BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: คารวะอาจารย์เยี่ยว !
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 13011
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 09:06
ปรึกษาหุ้น USA ครับ
ค่อนข้างมือใหม่ครับทยอยเข้าไปบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่อยู่แต่หุ้น tech เป็นหลัก มีกองทุนแค่นิดหน่อย


อยากได้คำแนะนำซื้อ sector อื่นๆไว้กระจายความเสี่ยงบ้างครับ แต่ไม่รู้ควรเอาตัวไหนดีที่มีอนาคตโต

รบกวนแนะนำทีครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
จารย์เยี่ยวปืนใหญ่ นีโออาร์มสตรอง 8==D

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Apr 2010
ตอบ: 34
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 09:16
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
ขอถามคำถามเบื้องต้นก่อนนะครับ
1. เงินที่นำมาลงทุนและสัดส่วน เช่น 50% ของเงินออม (ไม่ใช้ไม่ลำบาก)
2. เป้าหมายและระยะเวลาลงทุนเช่น สั้น < 3 ปี กลาง 3 - 5 ปี ยาว > 5 ปี
3. ขอบเขตรับความเสี่ยงที่ได้ เช่น ขาดทุน 10-20-30-50% ของต้นทุน

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: คารวะอาจารย์เยี่ยว !
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 13011
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 09:20
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
knottoap พิมพ์ว่า:
ขอถามคำถามเบื้องต้นก่อนนะครับ
1. เงินที่นำมาลงทุนและสัดส่วน เช่น 50% ของเงินออม (ไม่ใช้ไม่ลำบาก)
2. เป้าหมายและระยะเวลาลงทุนเช่น สั้น < 3 ปี กลาง 3 - 5 ปี ยาว > 5 ปี
3. ขอบเขตรับความเสี่ยงที่ได้ เช่น ขาดทุน 10-20-30-50% ของต้นทุน

 

1.เงินบาทครับไม่ใช่เงินเยน แฮร่ จริงๆก็คือเงินเย็นนี่แหละครับ
2.ถือ 3-5 ปีได้ครับ มากกว่า 5 ปีก็น่าจะได้ ตั้งใจถือออมเพื่อชนะเงินเฟ้อเฉยๆ
3.สัก -20 -30 น่าจะยังพอไหวครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
จารย์เยี่ยวปืนใหญ่ นีโออาร์มสตรอง 8==D

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Apr 2010
ตอบ: 34
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 09:35
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
เยี่ยวเฉี่ยวหัว พิมพ์ว่า:
knottoap พิมพ์ว่า:
ขอถามคำถามเบื้องต้นก่อนนะครับ
1. เงินที่นำมาลงทุนและสัดส่วน เช่น 50% ของเงินออม (ไม่ใช้ไม่ลำบาก)
2. เป้าหมายและระยะเวลาลงทุนเช่น สั้น < 3 ปี กลาง 3 - 5 ปี ยาว > 5 ปี
3. ขอบเขตรับความเสี่ยงที่ได้ เช่น ขาดทุน 10-20-30-50% ของต้นทุน

 

1.เงินบาทครับไม่ใช่เงินเยน แฮร่ จริงๆก็คือเงินเย็นนี่แหละครับ
2.ถือ 3-5 ปีได้ครับ มากกว่า 5 ปีก็น่าจะได้ ตั้งใจถือออมเพื่อชนะเงินเฟ้อเฉยๆ
3.สัก -20 -30 น่าจะยังพอไหวครับ
 


ถ้าผมแนะนำการลงทุนในหุ้นสหรัฐมีโอกาสทำกำไรได้มากและเสียได้มากเช่นกัน (เรารับได้ 20-30% โอเคในระดับนึงครับ)
ซึ่งการลงตลาด 3-5 ปี เพื่อหวังออมให้ชนะเฟ้อ (~5%)
ผมตีให้สูงขึ้นไปที่ ~7% ต่อปี ทำได้ไม่ยากจนเกินไปแน่นอนครับ

กลับมาที่ sector หุ้น
หุ้นที่มีการเติบโตของราคาได้ไวและไม่ค่อยมีเพดานคือหุ้น Tech เน้นเจ้าตลาดและ Ai
ตอนนีัผมมองว่ามันกำลังปรับฐานใหม่หลังจากขึ้นมาแรงมากๆ และข่าวร้ายก็เข้ารัวๆ
ข่าวทำให้อารมตลาดแปรปรวนได้มากครับ แต่บ.ก็ยังเปิดและทำกำไรอยู่
นั่นคือโอกาสในการหาบ.ที่ดีราคาถูกเสมอ > ผมทะยอยสะสมที่ราคาตามแนวรับเดิมครับ

ส่วนหุ้นที่ผมสนใจอีกทางคือ กลุ่มสุขภาพ บ.ยา
เพราะเทรนสุขภาพในอนาคตคือเทรนผู้สูงอายุ
บ.พวกนี้มีโอกาสไปต่อได้ แต่หุ้นไม่เคยง่ายครับ
ใครมองภาพธุรกิจที่น่าจะดีในอนาคต 5-10-20 ปีได้
คนนั้นเห็นเงินแน่นอนครับ

