ขอถามโง่ๆ แบบคนไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์เลยนะครับ เรื่องกำแพงภาษีของเมกา

ถ้าเกิดทุกประเทศไม่สนใจ พร้อมใจกันขายแบบเอากำไรเท่าเดิมล่ะ
อย่างเดิมขาย 100 นึง พอโดนตั้งกำแพงภาษี 20% ก็ขึ้นราคาเป็น 120 เพื่อให้ตัวเองได้กำไรเท่าเดิม

งี้ก็กระทบแต่ประชาชนเมกาดิ ที่ต้องจ่ายแพงขึ้น ไม่กระทบประเทศอื่นเลย
จะย้ายฐานมาผลิตในเมกาก็ไม่ไหว ค่าแรงแพงมาก ยังไงสุดท้ายมันแพงกว่า 120 แน่ๆ

ต้องเข้าใจก่อนว่าอำนาจการซื้ออเมริกามันเยอะมากๆ

พอเป็นแบบนี้คนไม่ได้ขาย จะตายก่อนคนซื้อแพงอ่ะสิครับ
(ละเขาปริ้น USD ได้ฮะ ไม่ต้องไปห่วงเมกาเขา)

จับมือค้าขายกันเองง่ายกว่าเลิกยุ่งกับไอ้กันปล่อยให้มันอยู่คนเดียวไป

ท่านคิดว่าประเทศผู้ขายกับเมกาใครจะอึดกว่ากันครับ

ต้องเข้าใจก่อนว่าอำนาจการซื้ออเมริกามันเยอะมากๆ

พอเป็นแบบนี้คนไม่ได้ขาย จะตายก่อนคนซื้อแพงอ่ะสิครับ
(ละเขาปริ้น USD ได้ฮะ ไม่ต้องไปห่วงเมกาเขา)

ได้ครับ หลายๆประเทศก็ทำอย่างงี้อยู่

จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี เพิ่งรวมกลุ่ม Freetrade ค้าขายกันเอง หวังชดเชยตลาดจากเมกา

ทุนไม่หนาพอ ขายไม่ออก จะเอาตังไหนใช้ครับ

ผมว่ายากมากกก

ได้ครับ แต่ต้องทำพร้อมกันเกือบทุกประเทศ

มันต้องดูเป็นรายสินค้าไป

- สินค้า ที่อเมริกา กลับมา ผลิตเอง อันนี้ ได้รับผลดีเรื่องการจ้างงาน และ คิดว่า โรงงานขนาดเล็ก น่าจะเกิดเยอะ ในอเมริกา เพราะผลิตมา ก็ขายถูกกว่าของนำเข้า ระยะสั้นๆ4ปีจากนี้

แต่ก็มีปัญหา ต้องคิดเยอะคือ สมมติว่า เปลี่ยนรัฐบาล4ปีข้างหน้า
มีการเจรจา ลดภาษีนำเข้าลดลง กลายเป็นตั้งโรงงานติดดอยเลย......

- สินค้าา ที่อเมริกา ผลิตเองไม่ได้เลย... อันนี้ต้องทำใจยอมรับ หรือ หาที่ยอมลดราคา
จากประเทศที่ภาษีไม่แพงมาก...

ยกตัวอย่าง น้ำปลา ไทยกับเวียดนามแข่งกันอยู่ ไทยได้เปรียบเวียดนามทันที เพราะเวียดนามโดนภาษีมากกว่า

สินค้าเกษตร ที่อเมริกาไม่ผลิต มีไทยกับเวียดนามผลิต อันนี้น่าจะส่งผลดีนะ.. ราคาสินค้าไทยจะดีกว่าเวียดนาม

สินค้าอุตสหกรรม รถยนต์ ก็โดนกันทุกประเทศ ทุกประเทศคงไม่สนใจ ให้คนอเมริกา แบกภาษีไป หรือไม่ก็ไปซื้อรถที่ผลิตในประเทศแทน

ยังไงสินค้าต้องแพงอยู่แล้ว

ไม่มีใครปรับราคาลง20%หรอก ขาดทุนพอดี

มันไม่ใช่เรามีสินค้านี้ประเทศเดียวสิ และไม่ใช่ทุกประเทศจะโดนภาษีเท่ากันหมด

เราไปบังคับเค้าซื้อไม่ได้ 120 เค้าก็ไม่ซื้อ ไปหาซื้อจากประเทศที่โดนภาษีน้อยกว่า ช่วงแรกของอาจจะขาด แต่ต่อไปคนเมกาปรับตัว ประเทศที่ได้รับโอกาสก็จะปรับตัวได้และเข้ามาทดแทนตลาดเรา ซึ่งถ้าปล่อยไปถึงจุดนั้นเราก็ต้องลำบากไปหาตลาดอื่นแทนสหรัฐ ซึ่งก็ไม่ง่าย เพราะตลาดอื่นๆมันก็มีคนซื้อขายของกันและกันอยู่แล้ว

สุดท้ายมันคือการบีบให้เข้าสู่โต๊ะเจรจานั้นแหละ หลังจากนี้ก็วัดฝีมือรัฐบาล

ผมตอบแบบคนโง่ ๆ ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
ถ้าเราหาตลาดใหม่แทนเมกาได้ ก็ไม่มีผล
แต่จะมีไหมแค่นั้น

ส่วนคนเมกา ถ้าของแพง เขาก็คงหันไปใช้ของ เมดอินยูเอสเอเอง

แต่ดีเท่าชาติที่ส่งออกมาขายไหมนั่นอีกเรื่อง

สมมุติ ผมอยู่เมกา

กูอยากกินกระเพรา เมกาปลูกไม่ได้ ต้องนำเข้าอย่างเดียว

นี่ชิบหายเลยนะ แล้วผมอยู่ไม่ได้ด้วย ถ้าไม่มีกระเพรากิน

ก็ขายไม่ได้ไง

อันนี้ เมกา บังคับใช้ แล้วใช่มั้ย ครับ

ห้ามให้คนแตกแถวอะยาก ดูอย่างช่วงโควิด ขนาด opec จับมือกันแน่นยังแย่งกันขายช่วงราคาน้ำมันต่ำเลย

เมกาคือตลาดที่บริโภคใหญ่สุด คิดเป็น 20% ของโลก

คือจะหาตลาดที่จะแทนไอ้กันได้ มันยากหนะสิ