คือถ้าแกไม่ได้เก่งอะไรมาก แล้วเจ็บขนาดนี้ ขายไปก็ไม่เสียดาย

แต่ผมว่าแกก็ยังเก่งระดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีคอ่ะ ความเข้าใจเกมส์ ความเยือกเย็นหน้าปากประตู ยังไงมีแกมันก็มีประโยชน์มากๆ นี่ขนาดฤดูกาลนี้โดนด่าสาดเสียเทเสีย แต่แกก็ยังเป็นหน้าเป้าเบอร์ 1 อยู่ดีในลิเวอร์พูล

ถ้าต้องขาย อีกคนนู่นแหละ ก่อนที่ราคาจะตกไปมากกว่านี้

ใจอยากให้ขาย เบื่อเรื่องเจ็บ

แต่ก็เสียดายตอนมันเทพๆ

เจ็บยาวตลอด กว่าจะเรียกฟอร์ม ก็จะเล่นกาวๆกากๆ
พอเริ่มเทพ 2 นัด เจ็บยาวอีก วนลูบตั้งแต่ซื้อมา
สรุปฝากผีฝากไข้ไม่ได้

แต่เป็นตัวโจคเกอร์ได้ดีมากๆ เวลาเปลี่ยนมาสำรอง ยิงประจำ

ถ้าไม่เจ็บผมว่าตัวจริงๆสบายๆ

ผมอยากให้เก็บเพื่อเป็นสำรอง ไม่ใช่เก็บไว้เป็นตัวจริง โจต้าไม่ได้สม่ำเสมอขนาดนั้น ลงตัวจริงมักจะหายเกือบตลอด แถมยังมีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บรบกวนบ่อยโคตรๆอีกด้วย

จากข้อมูลในฤดูกาล 2024/25 ถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูลนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกห่าง 12 แต้ม เหลืออีก 7-8 เกม ซึ่งเกือบการันตีแชมป์แล้วภายใต้การคุมทีมของอาร์เน่ สล็อต โชต้ามีส่วนสำคัญในบางนัด เช่น การยิงประตูชัยในเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ภาพรวมฤดูกาลนี้เขากลับฟอร์มไม่คงที่ โดยยิงในลีกไปแค่ 5 ประตูจาก 18 นัด และมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่ทำให้ลงเล่นไม่ต่อเนื่อง (เฉลี่ยลงตัวจริงในลีกแค่ 12 นัดต่อฤดูกาลในช่วง 3 ปีหลัง)

เหตุผลที่ควรเก็บโชต้า
1. คุณภาพในฐานะตัวสำรอง: โชต้าพิสูจน์มาแล้วว่าเป็น “Joker” ที่ลงมาปลดล็อกเกมได้ดี เช่น เกมล่าสุดกับเอฟเวอร์ตัน หรือฤดูกาล 2021/22 ที่เขายิงถึง 21 ประตูตอนฟิตเต็มที่ ความสามารถในการหาพื้นที่และจบสกอร์ยังคงเป็นจุดแข็งที่หาได้ยากในราคาที่สมเหตุสมผล
2. เคมีในทีม: เขาเป็นที่รักของเพื่อนร่วมทีมและยอมรับบทบาทสำรองได้ ซึ่งสำคัญมากในทีมที่ต้องการความลึกของขุมกำลังเพื่อลุยทั้งลีกและบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า
3. ความเป็นจริงในตลาด: ถ้าเราขายโชต้า ต้องหาตัวแทนที่เล่นหน้าเป้าได้ดีและยอมเป็นสำรอง ซึ่งหายากและอาจแพงเกินไปในซัมเมอร์นี้ โดยเฉพาะเมื่อเรามีตำแหน่งอื่นที่ต้องเสริมเยอะ เช่น แบ็คขวา (ถ้าเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ย้าย), เซ็นเตอร์แบ็ค (ถ้าเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คไม่ต่อสัญญา), และกองกลางตัวหมุนเวียน