ผมพิมมายาว งงมั้ยครับ ผมก็งง
ส่วนลงทุนผ่านไหน ผมเน้นหุ้นรายตัวผ่าน DIME ครับ

แก้ไขล่าสุดโดย knottoap เมื่อ Tue Apr 01, 2025 09:36, ทั้งหมด 1 ครั้ง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: คารวะอาจารย์เยี่ยว !
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 13011
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 09:38
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
knottoap พิมพ์ว่า:
เยี่ยวเฉี่ยวหัว พิมพ์ว่า:
knottoap พิมพ์ว่า:
ขอถามคำถามเบื้องต้นก่อนนะครับ
1. เงินที่นำมาลงทุนและสัดส่วน เช่น 50% ของเงินออม (ไม่ใช้ไม่ลำบาก)
2. เป้าหมายและระยะเวลาลงทุนเช่น สั้น < 3 ปี กลาง 3 - 5 ปี ยาว > 5 ปี
3. ขอบเขตรับความเสี่ยงที่ได้ เช่น ขาดทุน 10-20-30-50% ของต้นทุน

 

1.เงินบาทครับไม่ใช่เงินเยน แฮร่ จริงๆก็คือเงินเย็นนี่แหละครับ
2.ถือ 3-5 ปีได้ครับ มากกว่า 5 ปีก็น่าจะได้ ตั้งใจถือออมเพื่อชนะเงินเฟ้อเฉยๆ
3.สัก -20 -30 น่าจะยังพอไหวครับ
 


ถ้าผมแนะนำการลงทุนในหุ้นสหรัฐมีโอกาสทำกำไรได้มากและเสียได้มากเช่นกัน (เรารับได้ 20-30% โอเคในระดับนึงครับ)
ซึ่งการลงตลาด 3-5 ปี เพื่อหวังออมให้ชนะเฟ้อ (~5%)
ผมตีให้สูงขึ้นไปที่ ~7% ต่อปี ทำได้ไม่ยากจนเกินไปแน่นอนครับ

กลับมาที่ sector หุ้น
หุ้นที่มีการเติบโตของราคาได้ไวและไม่ค่อยมีเพดานคือหุ้น Tech เน้นเจ้าตลาดและ Ai
ตอนนีัผมมองว่ามันกำลังปรับฐานใหม่หลังจากขึ้นมาแรงมากๆ และข่าวร้ายก็เข้ารัวๆ
ข่าวทำให้อารมตลาดแปรปรวนได้มากครับ แต่บ.ก็ยังเปิดและทำกำไรอยู่
นั่นคือโอกาสในการหาบ.ที่ดีราคาถูกเสมอ > ผมทะยอยสะสมที่ราคาตามแนวรับเดิมครับ

ส่วนหุ้นที่ผมสนใจอีกทางคือ กลุ่มสุขภาพ บ.ยา
เพราะเทรนสุขภาพในอนาคตคือเทรนผู้สูงอายุ
บ.พวกนี้มีโอกาสไปต่อได้ แต่หุ้นไม่เคยง่ายครับ
ใครมองภาพธุรกิจที่น่าจะดีในอนาคต 5-10-20 ปีได้
คนนั้นเห็นเงินแน่นอนครับ

ผมพิมมายาว งงมั้ยครับ ผมก็งง
ส่วนลงทุนผ่านไหน ผมเน้นหุ้นรายตัวผ่าน DIME ครับ

 

ไม่งงครับ หุ้นสุขภาพแนะนำตัวไหนบ้างครับ ผมเล็ง HIMS ไว้ตัวเดียวเอง

ขอบน้ำใจท่านมากๆครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
จารย์เยี่ยวปืนใหญ่ นีโออาร์มสตรอง 8==D

ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: keep calm and listen to Post-Rock
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 19923
ที่อยู่: 134340
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 09:56
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
ช่วงนี้หุ้นทีไม่ใช่ defensive บอกเลยว่า แดงยาวๆ เป็นกำลังใจให้นักลงทุนทุกท่าน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 11702
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 10:02
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
ผมกระจายไปแทบทุก sector เลย ชอบพวกโครงสร้างพื้นฐานนะ ไม่ไปไหนมาก ปันผลเรื่อยๆ ส่วนหุ้น tech ติดไว้แค่ 10% ของพอร์ต
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jul 2006
ตอบ: 7
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 10:36
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
ในห้วงเวลาปกติแต่ละ Sector จะมี Cycle ของมันครับ เช่น ถ้าหุ้น Growth ร่วง หุ้น Defensive ก็จะขึ้น(หรือร่วงน้อยกว่า) เป็นคล้ายๆกันทั้งหุ้นและกองทุนครับ

ถ้ามีหุ้น Tech อยู่แล้ว และอยากจะกระจายความเสี่ยงไปกลุ่มอื่น ถือว่าดีเลยครับ จะได้ Balance พอร์ตครับ แต่มันจะต้องดูเรื่องสัดส่วนด้วยครับ เช่นถ้า Balance ทุก Sector เท่าๆกัน พอร์ตจะโตช้า (หรือได้ปันผลน้อยในกรณีเน้นปันผล) ครับ พวกกองทุนถึงมีการโชว์ Top 10 หุ้นในพอร์ตเค้าครับว่าตัวไหนเป็นตัวแบกตัวชูโรงครับ ซึ่ง
หลักๆพวกกองทุน Growth เค้าใช้หุ้น Tech นี่แหละครับ

