีค่าตัวโดย เฌราร์ อุลลิเยร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสที่เข้ามานำพา “หงส์แดง” สู่ยุคใหม่ ด้วยเป้าหมายสำคัญคือการกำจัดภาพลักษณ์และทัศนคติ “สไปซ์ บอยส์” ที่เคยเป็นตราประทับของสโมสรให้หมดไป โจนส์จึงต้องปิดฉากอาชีพในวัยเพียง 28 ปี ปล่อยให้ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเขาคงอยู่แค่ในความทรงจำ


ปลายยุค 90 ถึงต้น 2000: เวการ์ด เฮกเกม เงาอาถรรพ์ของโจนส์ สู่คาร์ราเกอร์และแม็คเอเทียร์

ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากยุค 90 สู่ 2000 เวการ์ด เฮกเกม เข้ามาในปี 1997 จากรอสเซนบอร์ก ด้วยสไตล์การเล่นที่เร้าใจ เขามีชื่อในชุดที่คว้า “ทริปเปิลแชมป์” ในปี 2001 แฟนบอลมีความคาดหวังสูงเมื่อเห็น “เงาของร็อบ โจนส์” ที่ปราดเปรียวและว่องไวกว่าในตัวเขา ทว่าอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อเรื้อรังกลับรบกวนจนเขาได้เล่นฟุตบอลนัดสุดท้ายไปด้วยวัยเพียง 25 ปี และสุดท้ายต้องตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวัย 28 ปี ไม่ต่างจากโจนส์ เหมือนเป็นอาถรรพ์ที่ตามหลอกหลอนตำแหน่งนี้ มาร์คุส บับเบิล เข้ามาในปี 2000 จากบาเยิร์น มิวนิค นักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งแบ็คขวาและเซ็นเตอร์แบ็ค เขามีส่วนในทีมชุดทริปเปิลแชมป์ แต่ต่อมาถูกตรวจพบว่าเป็นโรค “กิลแลง-บาร์เร่” (Guillain-Barré Syndrome) โรคร้ายที่ทำลายระบบประสาท ทำให้ต้องเลิกเล่นในปี 2007 เจมี่ คาร์ราเกอร์ ขึ้นชุดใหญ่ในปี 1996 เริ่มจากแบ็คขวาก่อนย้ายไปยืนเซ็นเตอร์แบ็ค เขาคว้าแชมป์มากมาย รวมถึงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปี 2005 ขณะที่ เจสัน แม็คเอเทียร์ เข้ามาในปี 1995 จากโบลตัน เป็นแบ็คขวากึ่งปีกในยุค “The Last Boot Room Staff” ที่ทีมยังคงสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิม เขาคว้าลีก คัพ ปี 1995 ด้วยความขยันและพลังงานที่เติมเกมรุกจากด้านขวาในช่วงที่ทีมไม่ได้ใช้ระบบ 4-4-2 เป็นหลักอีกต่อไป


ยุคเปลี่ยนผ่าน: สตีฟ ฟินแนน และ อัลบาโร อาร์เบลัว

สตีฟ ฟินแนน เข้ามาในปี 2003 จากฟูแล่ม ด้วยความนิ่งและการเติมเกมที่สมดุล เขาคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปี 2005 และเป็นกำลังสำคัญในยุคของราฟาเอล เบนิเตซ อัลบาโร อาร์เบลัว ย้ายจากเดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ในปี 2007 เป็นแบ็คขวาที่แข็งแกร่งและมีระเบียบวินัย เขาอยู่ในชุดคว้าแชมป์ยูโร 2008 กับทีมชาติสเปน แต่ที่ลิเวอร์พูลเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เริ่มฟื้นตัว


ยุค 2010: เกล็น จอห์นสัน, จอน ฟลานาแกน “The Reds Cafu” และนาธาเนียล ไคลน์

เกล็น จอห์นสัน ย้ายจากพอร์ทสมัธในปี 2009 เป็นแบ็คขวาที่มีจุดเด่นในการเติมเกมรุก เขาคว้าลีก คัพ ปี 2012 แต่ช่วงท้ายอาชีพกับลิเวอร์พูล เขาเผชิญอาการบาดเจ็บเรื้อรัง โดยเฉพาะที่ข้อเท้าและกล้ามเนื้อ ทำให้ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ จอน ฟลานาแกน หรือ “The Reds Cafu” ที่แฟนบอลเรียกขานตามคำกล่าวของ คาฟู ตำนานแบ็คขวาชาวบราซิล ด้วยความดุดัน เขาขึ้นชุดใหญ่ในปี 2011 และเด่นในฤดูกาล 2013-14 แต่บาดเจ็บเข่ารุนแรงทำให้แทบไม่ได้ลงสนามในช่วงหลัง นาธาเนียล ไคลน์ เข้ามาในปี 2015 จากเซาแธมป์ตัน เขาประเดิมสนามในสีเสื้อลิเวอร์พูลครั้งแรกในเกมพบทีมทรู ไทย พรีเมียร์ลีก ออลสตาร์ ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2015 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ปรีซีซั่นของสโมสร เดิมทีเขาเป็นนักเตะที่ร่างกายแข็งแกร่ง ร้อยวันพันปีแทบไม่เคยเจ็บ แต่เมื่อบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าในปี 2017 กลับรุนแรงถึงขั้นต้องหาทีมใหม่ เขาย้ายไปคริสตัล พาเลซในที่สุด


