ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการประมูลงานภาครัฐเลยนะ แต่อ่านข่าวแล้วจะมีคนสงสัยหลักๆ 2 เรื่อง
คือ ราคาที่ประมูลต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย และ ราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางมากๆ


เช่น ประมูลก่อสร้างอาคารสำนักงาน 1,000 ล้าน

1. ต่ำกว่าราคากลางเล็กน้อย ผู้ชนะประมูลที่ 995 ล้าน

2. ต่ำกว่าราคากลางมากๆ ผู้ชนะประมูลที่ 850 ล้าน


ท่านคิดว่าแบบไหนน่าสงสัยมากกว่า

เขาดูพอร์ทงานเดิมนี่ ผมเคยขายของแค่ 2 ล้าน เขาเรียกดูประวัติการซื้อขาย
กับหน่วยงานราชการทั้งหมดเลย ถ้ามีผิดปกติยังไงก็รู้

สงสัยไอ 850 ล้านก่อนเลย ว่าทำไมมันกดราคาต้นทุนได้ขนาดนั้น



มีโอกาสผิดสเปคสูงอะ

แต่ลด 15-20 เปออันนี้มันก้ค่อนข้างปกตินะ

ปกติราคากลางมันจะเผื่อ 30% อยู่แล้วครับ เพราะทุนไม่เกิน 770
850 ยังไงก็กำไร

ราคาต่ำสุด แต่งานก่อนๆหน้า มีแต่ข้อตำหนิเยอะ คะแนนต่ำ ติดดิฟเยอะ ก็ต้องเลือก ราคาประมูลลำดับขึ้นมา โดยหลักเกณฑ์เดียวกัน

แต่ถ้าคณะกรรมการผู้ที่มีอำนาจสูงสุดสั่งให้เลือกเฉพาะเจ้านี้ ก็ไม่ได้ต้องสงสัยเลยว่า มีเงินทอน หรือ ขอแถมเพิ่มเติม แน่นอน

มันต้องดูคุณสมบัติ ซึ่งตัวหลักคือ
- ผลงานที่ผ่านมา ว่าเคยรับงานในลักษณะแบบเดียวกันไหม
- ส่วน วงเงินการรับงาน มันขยับได้ อันนี้ไม่เป็นไร (แต่ต้องดูผลงานเก่าๆ ประกอบกัน)

ที่นี้ไปที่เรื่องการบิดราคา

1. หลักๆ เลยคือ ให้ดูราคาบิด ว่าลดลงจากราคากลางกี่ %
*เพราะถ้าเป็นเคสปกติที่ถูกต้อง ผู้รับเหมาจะใส่ราคาที่บิด คือ จำนวน % ที่ลดลง
**ไม่มีใครนั่งเทียน กดตัวเลขที่ชอบ เหมือนเดินไปซื้อหวย

ทีนี้เวลาตรวจ ว่าผิดปกติไหม ก็คือการคำนวนย้อนกลับ
โดนดูจากตัวเลขที่ ผู้รับเหมาบิดราคา ว่า ลดไปกี่ %
*ถ้าคำนวนย้อนกลับ แล้วตัวเลขมันไม่ลงตัว กับ จำนวน %
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า มีกลิ่น

2. โดยเฉลี่ยแล้ว ส่วนมากผู้รับเหมาจะบิดกันอย่างมากไม่เกิน 20-25% ครับ
ก็คือ ราคาที่บิดลดลงไป มันไม่ควรจะเกิน 1ใน4 ของราคากลาง
ถ้าเกินจากนี้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า มีกลิ่น


หมายเหตุ
เพราะต่อให้บิดราคาได้แล้ว ยังไม่ถือว่า ตัวเลขนั้น final นะครับ
มันต้องเขาไป ต่อรองราคา กับ คณะกรรมการในโครงการนั้นอีก !

ของผมมันเป็นวัสดุคอม ไม่รู้ว่าจะเหมือนการสร้างตึกหรือป่าว
ราคากลางทางหน่วยงานแจ้งไปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องต่ำกว่านี้ไม่แปลกอะไร
อย่างเช่นหน่วยงาน ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมจอเครื่องละ 2 หมื่นบาท ก็จะมีกำหนดสเปคไป
ก็ให้เอกชนมาบิดกันใคร ใครให้ถูกสุดก็มีสิทธิได้ไป
มีกำหนดแบบชัดเจนไว้เลยว่า
1.บริษัทต้องมีการจดทะเบียนชัดเจน มีมูลค่าบริษัทมาแสดง
2.บริษัทต้องได้รับความยิมยอมจากเจ้าของสินค้าให้เป็นผู้จัดจำหน่าย
3.บริษัทต้องมีกำไรในปีที่ผ่ามา
ประมาณนี้