หุ้นที่น่าจะมีเพิ่มในแต่ละ Sector ขอเน้นที่บาง Sector ที่บางหุ้นใหญ่ เพราะง่ายต่อการหาข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงาน และการันตีถึงความสามารถในการบริหารบริษัทได้ดีระดับนึงนะครับ

ยา
- LLY / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&D มีประสิทธิภาพ
- ABBV / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&D มีประสิทธิภาพ
- NVO / บริษัทยาเจ้าใหญ่ของยุโรป เก่งเรื่องยาลดน้ำหนัก

การแพทย์&ประกัน
- ISRG / หุ่นยนต์ผ่าตัด เป็น Trend ขาขึ้น
- TMO / เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในห้อง Lab
- UNH / ประกันสุขภาพอันดับต้นๆของประเทศ
- CB / ประกันต่างๆ อันดับต้นๆของประเทศ

การเงิน
- JPM / ธนาคารอันดับต้นของอเมริกา ผลงานดี
- V , MA , AXP / การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต กำไรเบื้องต้นดีมาก เลือกตามความชอบ
- BRK-B / Berkshire หุ้น VI เน้นลงทุนในบริษัทที่มีประสิทธิภาพ

การค้า
- AMZN / เป็นมากกว่าหุ้นเทค ผลงานดีในหลายธุรกิจ
- MELI / ดำเนินรอยตาม AMZN แต่ตลาดในอเมริกาใต้ เกือบๆ Monopoly
- COST , WM / เจ้าใหญ่ค้าปลีกอันดับต้นๆของประเทศ

สินค้าโภคภัณฑ์& อุตสาหกรรม
- KO , PEP / เครื่องดื่มที่ขายทั่วโลก
- JNJ / ของใช้ในครัวเรือนและยา
- LVMUY / สินค้ากลุ่ม Luxury อันดับต้นๆของโลก
- STRL / รับเหมาก่อสร้าง Backlog ดีมากๆและหลากหลาย
- DHI / รับสร้างบ้านอันดับต้นๆ
- HD / คล้ายๆโฮมโปร อันดับ 1
- LMT / ยุทธโธปกรณ์ทางทหาร อันดับต้นๆ

สาธารณูปโภค
- NEE / พลังงานสะอาด อันดับหนึ่งในรัฐฟลอริดา
- CEG / พลังงานนิวเคลียร์อันดับ 1
- WM / กำจัดขยะ เกือบๆจะ Monopoly

** หุ้นเล็กและมีศักยภาพ
- RKLB / อุตสาหกรรมจรวดและอวกาศ
- TMDX / เปลี่ยน เคลื่อนย้าย และปลูกถ่ายอวัยวะ
- HIMS / เด่นเรื่องโรคที่เกี่ยวกับเพศ และเด่นเรื่อง Tele-Health
- IONQ / ควอนตัมเทคโนโลยี
- TEM , ARQT , CLPT / บริษัทขนาดเล็กที่เกี่ยวกับการวิจัยเพื่อการรักษาโรคชนิดต่างๆเฉพาะทาง มีการใช้ AI ในการวิจัย


ลองศึกษาดูก่อนนะครับ ;)
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7073
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 10:37
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
PostRock พิมพ์ว่า:
ช่วงนี้หุ้นทีไม่ใช่ defensive บอกเลยว่า แดงยาวๆ เป็นกำลังใจให้นักลงทุนทุกท่าน  


ผมนี่ก็นั่งทับมือไว้ก่อน รอดูพรุ่งนี้ก่อน ถ้าดูแล้วจะดี ผมก็เข้า Tech เพิ่มเพราะเน้นสะสมระยะยาวมากกว่า (กอง RMF ผมนี่ลงแต่ Tech ยาวๆ 555) เพราะทุนผมค่อนข้างต่ำเพราะซื้อสะสมมาตั้งแต่ช่วงโควิด
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2005
ตอบ: 13509
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 10:53
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
Raul2000 พิมพ์ว่า:
ในห้วงเวลาปกติแต่ละ Sector จะมี Cycle ของมันครับ เช่น ถ้าหุ้น Growth ร่วง หุ้น Defensive ก็จะขึ้น(หรือร่วงน้อยกว่า) เป็นคล้ายๆกันทั้งหุ้นและกองทุนครับ

ถ้ามีหุ้น Tech อยู่แล้ว และอยากจะกระจายความเสี่ยงไปกลุ่มอื่น ถือว่าดีเลยครับ จะได้ Balance พอร์ตครับ แต่มันจะต้องดูเรื่องสัดส่วนด้วยครับ เช่นถ้า Balance ทุก Sector เท่าๆกัน พอร์ตจะโตช้า (หรือได้ปันผลน้อยในกรณีเน้นปันผล) ครับ พวกกองทุนถึงมีการโชว์ Top 10 หุ้นในพอร์ตเค้าครับว่าตัวไหนเป็นตัวแบกตัวชูโรงครับ ซึ่ง
หลักๆพวกกองทุน Growth เค้าใช้หุ้น Tech นี่แหละครับ

