ไม่เคยใช้ 555


แต่ว่า ก็มองหาคันไฟฟ้าอยู่ คงตัดสินใจเร็วๆนี้

ถ้าใช้เป็นรถคันเดียวของบ้านแนะนำว่าอย่า

ท่านอายุเท่าไร

ท่านก็ลองพิจารณาดูตลอดชีวิตเท่าอายุท่าน

จากประเทศนี้มันดีมั่ง

ลองถามตอนนี้ก็บอกว่าดีแหละครับ รถจีนเก่าสุดในประเทศนี่แค่5ปีเองมั้ง แต่ระยะยาวผมไม่เชื่อว่าคนจีนจะคิดมาละเอียดเหมือนค่ายญี่ปุ่น คงไม่คิดถึงการเซอวิสหลังหมดระยะ/7ปีด้วยซ้ำมั้ง ใครซื้อตอนนี้ก็อาจต้องทำใจเรื่องอายุการใช้งาน

ไฟฟ้า 3 ปีแล้ว ปกติดีครับ ระยะยาวก็ลุ้นกันไป แต่คุ้มค่านี่เรื่องจริงครับ

ผมใช้รถจีนมา 3 ปีกว่าแล้วยังดีไม่เคยมีปัญหาศูนย์บริการก็ดี เคยเปลี่ยนฝากระโปงรถไปรอบนึง ต้นไม้หล่นใส่ เคลมอาทิตย์เดียวเสร็จ ออฟชั่นทุกอย่างชอบมากครับ เคยใช้รถญี่ปุ่นมา 8 ปี

ได้ขับของเพื่อนประมาณ 3 4 รอบ

ก็โอเคนะ

deepal s07

กับ byd atto3

หลักๆ ตอนนี้คือรอวัดการใช้งานไปซัก 3 ปี - 5 ปี ++

แสนโลขึ้น ตอนหลุดประกัน

ค่าใช้จ่ายซ่อม อะไหล่ บริการหลังขาย รวมถึงหากเกิดอุบัติเหตุ ซ่อมนานไหม

ถ้ามองรถเป็นแกดเจ็ต ก้คุ้มจะซื้อมาลองใช้

MG ZS รุ่นแรก
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเข้าอู่แบบใหญ่ ๆ เลย รถปกติดี จะเข้าปีที่ 7 แล้ว
ผมอาจจะโชคดี ไม่เจอรถที่มีปัญหา ตอนซื้ออยากลองเปลี่ยนมาใช้รถจีนดู

ตอนนี้รอเจอรถไฟฟ้าที่ถูกใจ ราคาสบายกระเป๋าเราเดี๋ยวก็คงซื้ออีก

รถถือว่าดีแล้วในประเทศเขาครับ.
แต่ยังไม่ดีขนาดนั้นในบ้านเราครับ.

เป็นหมดทุกยี่ห้อเวลาเปิดตลาดใหม่ๆละครับ.
อย่างสมัยผมเด็กๆ รถยุโรปแทบทุกยี่ห้อแอร์มีปัญหาครับ.
เพราะบ้านเขาหนาวไม่ได้ใช้แอร์เท่าไหร่เลยไม่ได้ให้ความสำคัญครับ BMW นี่ถ้ารถติดแอร์ไม่เย็นครับ.

รถจีนช่วงล่างยังไม่พร้อมเท่าไหร่สำรับบ้านเราครับ.
ถนนในเมือง(รวมทั้งถนนหลักต่างจังหวัด)บ้านเขามันดีมากๆ เลยไม่ได้เผื่อช่วงล่างมาลุยถนนในเมืองบ้านเราครับ.
เทสล่ารุ่นแรกๆก็เป็นครับ ตกหลุมทีเดียวต้องเปลี่ยนแบตเป็นแสน.

ผมว่าปีหน้าก็จะสอยละครับ ปีนี้ยังไม่ถูกใจ แต่ราคานี่ล่อใจสุดๆครับ.

