เรื่องการใช้คำว่า ถอดบทเรียน มันคืออะไรผมยังไม่เข้าใจเลย

สมมุติ ถอดบทเรียน อ่ะถ้าเรื่องเก่าๆสมมุติ การก่อการร้ายในที่สาธารณะ ทำไมเราไม่ทำให้มันเป็นแบบบูรณาการไปเลย เช่นเอาคนที่มีความรู้ในสาขาเรื่องการป้องกันตัวหรือการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด ไม่ให้เขาทำเป็นวิดีโอหรือทำรายการสาธิตไปเลยว่าถ้าเกิดเรื่อง สิ่งที่ต้องทำคืออะไร เอาตัวรอดยังไง มีวิธีคิดยังไงถ้าเกิดเรื่อง

แล้วเอาออกอากาศพร้อมกันมันทุกๆช่องไปเลย เหมือนพวกข่าวไร้สาระเรายังออกพร้อมๆกันทุกช่องได้ ทำไมเรื่องพวกนี้มันทำไม่ได้ ต้องอาศัยประชาชนไปหาข้อมูลเอาเอง ไปหาความตระหนักรู้กันเอาเอง

หรือเรามีข้อจำกัดเรื่องอะไรครับ พวกงบประมาณงี้หรอ ไม่น่าใช้เยอะอะไรด้วยมั้ง

ไม่มีบทเรียนไรทั้งนั้นอะ คนไทยลืมง่าย

กราดยิงพารากอน security เข้มอยู่เดือนเดว ตอนนี้ลืมหมดละ แอบพกปืนเข้าห้างคงได้เหมือนเดิม

คำพูดเท่ๆ
ใช้เวลาหาข้ออ้างไม่ได้

ทำมาเป็นถอดบทเรียน
เสร็จปุ๊ปของบเอาไปถอดบทเรียน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นๆซ้ำ
จะได้โกงกันต่อ

ถอดบทเรียนประเทศเราแปลว่า ”แล้วๆกันไปนะ“

เป็นคำพูดมักง่ายครับ

เดาว่าน่าจะเอามาจากคำว่า "lesson learn" แต่ของฝรั่งแม่งถกกันถึง root cause ของปัญหาเลย

การจะแก้ปัญหาก็ต้องยอมรับก่อนว่ามันคือปัญหา

สำหรับประเทศไทยที่ทำได้แค่ผิวๆเพราะไม่มีใครอยากฟังความจริงเลยได้เท่าที่เห็นนี่แหละครับ

การถอดบทเรียนของเราคือ
รอบหน้าทำให้เนียนๆกว่านี้ อย่าให้เขาจับได้

พอๆกับคำว่าบูรณาการ พ่นไปเรื่อยให้ดูเท่ห์

การถอดบทเรียนเป็นแค่ชุดข้อความที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น

สุดท้าย คนเคยชิน ก้ทำกันแบบเดิมๆ

ถอดแล้วถอดอีก จนไม่เหลือห่านไรละ

ถอดออกจากบทเรียน

ใช่เลยครับ ทุกประชุมของหน่วยงานราชการมักปิดประชุมด้วยคำนี้ทุกที สุดท้ายก็โยนปัญหากันไปมาเหมือนเดิม

ถอดบทเรียนมันคือการทำให้คนตระหนักรู้ครับ ที่ผมทันเลย ก็คือเรื่อง HIV ไข้เลือดออก ฉี่หนู
พิษสุนัขบ้า การถอดบทเรียนละวิธีป้องกัน+แก้ไข ทำให้เราลดความเสียหายจากเรื่องพวกนั้นไปได้เยอะเลยครับ
เช่น การรณรงค์ต่างๆ หรืออย่างเหตุการณ์ก่อการร้าย หลังจากเคสโคราช เขาก็มีการอบรมบ่อยขึ้นนะ
มีจำลองสถานการณ์ มีอธิบายว่าต้องทำยังไง เอามืออาชีพไปฝึกให้เลย ให้ทดลองหนีเองด้วย

หรือที่เป็นประโยชน์มากๆ ก็เรื่องการถอดบทเรียนของการ CPR ที่ตอนนี้เด็กมัธยมพอทำกันเป็นแล้ว
ใช้เครื่องก็เป็น