หุ้นที่น่าจะมีเพิ่มในแต่ละ Sector ขอเน้นที่บาง Sector ที่บางหุ้นใหญ่ เพราะง่ายต่อการหาข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงาน และการันตีถึงความสามารถในการบริหารบริษัทได้ดีระดับนึงนะครับ

ยา
- LLY / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;D มีประสิทธิภาพ
- ABBV / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;D มีประสิทธิภาพ
- NVO / บริษัทยาเจ้าใหญ่ของยุโรป เก่งเรื่องยาลดน้ำหนัก

การแพทย์&amp;ประกัน
- ISRG / หุ่นยนต์ผ่าตัด เป็น Trend ขาขึ้น
- TMO / เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในห้อง Lab
- UNH / ประกันสุขภาพอันดับต้นๆของประเทศ
- CB / ประกันต่างๆ อันดับต้นๆของประเทศ

การเงิน
- JPM / ธนาคารอันดับต้นของอเมริกา ผลงานดี
- V , MA , AXP / การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต กำไรเบื้องต้นดีมาก เลือกตามความชอบ
- BRK-B / Berkshire หุ้น VI เน้นลงทุนในบริษัทที่มีประสิทธิภาพ

การค้า
- AMZN / เป็นมากกว่าหุ้นเทค ผลงานดีในหลายธุรกิจ
- MELI / ดำเนินรอยตาม AMZN แต่ตลาดในอเมริกาใต้ เกือบๆ Monopoly
- COST , WM / เจ้าใหญ่ค้าปลีกอันดับต้นๆของประเทศ

สินค้าโภคภัณฑ์&amp; อุตสาหกรรม
- KO , PEP / เครื่องดื่มที่ขายทั่วโลก
- JNJ / ของใช้ในครัวเรือนและยา
- LVMUY / สินค้ากลุ่ม Luxury อันดับต้นๆของโลก
- STRL / รับเหมาก่อสร้าง Backlog ดีมากๆและหลากหลาย
- DHI / รับสร้างบ้านอันดับต้นๆ
- HD / คล้ายๆโฮมโปร อันดับ 1
- LMT / ยุทธโธปกรณ์ทางทหาร อันดับต้นๆ

สาธารณูปโภค
- NEE / พลังงานสะอาด อันดับหนึ่งในรัฐฟลอริดา
- CEG / พลังงานนิวเคลียร์อันดับ 1
- WM / กำจัดขยะ เกือบๆจะ Monopoly

** หุ้นเล็กและมีศักยภาพ
- RKLB / อุตสาหกรรมจรวดและอวกาศ
- TMDX / เปลี่ยน เคลื่อนย้าย และปลูกถ่ายอวัยวะ
- HIMS / เด่นเรื่องโรคที่เกี่ยวกับเพศ และเด่นเรื่อง Tele-Health
- IONQ / ควอนตัมเทคโนโลยี
- TEM , ARQT , CLPT / บริษัทขนาดเล็กที่เกี่ยวกับการวิจัยเพื่อการรักษาโรคชนิดต่างๆเฉพาะทาง มีการใช้ AI ในการวิจัย


ลองศึกษาดูก่อนนะครับ ;)  


ข้อมูลแน่น

ผมงง คนไทยที่เริ่มลงทุนต่างประเทศ ลงแต่หุ้นเทค

ตายสิครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2049
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 10:56
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
หุ้นที่นิยมกันที่ไม่ใช่ Tech/AI ก็จะมี

หุ้นยา มีทั้ง Growth/Defensive/ปันผล
หุ้นค้าปลีก ส่วนใหญ่เป็น defensive
หุ้นกลุ่มการเงินและธนาคาร ส่วนใหญ่เป็น Defensive/ปันผล
นอกนั้นอาจจะเป็นพวก infrastructure ครับ


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jul 2006
ตอบ: 7
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 11:19
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
lambo5 พิมพ์ว่า:
Raul2000 พิมพ์ว่า:
ในห้วงเวลาปกติแต่ละ Sector จะมี Cycle ของมันครับ เช่น ถ้าหุ้น Growth ร่วง หุ้น Defensive ก็จะขึ้น(หรือร่วงน้อยกว่า) เป็นคล้ายๆกันทั้งหุ้นและกองทุนครับ

ถ้ามีหุ้น Tech อยู่แล้ว และอยากจะกระจายความเสี่ยงไปกลุ่มอื่น ถือว่าดีเลยครับ จะได้ Balance พอร์ตครับ แต่มันจะต้องดูเรื่องสัดส่วนด้วยครับ เช่นถ้า Balance ทุก Sector เท่าๆกัน พอร์ตจะโตช้า (หรือได้ปันผลน้อยในกรณีเน้นปันผล) ครับ พวกกองทุนถึงมีการโชว์ Top 10 หุ้นในพอร์ตเค้าครับว่าตัวไหนเป็นตัวแบกตัวชูโรงครับ ซึ่ง
หลักๆพวกกองทุน Growth เค้าใช้หุ้น Tech นี่แหละครับ