มือถือไง xiaomi huawei ท็อปๆ โลกยุนะ

ยอดจองวันวัดอะไรไม่ได้ BYD หมื่นกว่าคัน ยังไม่เท่ายอดขยายเฉลี่ยต่อเดือนของโตโยต้าเลย

ใน ตปท ใช้รถไฟฟ้าวิ่งไป 6-7 แสนโล จนแบตพังไปเลย จากนั้นศูนย์เปลี่ยนแบตให้ใหม่

ตอนแรกผมอยากรู้ว่าจะถึงล้านไหม สรุปถึงแค่ตัวเลขที่กล่าวไป หลายๆเจ้าก็คง +- ไม่ต่างกันครับ

ใช้กันเยอะๆก็ดีจะได้เป็นตัวช่วยเร่งให้เรื่องราคา อะไหล่ หรือการบริการหลังการขาย นิ่งขึ้นดีขึ้น

ระยะทางพิศูจน์ม้า กาลเวลาพิศูจน์รถครับ

รถมันเป็นอะไรที่หน่วงๆเวลาคนจะดูว่าคันไหนดีหรือไม่ดี เพราะมันมีหลายอย่างให้ต้องคำนึงถึงโคตรๆอย่างเช่น

1.รถบางแบรนเน้นสมรรถนะการขับ ช่วงล่างดี handlingคม แต่ซับซ้อน ซ่อมแพง ซ่อมยาก และสึกหรอง่าย

2.รถบางแบรนเน้นอึดถึกทน ซ่อมง่าย ซ่อมเร็ว ไม่ซับซ้อน และซ่อมถูก

3.รถบางแบรนเน้นดูดีดูแพงดู premium ดูลวดลายสวยงาม

4.รถบางแบรนเน้น reliability หรือความเสถียร ความปลอดภัย

สำหรับผมข้อ 1,4 สำคัญที่สุดในการบอกว่ารถดีหรือเปล่า

สิ่งที่ยากในการดูรถพวกข้างบนนี้คือคุณแทบไม่มีทางรู้เลยว่ารถแต่ละรุ่นแต่ละแบรนมันมี 4 อย่างข้างบนที่คะแนนกันบ้าง ถ้าคุณไม่ได้ศึกษาอย่างลึกจริงๆและมองแค่ภายนอกเผินๆหรือไปเดินมอเตอร์โชว์วันเดียว เพราะกว่าจะเป็นรถคันนึงวิ่งได้มันมีชิ้นส่วนและระบบที่ต้องทำงานร่วมกันเป้นพันๆชิ้นเลยครับ ไม่มีทางที่คนทั่วๆไปจะรู้ได้เลยว่าชิ้นไหนจะพังตอนไหน

ไอ่การไปขับไปนั่งไปดูไป test drive ไม่กี่รอบไม่มีทางรู้หรอกครับว่ารถดีหรือไม่ คุณอาจจะยังไม่เจอข้อเสียของมัน

ผมยกตัวอย่างเคสนึงนะ motor Tesla vs motor รถจีน มีใครรู้บ้างมันต่างกันยังไง?แทบไม่มีหรอกครับ ตอน test drive มันวิ่งได้เหมือนกันคนก็คงเข้าใจว่านี่ไงมีเหมือนๆกันแล้ว แต่ถ้าใครอยากลงลึกไป 4 อย่างข้างคนละก็ ต้องไปดูว่า motor ผลิตขึ้นมายังไง มีความคงทนแค่ไหน ระบบcoolingเป็นยังไงบ้าง มีความเสถียรหรือเปล่า มันจะมีกี่คนที่รู้และสนใจว่า motor ของ Tesla อุณภูมิตอนร้อนจัดกับตอนปรกติมันต่างแค่ 4-5 องศา ในขณะที่ของจีนบางรุ่นต่างกัน 20-30 องศา และจะมีกี่คนที่สนใจความแตกต่างนี้

ผมเลยสรุปว่ากาลเวลาจะพิศูจน์เองครับว่ารถแบรนไหนดีจริงเพราะว่าปัญหาของรถเกิดขึ้นได้เรื่อยๆครับที่ตอน designมันไม่ได้คำนึงถึง แต่แบรนที่อยู่มานาน รถรุ่นที่อยู่มานาน สถาปัตยกรรมโชกโชนมาแล้ว มันเจอปัญหามาเรื่อยๆและถูกแก้มาตลอดทางแล้วจึงบอกได้เต็มปากมากกว่าครับว่าเป็นรถที่ดี