มันมีจริงน่ะเรื่อง จิตสัมผัสอะไรพวกนี้ แต่มีไม่มีคนหรอกที่มีได้
หมดดูที่เห็นเยอะแยะทุกวันนี้ ผมว่า ต้มคนซะ 90% จริงแค่ 10%

ที่ผมเชื่อเรื่องนี้เพราะ ก่อนมีลูก 2 คน ผมฝันว่าเค้าจะมาเกิด ทั้ง 2 ครั้ง
แล้วทั้ง 2 ครั้ง ก็ถูกต้องจริงๆ แบบแม่นมากๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้า ไม่เคยฝันอะไรแบบนี้

เรื่องแบบนี้ ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ครับ

ทำนายว่าเกิดแผ่นดินไหวเนี่ย มันเกิดอยู่แล้วมั้ย
ทำนายว่าไม่เกิดดูดิ แล้วไม่เกิดจริงผมจะยอมเลย

ปีๆหนึ่งบนโลกนี้ เกิดแผ่นดินไหวแบบรู้สึกได้เนี่ย เกินแสนครั้ง เท่ากับเกิดทุกวัน วันละหลายที่

ไอ้พวกเกิดความเสียหายก็แล้วแต่เกิดที่ไหนด้วย มีทุกปีปีละเป็นร้อย แต่ที่มันหนักๆมันก็ปีละครั้ง สองปีครั้ง ส่วนแบบพวก2004 2011 มันก็สิบปี ยี่สิบปีครั้ง

เดาไปเรื่อย ถูกก็เคลม โง่ก็เชื่อ แค่นั้นแหละ

แปลมาจาก BBC https://shorturl.at/MpzJC

สรุปให้สั้นๆ แผ่นดินไหวทั่วโลกเกิด 100,000 ครั้ง/ปี รอยเลื่อนสะกายพม่าก็เกิดบ่อย ปีที่แล้วก็เกิด คำถามคือบอกกว้างๆ แบบนั้นจะมีประโยชน์อะไร

USGS ซึ่งวันๆ ได้รับรายงานจากคนที่อยากเป็นหมอดูว่าจะเกิดแผ่นดินไหวตรงนู้นตรงนี้จำนวนมาก บอกว่า การพยากรณ์แผ่นดินไหว ‘ที่มีประโยชน์’ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง ได้แก่
1. วัน-เวลา
2. ตำแหน่งที่จะเกิดแผ่นดินไหว
3. ระดับความรุนแรง

ยาวๆ เชิญอ่าน

ว่ากันถึงการเตือนภัย ‘แผ่นดินไหว’ — เบรนต์ ดิมิทรูก เรียกตัวเองว่า ‘ผู้พยากรณ์แผ่นดินไหว’

เบรนต์เคยโพสต์บอกผู้ติดตามหลายหมื่นคนว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองชายฝั่งเล็กๆ ชื่อ ‘ยูเรกา’ ทางตะวันตกของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ

สองเดือนต่อมา ก็เกิดเหตุแผ่นดินไหว 7.3 แมกนิจูด ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย และมีการประกาศเตือนสึนามิตามมา (https://shorturl.at/NPbpk) ชาวเน็ตก็แห่กันติดตามดิมิทรูก (@mxdondevivo) เพื่อรอดูการพยากรณ์แผ่นดินไหวครั้งต่อไป

แต่มีปัญหาก็คือ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญฟันธงว่า ‘แผ่นดินไหวมันพยากรณ์กันไม่ได้’

การคาดเดาไม่ได้ทำให้แผ่นดินไหวเป็นภัยพิบัติที่น่าวิตก ผู้คนนับล้านตามชายฝั่งตะวันตกของแผ่นดินอเมริกาเหนือต่างหวั่นเกรงว่า ‘มหันตภัย’ ที่จะทำลายบ้านเมืองและชีวิตคนในพริบตา อาจมาเยือนได้ทุกโมงยาม

ลูซี่ โจนส์ นักแผ่นดินไหววิทยาของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ผู้เขียนหนังสือ The Big Ones พยายามศึกษาแนวโน้มการเกิดและพัฒนาความสามารถในการรับมือแผ่นดินไหว

ทั่วโลกเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 100,000 ครั้ง/ปี ระบบเตือนภัยจึงเป็นสิ่งที่ผู้ที่อยู่ในเขตแผ่นดินไหวถวิลหา
เมืองยูเรกาต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวมากกว่า 700 ครั้ง ภายในรอบปี บริเวณนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มี ‘แผ่นดินไหวบ่อยที่สุด’ ในสหรัฐฯ สาเหตุมาจากแผ่นเปลือกโลก 3 แผ่น มาบรรจบกันตรงบริเวณที่เรียกว่า ‘สามแยกแผ่นเปลือกโลกเมนโดซิโน’

การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นจะสัมพันธ์กัน และการเคลื่อนตัวนี่เองที่เป็นสาเหตุให้เกิด
‘ความเค้น’ เมื่อมีความเค้น จึงเกิดแผ่นดินไหว

ดร.โจนส์ให้ความเห็นไว้ว่า การพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองยูเรกาค่อนข้างง่าย เพราะเกิดบ่อย แต่การพยากรณ์ว่าแผ่นดินไหวจะมีขนาด 7 แมกนิจูด เป็นเรื่องยาก

บันทึกทางธรณีวิทยายังแสดงข้อมูลว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘The Big One’ เกิดขึ้นเป็นปกติ เขตมุดตัวของเปลือกโลกแคสเคเดีย (Cascadia Subduction Zone) จะเคลื่อนตัวทุกๆ 300-500 ปี ขณะที่รอยเลื่อนซานแอนเดรียสในแคลิฟอร์เนียใต้ก็เป็นอีกหนึ่งต้นตอของ ‘แผ่นดินไหวใหญ่’ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีก ซึ่งบริเวณนี้ก็จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทุกๆ 200-300 ปี

ตลอดอาชีพการงานกว่า 30 ปีของของ ดร.ลูซี่ โจนส์ มีคนหลายร้อยหลายพันพยายามทำตัวเป็น ‘หมอดู’ พยากรณ์เหตุแผ่นดินไหวใหญ่ ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ที่จะมีแฟกซ์ทำนายการเกิดแผ่นดินไหวส่งถึงสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ จำนวนมาก

“มีคนส่งคำทำนายทุกสัปดาห์ มันก็ต้องมีคนทายถูกสักคน ... แต่ส่วนใหญ่คนจะคิดไปเองว่าทายถูก ทั้งที่ทายผิดมากกว่า 10 ครั้ง”

ไม่ต่างจากเบรนต์ ดิมิทรูก ซึ่งไม่มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์ แต่ทำนายไว้นานแล้วว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ถล่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐอะแลสกา ญี่ปุ่น และเกาะนอกชายฝั่งนิวซีแลนด์ โดยจะเป็นแผ่นดินไหวใหญ่ขนาดที่กระทบต่อการค้าโลก

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุไว้ชัดๆ ว่าการพยากรณ์แผ่นดินไหว ‘ที่มีประโยชน์’ ต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการ ได้แก่

1. วัน-เวลา
2. ตำแหน่งที่จะเกิดแผ่นดินไหว
3. ระดับความรุนแรง

แต่ไทม์ไลน์ของเบรนต์ ดิมิทรูก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

ดิมิทรูกเคยทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวช่วงก่อนหรือหลังการรับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ แล้วก็เปลี่ยนเป็นจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนปี 2030

‘แล้วเราจะเตรียมตัวรับมือกับแผ่นดินไหวที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรได้อย่างไร’

แม้จะคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวเมื่อไร ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องเตรียมพร้อม

วันพฤหัสบดีที่ 3 ของเดือนตุลาคมทุกๆ ปี ชาวอเมริกันหลายล้านคนจะซ้อมรับมือแผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเรียกว่า ‘The Great Shake Out’

ทุกคนต้องซ้อม ‘หมอบ ปิด จับ’ (Drop, Cover, Hold On) โดยหมอบลงกับพื้น ปิดศีรษะซ่อนตัวใต้โต๊ะ และหาที่จับยึดไว้ให้แน่น

การซ้อมเหตุแผ่นดินไหวนี้ได้รับความนิยม และกระจายไปทั่วพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวไป

ถ้าอยู่กลางที่แจ้ง ผู้ประสบภัยต้องหาพื้นที่โล่ง และอยู่ให้ห่างจากต้นไม้ อาคาร หรือสายไฟ

ถ้าอยู่ใกล้ทะเล ผู้ประสบภัยต้องหนีขึ้นที่สูง หลังจากแผ่นดินไหวหยุด เตรียมพร้อมรับมือคลื่นยักษ์สึนามิ

นอกเหนือจากการซ้อมเหตุแผ่นดินไหวแล้ว ประชาชนอเมริกันในรัฐแถบชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ยังมี ‘ระบบเตือนภัย’ ทางโทรศัพท์ที่เรียกว่า ‘ShakeAlert’

ShakeAlert จะตรวจจับคลื่นความกดอากาศที่เกิดจากแผ่นดินไหว แม้ว่าจะเตือนภัยล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวไม่ได้ แต่ก็สามารถส่งสัญญาณเตือนภัยได้ภายในไม่กี่วินาทีหลังเกิดเหตุ เป็นวินาทีอาจช่วยชีวิตผู้คนได้จำนวนมาก เช่น เตือนให้รีบหนีออกจากตัวตึก