หุ้นที่น่าจะมีเพิ่มในแต่ละ Sector ขอเน้นที่บาง Sector ที่บางหุ้นใหญ่ เพราะง่ายต่อการหาข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงาน และการันตีถึงความสามารถในการบริหารบริษัทได้ดีระดับนึงนะครับ

ยา
- LLY / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;amp;D มีประสิทธิภาพ
- ABBV / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;amp;D มีประสิทธิภาพ
- NVO / บริษัทยาเจ้าใหญ่ของยุโรป เก่งเรื่องยาลดน้ำหนัก

การแพทย์&amp;amp;ประกัน
- ISRG / หุ่นยนต์ผ่าตัด เป็น Trend ขาขึ้น
- TMO / เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในห้อง Lab
- UNH / ประกันสุขภาพอันดับต้นๆของประเทศ
- CB / ประกันต่างๆ อันดับต้นๆของประเทศ

การเงิน
- JPM / ธนาคารอันดับต้นของอเมริกา ผลงานดี
- V , MA , AXP / การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต กำไรเบื้องต้นดีมาก เลือกตามความชอบ
- BRK-B / Berkshire หุ้น VI เน้นลงทุนในบริษัทที่มีประสิทธิภาพ

การค้า
- AMZN / เป็นมากกว่าหุ้นเทค ผลงานดีในหลายธุรกิจ
- MELI / ดำเนินรอยตาม AMZN แต่ตลาดในอเมริกาใต้ เกือบๆ Monopoly
- COST , WM / เจ้าใหญ่ค้าปลีกอันดับต้นๆของประเทศ

สินค้าโภคภัณฑ์&amp;amp; อุตสาหกรรม
- KO , PEP / เครื่องดื่มที่ขายทั่วโลก
- JNJ / ของใช้ในครัวเรือนและยา
- LVMUY / สินค้ากลุ่ม Luxury อันดับต้นๆของโลก
- STRL / รับเหมาก่อสร้าง Backlog ดีมากๆและหลากหลาย
- DHI / รับสร้างบ้านอันดับต้นๆ
- HD / คล้ายๆโฮมโปร อันดับ 1
- LMT / ยุทธโธปกรณ์ทางทหาร อันดับต้นๆ

สาธารณูปโภค
- NEE / พลังงานสะอาด อันดับหนึ่งในรัฐฟลอริดา
- CEG / พลังงานนิวเคลียร์อันดับ 1
- WM / กำจัดขยะ เกือบๆจะ Monopoly

** หุ้นเล็กและมีศักยภาพ
- RKLB / อุตสาหกรรมจรวดและอวกาศ
- TMDX / เปลี่ยน เคลื่อนย้าย และปลูกถ่ายอวัยวะ
- HIMS / เด่นเรื่องโรคที่เกี่ยวกับเพศ และเด่นเรื่อง Tele-Health
- IONQ / ควอนตัมเทคโนโลยี
- TEM , ARQT , CLPT / บริษัทขนาดเล็กที่เกี่ยวกับการวิจัยเพื่อการรักษาโรคชนิดต่างๆเฉพาะทาง มีการใช้ AI ในการวิจัย


ลองศึกษาดูก่อนนะครับ ;)  


ข้อมูลแน่น

ผมงง คนไทยที่เริ่มลงทุนต่างประเทศ ลงแต่หุ้นเทค

ตายสิครับ  


สามารถทำได้ดังนี้ครับ

1) สาย VI ระยะยาว
เนื่องจากหุ้น Tech เป็นหุ้นที่มีการขึ้นดีแต่ในช่วงเวลาที่ไม่ดีก็มี Drawdown สูง จึงนิยมใช้วิธี สะสมในช่วงเวลาที่หุ้นตกเพื่อลดค่าเฉลี่ยครับ ในระยะยาวพอหุ้นขึ้นก็จะได้กำไรตามที่ช้อนในแต่ละรอบครับ

2) สาย VI ระยะยาว ซื้อ Reverse ETF
คือการซื้อหุ้น Tech ตามปกติแต่จะซื้อกองทุน ETF ที่มีผลตอบแทนที่สูงกว่าปกติ 2-3 เท่าในกรณีที่หุ้นเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม อารมณ์เหมือนซื้อประกัน เอากำไรมาโป๊ะตอนขาลงครับ

3) สาย Trade ระยะสั้น
มักจะขายทำกำไรตอนที่ All Time High และไปรอซื้อตอนที่ตกลงตามรอบครับ

ถ้าจะเล่นหุ้น Sector เดียวจะต้องอาศัยการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาครับ แบบที่ 2 ถ้าซื้อ Reverse ไว้แล้วไม่ดู จากกำไร 2-3 เท่าก็ กลายเป็นขาดทุน 2-3 เท่าได้เช่นกันครับ ใช้สมาธิเยอะบางทีเครียดกว่า ฉะนั้นการ Balance พอร์ตแบบที่กำลังจะทำ เป็นวิธีที่ไม่ซิ่ง มั่นคง น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

