ลองฟังดูครับ

รอบนี้ไม่โม้มาก ผมยังโอเคกับแกหน่อย

ตามแกว่า มันไหวที่พม่า กว่าจะถึงกรุงเทพ 3 นาทีเลยนะที่นักวิจัยเขาเก็บดาต้ามาตอนนี้ ถ้ามี application ที่เตือนก่อนได้ ความเสียหายจะน้อยกว่านี้อีก

ญี่ปุ่นที่มีระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวชั้นเลิศ ยังเตือนล่วงหน้า ระดับวินาทีเลย
อยู่ใกล้จุดศูนย์กลาง ระบบเตือนภัยก็ไม่ทำงานอีก
ส่วนการทำนายการเกิดแผ่นดินไหวตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา เลยถือกันว่าแผ่นดินไหวไม่ใช่สิ่งที่ทำนายล่วงหน้าได้

เลยไม่เห็นด้วยว่าสามนาทีมันจะมาทันอย่างทั้งคู่ว่า ถ้าบอกว่า เมื่อมีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวแล้วหาวิธีรับมือ รับมือตอนเกิดอาฟเตอร์ช็อค (มักเบากว่ารอบแรกที่เกิด) เตรียมตัวไม่ให้ตื่นตัวแบบที่เห็นในข่าวของ กทม.ได้ ยังจะเห็นด้วยกว่า ส่วนเตือนภัยอยางน้อยระดับรับมือ ถ้ามีก็ดี

จริง ๆ แกน่าจะคำนวณโชว์เลย แต่ผมว่าแกคงตกใจตื่นเต้นอยู่ ไปหาดูยิ่งเกิดใกล้ผิวโลก คลื่นยิ่งวิ่งช้าลง แต่ขึ้นกับว่าสถานีตรวจวัดอยู่ไหน ที่ผมเคยเห็นก็ดอยสุเทพแหละ ตีว่า 700 กิโลเมตร (เชียงใหม่โดน P-wave ไปก่อน) แต่ตัวจริงจะตามมาหลังจากนั้นเป็นนาทีอยู่ คือถ้าใช้คนทั้งหมดอ่ะไม่ทัน มันต้องแจ้งเตือนอัตโนมัติเลย ซึ่งถ้าเกิดมีนะ ผมว่าคนที่ตึกถล่มมีสิทธิรอดเยอะกว่านี้อ่ะ

ผมว่าพวกหน่วยงานเคยมีของบเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แน่ๆ แต่แดกไปหมดแล้ว

พี่เอ้พูดอยู่บนเทวี วิ่งหนีตายคนแรกเลย

ภาวะผู้นำหายหมด

ไม่โม้ แต่วิ่งหนีตายคนแรกเลย

เห็นพูดอยู่บนเวที ทิ้งคนฟังเฉยเลย

อย่าคาดหวังอะไรกับแบบนี้มาก เพราะมันเกิดขึ้นครั้งแรก

เราไม่ได้เกิดบ่อยแบบญี่ปุ่น

สมมติว่า เกิดสึนามิ ซ้ำแบบเดิม

ผมอยากรู้เหมือนกัน การอพยพ ความเสียหาย การเก็บกวาด จะใช้เวลา มาก-น้อย แค่ไหน

อันนี้คือ เกิดขึ้นมาแล้ว

ผู้นำต้องวิ่งก่อนสิ คนอื่นจะได้วิ่งตาม

ไอ้ระบบเตือนล่วงหน้าที่ว่ามันก็หลักการเดียวกับที่เอ้บอกแหละครับ คำนวณจากจุดเกิดคลื่น
ใครใกล้คลื่นกะระดับวิ ใครไกลก็ระดับนาที

มันคำนวนได้ ซึ่ง 4-5 นาทีคือเวลาสูงสุดที่ช่วยคนด้วยตนเองในกรณีหตุไฟไหม้

เพราะงั้น 4-5 นาทีมีมูลค่าครับกับ 1 ชีวิต