ระบบนี้คือ ‘ผู้พยากรณ์’ แผ่นดินไหวที่ถูกต้องแม่นยำและใกล้เคียงที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

https://www.facebook.com/share/p/163TwWdVi4/

เพ้อเจ้อ พม่ามันไหวตลอดอยู่แล้วป่าว

มันมาแม่นเพราะ ดันบอกจะเกิดที่ พม่า

สะเทือนมาถึง กทม. ภายในต้นปี 68

แล้วแม่งดันเกิดจริง

จะบอกเดาถูกก็ได้ แต่ปกติ มันไม่น่าสะเทือนถึง กทม. ไง

รอบนี้ทายถูกหมดเลย แต่อย่างว่าทาย 10 ถูก 1 กลายเป็นแม่นมากเลยจั๊บ

คนมันมีใครไปสนใจ หรือให้ค่าตอนที่มันมั่วบ้างมั้ยล่ะครับ?

ถ้ามีค่อยมาทำสถิติสิ อันนี้พูดไป 100เรื่อง ตรงเรื่องนึงแม่งออกสื่ออย่างกับศาสดา ในแง่มุมชีวิตคนเรา สิ่งที่มันพูดมามันต้องตรงบ้างไม่มากก็น้อยครับ แล้วจิตใจเรามันจะหวนกลับไปนึกถึงตอนที่มันตรงกับที่พูด จิตวิทยาล้วนๆ คล้ายๆกับ illusions ในมายากลแหละ


แล้วพวกนี้มันไม่ได้มโนข้อมูลมาล้วนๆนะครับ บางทีมันทำการบ้านนะ

ทาย100ครั้งถูก1ครั้งก็เคลมได้แล้วครับ

มันก็แม่นแหละ แต่แม่นทุกเรื่องมั้ย

แต่เรื่อง แผ่นดินไหวแม่นมาก

ต้องไปย้อนดู ว่าพูดทุกปีรึเปล่า

ประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยความเขื่อ เชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น ไหวนู้น ไหวนี่มั่วไปหมด อะไรที่เขาว่าสักสิทธิ์ก็กราบไหวบูชา เพราะอย่างนี้ประเทศมันเจริญไปข้างหน้าได้อยาก

หมอดูเหรอ ผม"ลบหลู่" ต่อหน้ามาเยอะแล้วครับ
ผมไม่เชื่อ แล้วผมก็ ลบหลู่ด้วยทุกครั้ง

ถ้าผมบอกว่าภายใน 2 เดือนนับจากนี้จะมีแผ่นดินไหวสักที่บนโลกใบนี้(เล็ก-ใหญ่ นิดๆหน่อยๆใต้ดิน ใต้ทะเล นับหมด) อันนี้ถือว่าผมแม่นป่ะ

อีก1อาชีพ ที่หากินกับความเชื่อของคน

เดาไปตามเรื่อง แต่มันก็เดาจากสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้อยู่แล้ว

ถ้าแม่นจริงมันก็ต้องแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้ ทำไมไม่เดาว่าจะมีตึกถล่มไปเลยล่ะ

แต่พอถามจี้มากก็ไม่ได้นะ บอกรู้แต่ไม่อยากไปขัดขวางกรรม กรรมใครกรรมมัน

ผมเบื่อ "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" ของคนไทยมากเลย

ประโยคนี้คือตัวหยุดความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ชัดๆ

เจอเหตุการณ์แปลกๆ สิ่งแปลกๆ แม่งยิ่งต้อง "ลบหลู่"

ลบหลู่ในความหมายผมคือตั้งสมมติฐาน หาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์นะ ไม่ใช้ไปท้าทายปัญญาอ่อน

ถ้าในอดีตคนทั่วโลก "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" ป่านนี้ไม่มีหรอกพวกเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหว ยารักษาโรค เครื่องบิน etc.

เจออะไรอธิบายไม่ได้กลัวไปหมด ไม่ทัก ไม่ตั้งคำถาม ไม่พิสูจน์

กลับมาเรื่องหมอดูทัก

ตามที่เม้นอื่นๆบอก ทัก 100 ถูก 5 คนก็จะจำแค่ที่ทักถูก

อยากรู้ว่าแม่นจริง รู้ล่วงหน้าจริงไหม เอาสิ่งที่ทักทั้งหมดมากางทำสถิติว่าถูกเท่าไหร่ ผิดเท่าไหร่ เชื่อดิว่าทักถูกไม่เกิน 10%

มันทายวิบัติทุกปีแหละคร้าบบบ