เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป หรือ M เดินเกมใหม่ บอร์ดมีมติตั้ง”บริษัท คุ้มคุ้ม” ทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท มีแผนเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท
บมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วันที่ 2 เมษายน 2568 อนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ชื่อ บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด วัตถุประสงค์ของการลงทุน เพื่อประกอบธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม

โดยบริษัท คุ้มคุ้ม (บริษัทย่อยใหม่) มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท และบริษัทฯ มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 200 ล้านบาทในอนาคต
โครงสร้างการถือหุ้น บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทย่อยแห่งใหม่ แหล่งที่มาของเงินทุน เงินสดจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบ ไม่มีความเห็นขัดแย้งกับคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งนี้ รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และขนาดรายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายการเปิดเผยข้อมูลตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์

https://moneyandbanking.co.th/2025/164710

คือจะทำแบรนด์ใหม่มาแข่งกับพวกตี๋น้อย/ลัคกี้เหรอ ดูจากชื่อ

ลงมาลุยตลาด บุฟเฟ่ แล้วมั้ง


ขอแบบ 399 คุณภาพ MK นะฮ่ะ

มีแววจะลงมาตีตลาดบุฟเฟ่ต์ แข่งกับหลาย ๆ เจ้าที่ทำกันอยู่แน่

ถ้าราคาน่ารัก แล้วคุณภาพใกล้เคียง MK ผมว่าปังนะ

ผมว่าแบบนั้นแหละ เพราะsupply chain คุมอยู่แล้ว แต่จะให้ mk ลดราคามาสู็พวก ตี๋น้อยหรือลัคกี้ จังๆเลยไม่ได้หรอกเสียเกรด branding หมด

จริงๆตัว mk buffet ที่ 499 ผมว่าก็คุ้มมากนะ อร่อยกว่าพวกแบรนรองๆด้วย ตัด ติ่มซำออก ทำราคาเท่า ชาบูชิ 399 ก็สบายละ

ตลาดเดือด เมื่อวานไปกินบาร์บิกอนตัว 599
ผมว่าไม่ค่อยคุ้มกับสายเนื้อเท่าไหร่ เนื้อมีให้น้อยไป ไม่มีเนื้อติดมัน
แต่วัตถุดิบพวกหมู กุ้ง มันดีกว่าคู่แข่งที่ราคาต่ำกว่า 400 เยอะ

อย่างที่เคยมีนักการตลาดคนนึงวิเคราะห์ไว้ สงครามตี๋น้อย เอ็มเค สุดท้าย ต่างฝ่ายต้องแตกแบรนด์ mk ต้องออกแบรนด์ใหม่ราคาถูกมาสู้ตี๋น้อย ตี๋น้อยต้องออกแบรนด์แพงมาชนเอ็มเค ( อาจจะในอนาคต รอให้กลุ่มลูกค้าหลักเริ่มโตเข้าวัยทำงาน )


สาเหตุที่ต้องทำ เพราะทั้งสองแบรนด์ไม่สามารถปรับแบรนดหลักลงไปชนราคาอีกแบรนด์ได้ ตัวแบรนด์ mk ทำราคาถูกไปสู้ก้ไม่คุ้ม ตี๋น้อยทำราคาแพงขึ้นไปก็ไม่ได้

ผมสงสัยว่า (ถ้าทำชนตี๋น้อย) ทำไมถึงคิดช้าจัง

ทำช้าไปจน ตี๋น้อยจะเป็น Icon ของสุกี้ตลาดกลางไปแล้ว เหมือนที่เอมเคเป็น Icon ของกลุ่มตลาดบนคนมีตังนั่นแหละ

จะลดต้นทุน มันต้องแตกบริษัทย่อย

กลุ่มอายุ กิน MK ส่วนใหญ่เป็นระดับผู้ใหญ่อาวุโสค่อนข้างมีเงินซึ่งกลุ่มนี้นับวันเริ่มลดน้อยลงไป ส่วนกลุ่มคนทั่วไปไปรอคิวร้านบุฟเฟต์ เน้นปริมาณครับ