ยุคปัจจุบัน: โจ โกเมซ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

โจ โกเมซ ย้ายจากชาร์ลตันในปี 2015 เล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์แบ็คและแบ็คขวา เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ ลีก แต่ถูกอาการบาดเจ็บตามรังควาน ทั้งเอ็นเข่าฉีกในปี 2020 และปัญหากล้ามเนื้อซ้ำๆ ทำให้ “โจ รับจบ” ไม่สามารถลงสนามได้ต่อเนื่อง ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (TAA) ขึ้นชุดใหญ่ในปี 2016 เปลี่ยนโฉมตำแหน่งแบ็คขวาด้วยการจ่ายบอลและลูกตั้งเตะ เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ ลีก เป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่


ตำแหน่งแรกของสตีเวน เจอร์ราร์ด สู่ TAA และการหักมุมในซัมเมอร์นี้

สำหรับสาวกเดอะค็อป สตีเวน เจอร์ราร์ด คือตำนานที่ไม่มีใครไม่รู้จัก อดีตกัปตันทีมผู้นี้เริ่มต้นกับลิเวอร์พูลในวันที่ 29 พฤศจิกายน 1998 ในเกมพบแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส โดยลงสนามครั้งแรกในตำแหน่ง แบ็คขวา แทนเวการ์ด เฮกเกม แม้ต่อมาจะกลายเป็นมิดฟิลด์ระดับโลก แต่จุดเริ่มต้นนี้คือรากฐานของมรดกที่เขาทิ้งไว้ เขาคือฮีโร่ของแฟนบอล และที่พิเศษกว่านั้น เขาคือฮีโร่ของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (TAA) เด็กหนุ่มจากย่านเวสต์ ดาร์บี้ รั้วบ้านติดกับเมลวู้ด ในปี 2017 เมื่อเจอร์ราร์ดกลับมาที่เมลวู้ดในฐานะโค้ชทีม U18 ซึ่งเป็นช่วงที่ TAA กำลังฉายแววในทีมเยาวชน “ตอนผมอายุ 16 หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือตอนที่เจอร์ราร์ดลงมาช่วยดูแลนักเตะดาวรุ่ง การที่มีเขาอยู่ในสนามแบบนั้นมันเหมือนฝันที่เป็นจริง” TAA เล่าย้อน เขาจำได้ถึงวันที่เคยเตะบอลกับเพื่อนและจินตนาการว่าเป็นเจอร์ราร์ด การได้เห็นฮีโร่ฝึกซ้อมใกล้ๆ ได้เรียนรู้เทคนิค และการวางตัวของเจอร์ราร์ดที่สะท้อนความรักต่อสโมสร คือสิ่งที่หล่อหลอมเด็กอคาเดมี่คนนี้

ด้วยการปั้นจากโค้ชเยาวชนอย่าง นีล คริทชลี่ย์ และ อเล็กซ์ อิงเกิลธอร์ป TAA ก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมของ เจอร์เกน คล็อปป์ เขาเล่าถึงวันที่ตระหนักถึงความหมายของการเป็นนักเตะลิเวอร์พูล “บ่ายวันหนึ่ง ผมอยู่ใกล้ย่านใจกลางเมืองลิเวอร์พูล และเห็นเด็กคนหนึ่งในชุดลิเวอร์พูล อายุน่าจะ 10 ขวบ เขาใส่เสื้อเบอร์ 66 ที่เขียนว่า ‘Alexander-Arnold’ เหตุการณ์นั้นทำให้ผมนึกได้ว่า ผมเคยเป็นเด็กคนนั้น และตอนนี้ผมก็ยังเป็นเด็กคนนั้นเหมือนเดิม” แต่ความผูกพันนี้แตกต่างจากเจอร์ราร์ด เพราะ TAA ได้ครอบครองทุกความสำเร็จกับสโมสร ทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ ลีก ขณะที่เจอร์ราร์ดไม่เคยสัมผัสแชมป์ลีก “ลิเวอร์พูลคือบ้านของผม” คือคำพูดจากใจของ TAA เมื่อครั้งที่ยังอยู่กับครอบครัว และต้องเดินไปเล่าเรื่องดีๆ ให้พ่อแม่ฟังก่อนนอน

