“Hands Off!” ปะทุทั่วโลก ผู้ประท้วงนับแสนต้านนโยบายทรัมป์ในสหรัฐ-ยุโรป



เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วสหรัฐอเมริกาและในหลายเมืองสำคัญของยุโรป ภายใต้ชื่อ “Hands Off!” เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

โดยในสหรัฐอเมริกา ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ผู้ประท้วงจำนวนมากมารวมตัวกันที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ แม้สภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวย โดยมีการชูป้ายและสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล

ขณะที่รัฐอื่น ๆ การประท้วงเกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงเมืองเล็ก ๆ ในรัฐฟลอริดา เช่น เซนต์ออกัสติน ซึ่งมีประชากรประมาณ 14,000 คน ผู้ประท้วงชูป้ายที่มีข้อความ เช่น “The king of corruption!” และ “Make lying wrong again!”

ในยุโรป แฟรงก์เฟิร์ตและเบอร์ลิน, เยอรมนี: กลุ่ม Democrats Abroad จัดการประท้วง “Hands Off!” ในแฟรงก์เฟิร์ต เรียกร้องให้ทรัมป์ลาออก ขณะที่ในเบอร์ลิน ผู้ประท้วงรวมตัวหน้าศูนย์แสดงสินค้าของเทสลา แสดงความไม่พอใจต่ออีลอน มัสก์ ที่ปรึกษาของทรัมป์

ด้านปารีส ฝรั่งเศส ผู้ประท้วงประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน รวมตัวกันที่จัตุรัส Place de la République เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อนโยบายของทรัมป์

ขณะที่ลอนดอน สหราชอาณาจักรผู้ประท้วงชุมนุมที่จัตุรัสทราฟัลการ์ ชูป้ายที่มีข้อความเช่น “Proud American Ashamed” และ “WTAF America?”

เจมี่ ราสกิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแมริแลนด์ กล่าวในวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า “เรามีสิทธิ์ที่จะประท้วงเพื่อสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่ถูกจับกุม เนรเทศ หรือไล่ออก”

แม็กซ์เวลล์ ฟรอสต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐฟลอริดา กล่าวถึง “การเพิ่มขึ้นอย่างแยบยลของลัทธิเผด็จการที่ถูกกระตุ้นโดยมหาเศรษฐีที่ทุจริตและบรรษัทขนาดใหญ่”

การประท้วงเหล่านี้สะท้อนถึงความไม่พอใจและความกังวลของประชาชนทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศต่อนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาลทรัมป์ในขณะนั้น

https://moneyandbanking.co.th/2025/165547/

จริงๆก็เห็นใจแกนะ มีความตั้งใจจะทำให้ประเทศตัวเองยิ่งใหญ่ แต่ทางเลือกมันเหลือน้อย


ขยับล่าง ก็เจอ ชาวบ้านอเมริกัน ติดนิสัย ใช้จ่ายรูดบัตรเครดิต รูดทุกอย่างกินโดนัทมันก็รูด ติดหนี้สะสม

ขยับบนก็เจอ กลุ่มทุน เพราะดันใช้ทุนนิยมเสรี คนไหนมือยาวสาวได้สาวเอา ใครมีความสามารถ ก็ดูดเงินในระบบ ค่าบ้าน ค่าประกัน ค่าหมอค่ายา รวยอยู่พวกเดียว

หันไปต่างประเทศ ก็แทบไม่มีใครเกรงใจอเมริกาละ กองทัพอันดับ1 แต่จีน รัสเชีย บอกแน่จริงมุงมาเลย ไอ้พวกพันธมิตรก็มีแต่เพื่อนสายเกาะแ-ก ลูกอีขี้ขอ ทั้งนั้น มุงกองทัพอันดับ1นิ แบกหน่อยละกัน



ปัจจัยพวกนี้ ทำให้อเมริกาเงินเฟ้อเกิน 5% ทุกปี เวอร์กว่าชาวบ้านไปเยอะ เวอร์กว่าจีนอีก จะให้ไปทำเศรษฐกิจพอเพียง คงไม่มีใครทำ เลยบังคับขึ้นราคาสินค้าแม่มชะเลย จะได้เลิกเอาเงินออกนอกประเทศชะที


ไอ้ที่จะให้คนมาตั้งโรงงาน ถามจริงใครจะมา ทำรองเท้าสเกตเชอร์ จ้าง2หมื่นบาท ได้แรงงานจีนทำงานทั้งวันงานดีประณีต เอางบเท่ากันไปจ้างพวกอเมริกัน ได้แต่ไอ้มืดขี้ยามาทำ ก่อนจะห่วงงาน ห่วงแม่มขโมยของในโรงงานไปขายก่อนดีกว่า