;)
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Feb 2010
ตอบ: 31664
ที่อยู่: 아이유♥이지은
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 14:34
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
Raul2000 พิมพ์ว่า:
ในห้วงเวลาปกติแต่ละ Sector จะมี Cycle ของมันครับ เช่น ถ้าหุ้น Growth ร่วง หุ้น Defensive ก็จะขึ้น(หรือร่วงน้อยกว่า) เป็นคล้ายๆกันทั้งหุ้นและกองทุนครับ

ถ้ามีหุ้น Tech อยู่แล้ว และอยากจะกระจายความเสี่ยงไปกลุ่มอื่น ถือว่าดีเลยครับ จะได้ Balance พอร์ตครับ แต่มันจะต้องดูเรื่องสัดส่วนด้วยครับ เช่นถ้า Balance ทุก Sector เท่าๆกัน พอร์ตจะโตช้า (หรือได้ปันผลน้อยในกรณีเน้นปันผล) ครับ พวกกองทุนถึงมีการโชว์ Top 10 หุ้นในพอร์ตเค้าครับว่าตัวไหนเป็นตัวแบกตัวชูโรงครับ ซึ่ง
หลักๆพวกกองทุน Growth เค้าใช้หุ้น Tech นี่แหละครับ

หุ้นที่น่าจะมีเพิ่มในแต่ละ Sector ขอเน้นที่บาง Sector ที่บางหุ้นใหญ่ เพราะง่ายต่อการหาข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงาน และการันตีถึงความสามารถในการบริหารบริษัทได้ดีระดับนึงนะครับ

ยา
- LLY / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;D มีประสิทธิภาพ
- ABBV / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;D มีประสิทธิภาพ
- NVO / บริษัทยาเจ้าใหญ่ของยุโรป เก่งเรื่องยาลดน้ำหนัก

การแพทย์&amp;ประกัน
- ISRG / หุ่นยนต์ผ่าตัด เป็น Trend ขาขึ้น
- TMO / เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในห้อง Lab
- UNH / ประกันสุขภาพอันดับต้นๆของประเทศ
- CB / ประกันต่างๆ อันดับต้นๆของประเทศ

การเงิน
- JPM / ธนาคารอันดับต้นของอเมริกา ผลงานดี
- V , MA , AXP / การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต กำไรเบื้องต้นดีมาก เลือกตามความชอบ
- BRK-B / Berkshire หุ้น VI เน้นลงทุนในบริษัทที่มีประสิทธิภาพ

การค้า
- AMZN / เป็นมากกว่าหุ้นเทค ผลงานดีในหลายธุรกิจ
- MELI / ดำเนินรอยตาม AMZN แต่ตลาดในอเมริกาใต้ เกือบๆ Monopoly
- COST , WM / เจ้าใหญ่ค้าปลีกอันดับต้นๆของประเทศ

สินค้าโภคภัณฑ์&amp; อุตสาหกรรม
- KO , PEP / เครื่องดื่มที่ขายทั่วโลก
- JNJ / ของใช้ในครัวเรือนและยา
- LVMUY / สินค้ากลุ่ม Luxury อันดับต้นๆของโลก
- STRL / รับเหมาก่อสร้าง Backlog ดีมากๆและหลากหลาย
- DHI / รับสร้างบ้านอันดับต้นๆ
- HD / คล้ายๆโฮมโปร อันดับ 1
- LMT / ยุทธโธปกรณ์ทางทหาร อันดับต้นๆ

สาธารณูปโภค
- NEE / พลังงานสะอาด อันดับหนึ่งในรัฐฟลอริดา
- CEG / พลังงานนิวเคลียร์อันดับ 1
- WM / กำจัดขยะ เกือบๆจะ Monopoly

** หุ้นเล็กและมีศักยภาพ
- RKLB / อุตสาหกรรมจรวดและอวกาศ
- TMDX / เปลี่ยน เคลื่อนย้าย และปลูกถ่ายอวัยวะ
- HIMS / เด่นเรื่องโรคที่เกี่ยวกับเพศ และเด่นเรื่อง Tele-Health
- IONQ / ควอนตัมเทคโนโลยี
- TEM , ARQT , CLPT / บริษัทขนาดเล็กที่เกี่ยวกับการวิจัยเพื่อการรักษาโรคชนิดต่างๆเฉพาะทาง มีการใช้ AI ในการวิจัย


ลองศึกษาดูก่อนนะครับ ;)  


สอบถามครับ

หุ้น defensive นี่ประมาณไหนหรอครับ ลองยกตัวอย่างหุ้นได้ไหมครับ เดี๋ยวไปลองอ่านเพิ่มครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 677
ที่อยู่: Chonburi
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 15:25
[RE]ปรึกษาหุ้น USA ครับ
Raul2000 พิมพ์ว่า:
ในห้วงเวลาปกติแต่ละ Sector จะมี Cycle ของมันครับ เช่น ถ้าหุ้น Growth ร่วง หุ้น Defensive ก็จะขึ้น(หรือร่วงน้อยกว่า) เป็นคล้ายๆกันทั้งหุ้นและกองทุนครับ