ด้วยวลี “You’ll Never Walk Alone” เหล่าเดอะค็อปเชื่อมั่นเสมอว่า TAA คือผู้สานต่อมรดกของเจอร์ราร์ดในฐานะตำนานท้องถิ่น แต่ในซัมเมอร์นี้ ทุกอย่างอาจพลิกผัน เมื่อหมุดหมายของเขาอาจไม่ใช่การเป็น “เจอร์ราร์ดคนต่อไป” แต่เป็นการมองหาความท้าทายใหม่นอกแอนฟีลด์ ความผูกพันอันลึกซึ้งกับสโมสรและฮีโร่วัยเด็กอาจไม่เพียงพอที่จะรั้งเขาไว้ คำถามที่ค้างคาคือ เขาจะเลือกเดินต่อไปในบ้านหลังนี้ หรือก้าวออกไปตามเส้นทางของตัวเอง


สรุป: อาถรรพ์แบ็คขวาและอนาคตที่ไม่แน่นอน

เส้นทางของแบ็คขวาลิเวอร์พูลเริ่มจาก สตีฟ นิโคล และ แกรี่ กิลเลสพี ในยุค 80s ที่สร้างรากฐานอันแข็งแกร่ง ผ่าน ร็อบ โจนส์ ผู้กำหนดมาตรฐานแต่ถูกอาการบาดเจ็บพรากฝัน ตามด้วย เวการ์ด เฮกเกม ที่ถูกมองว่าเป็น “เงาของโจนส์” อันปราดเปรียวและว่องไว แต่กลับต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรไม่ต่างกัน เหมือนเป็นอาถรรพ์ตอกย้ำตำแหน่งนี้ของทีม เจสัน แม็คเอเทียร์ ในยุค “The Last Boot Room Staff” เพิ่มมิติให้ทีม ขณะที่ มาร์คุส บับเบิล, เกล็น จอห์นสัน, จอน ฟลานาแกน “The Reds Cafu”, นาธาเนียล ไคลน์, และ โจ โกเมซ ต่างเผชิญอาการบาดเจ็บเป็นอุปสรรค จนถึง TAA ผู้เปลี่ยนโฉมตำแหน่งนี้ในยุคปัจจุบัน จากจุดเริ่มต้นของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่แบ็คขวาสู่ตำนานมิดฟิลด์ ทุกคนคาดหวังว่า TAA จะเดินตามรอยด้วยความผูกพันอันลึกซึ้งกับสโมสร แต่ซัมเมอร์นี้อาจพลิกผัน เมื่อ “You’ll Never Walk Alone” อาจไม่ใช่คำมั่นสัญญาของเขากับแอนฟีลด์อีกต่อไป หากเขาตัดสินใจมองหาขอบฟ้าใหม่นอกเหนือจากมรดกของ “หงส์แดง” อาถรรพ์ของแบ็คขวาจะยังตามหลอกหลอน หรือ TAA จะเลือกท้าทายมันด้วยทางเลือกใหม่ คงต้องรอคำตอบจากอนาคต


7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


ออนไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Oct 2009
ตอบ: 8716
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 16:59
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
ai content?
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: #YNWA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2009
ตอบ: 482
ที่อยู่: บ้านขามเจริญ
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 17:18
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
Shinshil พิมพ์ว่า:
ai content?  


AI Content ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Feb 2009
ตอบ: 22588
ที่อยู่: อมตะนคร ชลบุรี
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 17:54
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
เชื่อมั้ยผมทันฟิล นีลเล่นช่วงท้ายๆ ถ้าจำไม่ผิด 1984 หรือ 1985 ยังตัวจริงอยู่เลย

นิโคลเพิ่งได้เล่นตัวจริงราวๆ 1985 หรือ 1986 นี่แหละ

ส่วนจิเลสพีเล่นเซ็นเตอร์อยู่แล้ว เอามายืนแบ็คแก้ขัดบางนัดเท่านั้น
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
จะไม่เสียเวลาทำอะไรที่ไม่ได้เงินอีก
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: #YNWA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2009
ตอบ: 482
ที่อยู่: บ้านขามเจริญ
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 18:12
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
sitea พิมพ์ว่า:
เชื่อมั้ยผมทันฟิล นีลเล่นช่วงท้ายๆ ถ้าจำไม่ผิด 1984 หรือ 1985 ยังตัวจริงอยู่เลย