เหตุผลที่ควรขายโชต้า
1. อาการบาดเจ็บ: โชต้าพลาดลงสนามไปถึง 93 นัดตั้งแต่ย้ายมาในปี 2020 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับนักเตะอายุ 28 ปีที่ควรอยู่ในช่วงพีค ความเสี่ยงนี้กระทบความสม่ำเสมอของทีม
2. โอกาสปรับปรุงแนวรุก: ถ้าเราจะหากองหน้าตัวเป้าตัวใหม่ (เช่น อเล็กซานเดอร์ อิซัค หรือวิคเตอร์ โอซิมเฮน) การขายโชต้าจะช่วยเพิ่มงบประมาณและลดความซ้ำซ้อนในตำแหน่งหน้าเป้า ซึ่งตอนนี้นูนเญซก็ยังไม่นิ่ง และดิอาซก็ฟอร์มตกในช่วงหลัง
3. มูลค่าในตลาด: ด้วยสัญญาที่ยังเหลือถึงปี 2027 โชต้ายังมีมูลค่าประมาณ 30-40 ล้านปอนด์ ซึ่งเราสามารถนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนในตัวเลือกที่ฟิตกว่าและเหมาะกับปรัชญาของสล็อตมากขึ้น

หลังจากชั่งน้ำหนักทั้งหมด ผมตัดสินใจว่า "ควรเก็บโชต้าไว้ในฤดูกาล 2025/26" แต่กำหนดเงื่อนไขชัดเจนว่า ถ้าซัมเมอร์หน้า (2026) เขายังเจ็บบ่อยและฟอร์มไม่ดีขึ้น เราจะพิจารณาขายทันที เหตุผลหลักคือ:

- ความสมดุลของทีม: ซัมเมอร์นี้เรามีภารกิจใหญ่ในการรักษาแกนหลักอย่างโม ซาลาห์ และฟาน ไดจ์ค รวมถึงหาตัวแทนเทรนต์ถ้าเขาย้ายไปมาดริด การเสียกองหน้าออกไปพร้อมกัน 2 คน (เช่น โชต้าและนูนเญซ) จะทำให้แนวรุกเราบางเกินไป โดยเฉพาะถ้าเคียซ่าถูกปล่อยด้วย
- ความคุ้มค่า: โชต้าคือตัวเลือกที่ “พร้อมใช้งาน” และรู้ระบบทีมดีอยู่แล้ว การซื้อกองหน้าใหม่มาเป็นสำรองอาจต้องใช้เวลาปรับตัว ซึ่งเราไม่มีเวลาให้นักเตะใหม่ขนาดนั้นในฤดูกาลหน้าที่ต้องป้องกันแชมป์ลีกและกลับไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีก
- ทางเลือกอื่น: นูนเญซน่าจะเป็นคนที่ถูกขายก่อน เพราะมูลค่าในตลาดสูงกว่า (50-60 ล้านปอนด์) และฟอร์มยังไม่นิ่งจนน่ากังวลกว่าโชต้าในแง่ความสม่ำเสมอ

ผมอยากให้โชต้าพิสูจน์ตัวเองในฤดูกาลหน้า โดยมีเป้าหมายว่าเขาต้องลงเล่นอย่างน้อย 25 นัดในลีกและยิงเกิน 10 ประตู ถ้าทำไม่ได้ เราจะมองหาตัวแทนในซัมเมอร์ 2026 พร้อมกับวางแผนซื้อกองหน้าตัวเป้าตัวจริงในซัมเมอร์นี้ (2025) เช่น อิซัค หรือเซสโก้ เพื่อให้ทีมมีตัวเลือกที่หลากหลายและฟิตสมบูรณ์ขึ้น

ดังนั้น คำตอบของผมคือ "เก็บโชต้าไว้" แต่พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เพื่อให้ลิเวอร์พูลยังคงแข็งแกร่งและยืดหยุ่นในระยะยาว

อยากให้เก็บไว้ อย่างน้อยกับตอนเปลี่ยนมาสำรอง ยังรู้สึกถึงประตูได้มากกว่าหนูนอีกนะเอาจริง
ยิ่งหน้าจะไปหลายตัว มาใหม่กว่าจะจูนระบบติดอีกยาว