ถ้ามีหุ้น Tech อยู่แล้ว และอยากจะกระจายความเสี่ยงไปกลุ่มอื่น ถือว่าดีเลยครับ จะได้ Balance พอร์ตครับ แต่มันจะต้องดูเรื่องสัดส่วนด้วยครับ เช่นถ้า Balance ทุก Sector เท่าๆกัน พอร์ตจะโตช้า (หรือได้ปันผลน้อยในกรณีเน้นปันผล) ครับ พวกกองทุนถึงมีการโชว์ Top 10 หุ้นในพอร์ตเค้าครับว่าตัวไหนเป็นตัวแบกตัวชูโรงครับ ซึ่ง
หลักๆพวกกองทุน Growth เค้าใช้หุ้น Tech นี่แหละครับ

หุ้นที่น่าจะมีเพิ่มในแต่ละ Sector ขอเน้นที่บาง Sector ที่บางหุ้นใหญ่ เพราะง่ายต่อการหาข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงาน และการันตีถึงความสามารถในการบริหารบริษัทได้ดีระดับนึงนะครับ

ยา
- LLY / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&D มีประสิทธิภาพ
- ABBV / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&D มีประสิทธิภาพ
- NVO / บริษัทยาเจ้าใหญ่ของยุโรป เก่งเรื่องยาลดน้ำหนัก

การแพทย์&ประกัน
- ISRG / หุ่นยนต์ผ่าตัด เป็น Trend ขาขึ้น
- TMO / เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในห้อง Lab
- UNH / ประกันสุขภาพอันดับต้นๆของประเทศ
- CB / ประกันต่างๆ อันดับต้นๆของประเทศ

การเงิน
- JPM / ธนาคารอันดับต้นของอเมริกา ผลงานดี
- V , MA , AXP / การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต กำไรเบื้องต้นดีมาก เลือกตามความชอบ
- BRK-B / Berkshire หุ้น VI เน้นลงทุนในบริษัทที่มีประสิทธิภาพ

การค้า
- AMZN / เป็นมากกว่าหุ้นเทค ผลงานดีในหลายธุรกิจ
- MELI / ดำเนินรอยตาม AMZN แต่ตลาดในอเมริกาใต้ เกือบๆ Monopoly
- COST , WM / เจ้าใหญ่ค้าปลีกอันดับต้นๆของประเทศ

สินค้าโภคภัณฑ์& อุตสาหกรรม
- KO , PEP / เครื่องดื่มที่ขายทั่วโลก
- JNJ / ของใช้ในครัวเรือนและยา
- LVMUY / สินค้ากลุ่ม Luxury อันดับต้นๆของโลก
- STRL / รับเหมาก่อสร้าง Backlog ดีมากๆและหลากหลาย
- DHI / รับสร้างบ้านอันดับต้นๆ
- HD / คล้ายๆโฮมโปร อันดับ 1
- LMT / ยุทธโธปกรณ์ทางทหาร อันดับต้นๆ

สาธารณูปโภค
- NEE / พลังงานสะอาด อันดับหนึ่งในรัฐฟลอริดา
- CEG / พลังงานนิวเคลียร์อันดับ 1
- WM / กำจัดขยะ เกือบๆจะ Monopoly

** หุ้นเล็กและมีศักยภาพ
- RKLB / อุตสาหกรรมจรวดและอวกาศ
- TMDX / เปลี่ยน เคลื่อนย้าย และปลูกถ่ายอวัยวะ
- HIMS / เด่นเรื่องโรคที่เกี่ยวกับเพศ และเด่นเรื่อง Tele-Health
- IONQ / ควอนตัมเทคโนโลยี
- TEM , ARQT , CLPT / บริษัทขนาดเล็กที่เกี่ยวกับการวิจัยเพื่อการรักษาโรคชนิดต่างๆเฉพาะทาง มีการใช้ AI ในการวิจัย


ลองศึกษาดูก่อนนะครับ ;)  


สเตปคล้ายๆผมเลย

ผมคัด และลอกมาจาก แอด อั๊ม ช่อง ลงทุนหุ้นอเมริกา

คาดเดาว่า ท่านอาจจะศึกษา และดู จากช่องด้วยไหมครับ

แต่ถ้าเดาผิด ขออภัยด้วยครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jul 2006
ตอบ: 7
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 01, 2025 15:42
[RE: ปรึกษาหุ้น USA ครับ]
brrless พิมพ์ว่า:
Raul2000 พิมพ์ว่า:
ในห้วงเวลาปกติแต่ละ Sector จะมี Cycle ของมันครับ เช่น ถ้าหุ้น Growth ร่วง หุ้น Defensive ก็จะขึ้น(หรือร่วงน้อยกว่า) เป็นคล้ายๆกันทั้งหุ้นและกองทุนครับ

ถ้ามีหุ้น Tech อยู่แล้ว และอยากจะกระจายความเสี่ยงไปกลุ่มอื่น ถือว่าดีเลยครับ จะได้ Balance พอร์ตครับ แต่มันจะต้องดูเรื่องสัดส่วนด้วยครับ เช่นถ้า Balance ทุก Sector เท่าๆกัน พอร์ตจะโตช้า (หรือได้ปันผลน้อยในกรณีเน้นปันผล) ครับ พวกกองทุนถึงมีการโชว์ Top 10 หุ้นในพอร์ตเค้าครับว่าตัวไหนเป็นตัวแบกตัวชูโรงครับ ซึ่ง
หลักๆพวกกองทุน Growth เค้าใช้หุ้น Tech นี่แหละครับ