นิโคลเพิ่งได้เล่นตัวจริงราวๆ 1985 หรือ 1986 นี่แหละ

ส่วนจิเลสพีเล่นเซ็นเตอร์อยู่แล้ว เอามายืนแบ็คแก้ขัดบางนัดเท่านั้น  



ผมเริ่มรู้จักลิเวอร์พูลจากการอ่านเป็นหลักครับ สมัยนั้นด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัดก็จะได้ดูไฮไลท์เฉพาะในทีวี ส่วนใครเก่งยังไงก็จินตนาการจากตัวอักษรและ Match Fact ที่มีลงข้อมูลในนิตยสารที่อ่าน จะมาได้ดูเป็นแมทช์จริงๆ จังๆ ก็ต้องยุคเป็นม้วนวิดีโอแล้วครับ ซึงนักเตะที่ผมชอบคนแรกในทีมก็คือ สตีฟ นิโคล นี่แหล่ะ ตามแกเรื่อยมาจนแกไปเป็นผู้จัดการทีมใน MLS กันเลย บทความนี้ก็เลยอยากเริ่มจากจุดนี้


ดีใจที่ได้เจอคนชอบฟุตบอลรุ่นใกล้ๆ กันนะครับ

3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Jul 2006
ตอบ: 4166
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 18:54
[LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์
แบ็คขวาที่ผมชอบต้นๆ ดันเป็น อัลเบลัวร์ ฟินแนน บับเบิล
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย kingking เมื่อ Tue Apr 08, 2025 18:55, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Sep 2021
ตอบ: 1737
ที่อยู่: ท่ามกลางลูกเมียแม่หมาแมวปลา
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 18:56
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
แบรี่ เวนิสัน บอกใช่ซิ เรามันตัวประกอบ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Aug 2009
ตอบ: 416
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 19:07
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
ผมชอบมาคุส บับเบิ้ลนะ คนนี้่ผมว่าครบทั้งรุก ทั้งรับ แต่ดันเกิดเป็นโรคประหลาดซะก่อน
แก้ไขล่าสุดโดย Toraceng เมื่อ Tue Apr 08, 2025 19:08, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Dec 2023
ตอบ: 1849
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 19:24
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
ชอบฟินแน่น เสถียรสุดแล้ว
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: Only Liverpool Fc
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2021
ตอบ: 1212
ที่อยู่: คาลาดาน
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 19:38
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
ชอบ GJมาก แต่เสียดายเจ็บทียาวเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: #YNWA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2009
ตอบ: 482
ที่อยู่: บ้านขามเจริญ
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 19:49
[RE][LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์
maymomink พิมพ์ว่า:
แบรี่ เวนิสัน บอกใช่ซิ เรามันตัวประกอบ  

งั้นตัวประกอบที่เป็นเพื่อนเยอะเลยครับ สตีฟ ฮาร์คเนส, จอห์น สเกล, มาร์ติน เคลลี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้, อังเดร วิสด้อม และเนโค วิลเลี่ยมส์
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2009
ตอบ: 15693
ที่อยู่: TD Garden
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 20:09
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
ฟินแน่น no.1 rb
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
FSGout FSGout FSGout FSGout FSGout FSGout FSGout FSGout

ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: (^_^)b
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2007
ตอบ: 7446
ที่อยู่: โลก
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 20:13
[RE][LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์
ผมดูบอลครั้งแรก สมัย เฮกเกม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
^_____^ ให้สิ่งใด ก็ได้สิ่งนั้น

ก่อนที่จะลงมือทำอะไร-เราควรรู้ว่าจะจบมันอย่างไร

“แผนอยู่ที่คน ผลอยู่ที่ฟ้า มิอาจบังคับ” ขงเบ้ง

เ อ า ที่ ส บ า ย ใ จ เ ล ย (แต่อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน)

ถ้า "ได้ยิน" จะ "ลืม"
ถ้า "เห็น" จะ "จำ"
ถ้า "ทำ" จะ "เข้าใจ"
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Oct 2010
ตอบ: 10848
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 21:04
[RE: [LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์]
ลืมสุดยอดแบ็คขวาคนนี้ได้ไง…โฆเซมี่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: #YNWA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2009
ตอบ: 482
ที่อยู่: บ้านขามเจริญ
โพสเมื่อ: Tue Apr 08, 2025 21:20
[RE][LFC] แบ็คขวาลิเวอร์พูล: จากอดีตสู่ปัจจุบันในรั้วแอนฟีลด์
LoversMoon พิมพ์ว่า:
ลืมสุดยอดแบ็คขวาคนนี้ได้ไง…โฆเซมี่  

คนดีที่ถูกลืมจริงครับ

โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel