จากดราม่าคุณหมอหารสองที่โด่งดัง ท่านเชื่อมั่นหรือใช้การบริหารจัดการเงินกับคนรักแบบไหน


"หุ้นส่วนชีวิต" (Partnership Model - หารครึ่งหรือตามสัดส่วน)

มองว่าการใช้ชีวิตคู่คือการเป็นหุ้นส่วนกัน การแชร์ค่าใช้จ่ายแบบ 50/50 (ในกรณีรายได้เท่ากัน) หรือตามสัดส่วนรายได้ (หากรายได้ต่างกัน) เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเท่าเทียม ความรับผิดชอบร่วมกัน และการเคารพในสถานะทางการเงินของกันและกัน
ข้อดีคือ ยุติธรรม โปร่งใส ลดภาระหนักของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่งเสริมความเป็นอิสระทางการเงินของทั้งคู่



"ผู้นำครอบครัว" (Provider Model - ฝ่ายชายดูแลเป็นหลัก)

เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างดั้งเดิม มองว่าฝ่ายชายมีบทบาทเป็นผู้นำและผู้ดูแลหลักด้านการเงินของครอบครัว โดยฝ่ายหญิงอาจทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้ แต่ค่าใช้จ่ายหลักๆ ฝ่ายชายจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ฝ่ายหญิง (และครอบครัว) มีความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดี

ข้อดีคือ ให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยกับฝ่ายหญิง (ในบางมุมมอง) บทบาทชัดเจน ลดความขัดแย้งเรื่องเงิน (หากฝ่ายชายยินดีและสามารถทำได้)



"แยกกระเป๋าแต่รับผิดชอบร่วม" (Separate Finances, Shared Responsibilities)

ทั้งสองฝ่ายอาจมีบัญชีส่วนตัวและจัดการรายได้ของตนเอง แต่มีการตกลงกันอย่างชัดเจนว่าใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนไหน (เช่น คนหนึ่งผ่อนบ้าน อีกคนผ่อนรถและค่ากินอยู่) หรืออาจมีบัญชีกลางสำหรับค่าใช้จ่ายร่วมกันโดยเติมเงินเข้าตามสัดส่วนที่ตกลง

คู่ผมแยกกระเป๋าตังค์ แต่มีกองกลางร่วมกันอยู่
การหารค่าใช้จ่าย ค่าอาหาร ค่าของสด ค่าที่พัก ค่าบ้าน มันช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเยอะมากๆ

แยกกระเป๋าครับ มีกันคนละใบ แต่เงินอยู่ในกระเป๋ามันนะ

ต่างคนต่างอยุ่ ถึงเวลาไปยิ้มไปกินเที่ยวด้วยกัน

จะ50 50 หรือเรา70 เค้า30ก็ได้

อันนี้แล้วแต่คู่แล้วแต่คนเลย สำคัญต้องคุยกันตั้งแต่แรก สำหรับผมไม่คิดเล็กคิดน้อยใช้วัฒธรรมของที่บ้านเลย พ่อดูแลทุกคนหมด ผมก็เห็นว่าแบบนี้ดีสุดแล้วสำหรับผม แต่ในกรณีนี้ผู้หญิงต้องรู้จักใช้เงินด้วยไม่ใช้เป็นคนใช้ฟุ่มเฟือย หรือถ้าอยากฟุ่มเฟือยเอาเงินตัวเองใช้ไปเลยไม่ว่ากัน

ตู่ผมเเยกกระเป๋า เเต่วางเงินกลางไว้ร่วมกัน

คนรอบตัวผม 100% ที่อยู่กันจนแก่ เป็นระบบชายหาเลี้ยงหมดครับ แต่ข้อแม้คือผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน หรือ มาช่วยกิจการที่บ้าน

ผมรายรับมากกว่าแฟนเท่านึง แต่ก็แบ่งๆกันจ่าย ตามสัดส่วนผมจ่ายมากกว่า

เช่นผมจ่ายค่าเช่าบ้าน แฟนจะจ่ายน้ำไฟ อาหารแมว ค่าเน็ต รวมๆแล้วเป็นยอดครึ่นึงของค่าเช่าบ้านพอดีครับ

เรื่องกินผมจ่ายมื้อแพง มันจ่ายมื้อถูก วันนึงกินด้วยกัน 2 มื้อครับ

นอกนั้นแล้วแต่ความชอบส่วนตัวเลย เพราะไม่ค่อยได้ทำไรด้วยกัน ชอบไม่ค่อยเหมือนกัน

ทุกครั้งที่คุยเรื่องพวกนี้ในมุมมองผมจะบอกตลอดคือคู่ใครคู่มันวันหนึ่งถ้าต้องใช้ชีวิตกับใครจริง ๆ ต้องนั่งคุยเรื่องนี้จริงเลยว่า บริหารจัดการเงินยังไง คุณชอบเลี้ยงไหมหรือคุณชอบหาร ถ้าความต้องการไม่ตรงกันแต่แรกก็แยกย้ายเลย เพราะ ในโลกความเป็นจริงมันมีคนที่ชอบเลี้ยงก็มี หรือ คนที่ชอบหารก็มี ผู้หญิงที่ชอบหารมันก็มีเช่นกัน

อย่างคู่ผมค่าใช่จ่ายในบ้านผมจัดการหมด น้ำไฟ อินเตอร์เน็ต

แฟนจัดการเรื่องของใช้ในบ้าน สบู่ ยาสีฟัน

ค่าข้าวถ้ากินด้วยกันจับหารไปเลยง่าย ๆ ถ้าอันไหนตัวเองอยากกินก็จ่ายไป ไปเที่ยวหารได้หมดยันค่าน้ำมัน

แต่ถ้าแบบผมซื้อข้าวเข้าบ้านก็จะไม่มานั่งหารอะไรพวกนี้ ถือว่าช่วยเหลือกันไม่คิดเล็กคิดน้อย

หารครึ่งฮะ เพราะกุไม่มีตัง เลี้ยงหมดตายhaพอดี

คู่ผมแชร์กันเป็นเงินครอบครัว ค่าใช้จ่ายของครอบครัวและลูกก็ใช้เงินกองนี้ แต่ถ้าใครอยากได้อะไรก็เก็บแยกกระเป๋ากันไป ไว้เป็นเงินช็อปปิ้งส่วนตัวของใครของมัน