หุ้นที่น่าจะมีเพิ่มในแต่ละ Sector ขอเน้นที่บาง Sector ที่บางหุ้นใหญ่ เพราะง่ายต่อการหาข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงาน และการันตีถึงความสามารถในการบริหารบริษัทได้ดีระดับนึงนะครับ

ยา
- LLY / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;amp;D มีประสิทธิภาพ
- ABBV / บริษัทใหญ่ ยาเยอะ R&amp;amp;D มีประสิทธิภาพ
- NVO / บริษัทยาเจ้าใหญ่ของยุโรป เก่งเรื่องยาลดน้ำหนัก

การแพทย์&amp;amp;ประกัน
- ISRG / หุ่นยนต์ผ่าตัด เป็น Trend ขาขึ้น
- TMO / เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในห้อง Lab
- UNH / ประกันสุขภาพอันดับต้นๆของประเทศ
- CB / ประกันต่างๆ อันดับต้นๆของประเทศ

การเงิน
- JPM / ธนาคารอันดับต้นของอเมริกา ผลงานดี
- V , MA , AXP / การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต กำไรเบื้องต้นดีมาก เลือกตามความชอบ
- BRK-B / Berkshire หุ้น VI เน้นลงทุนในบริษัทที่มีประสิทธิภาพ

การค้า
- AMZN / เป็นมากกว่าหุ้นเทค ผลงานดีในหลายธุรกิจ
- MELI / ดำเนินรอยตาม AMZN แต่ตลาดในอเมริกาใต้ เกือบๆ Monopoly
- COST , WM / เจ้าใหญ่ค้าปลีกอันดับต้นๆของประเทศ

สินค้าโภคภัณฑ์&amp;amp; อุตสาหกรรม
- KO , PEP / เครื่องดื่มที่ขายทั่วโลก
- JNJ / ของใช้ในครัวเรือนและยา
- LVMUY / สินค้ากลุ่ม Luxury อันดับต้นๆของโลก
- STRL / รับเหมาก่อสร้าง Backlog ดีมากๆและหลากหลาย
- DHI / รับสร้างบ้านอันดับต้นๆ
- HD / คล้ายๆโฮมโปร อันดับ 1
- LMT / ยุทธโธปกรณ์ทางทหาร อันดับต้นๆ

สาธารณูปโภค
- NEE / พลังงานสะอาด อันดับหนึ่งในรัฐฟลอริดา
- CEG / พลังงานนิวเคลียร์อันดับ 1
- WM / กำจัดขยะ เกือบๆจะ Monopoly

** หุ้นเล็กและมีศักยภาพ
- RKLB / อุตสาหกรรมจรวดและอวกาศ
- TMDX / เปลี่ยน เคลื่อนย้าย และปลูกถ่ายอวัยวะ
- HIMS / เด่นเรื่องโรคที่เกี่ยวกับเพศ และเด่นเรื่อง Tele-Health
- IONQ / ควอนตัมเทคโนโลยี
- TEM , ARQT , CLPT / บริษัทขนาดเล็กที่เกี่ยวกับการวิจัยเพื่อการรักษาโรคชนิดต่างๆเฉพาะทาง มีการใช้ AI ในการวิจัย


ลองศึกษาดูก่อนนะครับ ;)  


สอบถามครับ

หุ้น defensive นี่ประมาณไหนหรอครับ ลองยกตัวอย่างหุ้นได้ไหมครับ เดี๋ยวไปลองอ่านเพิ่มครับ  


Defensive Stock จะเป็นหุ้นประเภทที่เรายังมีความจำเป็นต้องใช้ แม้ว่าจะเกิดวิกฤติอะครับ ถึงแม้จะใช้น้อยหรือรายได้ลด แต่ก็ยังพอมีอยู่รอดได้ครับ เช่นถ้าเกิดเหตุภัยพิบัติ พวกการลงทุนอาจจะหยุดชะงัก คนอาจจะไม่ไปช้อปปิ้ง หรือดูหนัง หรือสังสรรค์ แต่กลับเลือกซื้อของใช้จำเป็นแทน หุ้นค้าปลีกก็จะยังพอมีกำลังซื้อมาช่วยหนุน อะไรแบบนั้นอะครับ

ในความเห็นผมก็พวกปัจจัย 4 ค้าปลีก ประกัน พลังงาน อะไรแบบนั้นครับ Defensive ไม่ตายตัวครับ สามารถเปลี่ยนได้ตามสมัยนิยม ตอนนี้เป็น แต่อนาคตอาจจะเปลี่ยนเทรนด์ เช่นสมัยก่อน KO ถือเป็น Defensive เพราะราคาขึ้นลงแบบเสถียร ปันผลสม่ำเสมอ แต่ถ้าการรักสุขภาพเข้ามาเปลี่ยน Trend อาจจะมีผลทำให้พื้นฐานหุ้นไม่เหมือนเดิมอะไรแบบนั้นอะครับ (คหสต) แต่ส่วนมากก็ตายตัวแหละครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel