ของผม วินาทีแรก เวียนหัว เซๆ นึกว่าเพราะไม่ได้กินข้าว
วินาทีต่อมา เซอีก
วินาทีที่ 3 เห็นคนอื่นรู้สึกเหมือนกัน

วินาทีที่4 ผมเผ่นเลย 555555 ใส่ตีนหมา (อยู่ชั้น 3 ของตึกสูง)

เอาจริงๆ ผมไม่มั่นใจโครงสร้างตึกในไทยเลยอะ มันไม่ได้สร้างมารับแผ่นดินไหวหนักๆเท่า ญป
ถ้าอยุ ญป อาจจะหลบใต้โต๊ะ 555

กับบางคนแนะนำว่าห้ามวิ่ง งงเหมือนกัน เพราะเวลาตั้งแต่เริ่มสั่นจนตึกถล่ม มันไม่ถึงนาที 2 นาที เดินไม่น่สทัน

ส่วนถ้าอยู่ตึกสูงมากๅ คงไม่วิ่งเหมือนกัน เพราะไม่ทันแน่

ผมประชุมอยู่ชั้นห้า แล้วรู้สึกว่ามันสั่นๆเลยตะโกนว่าแผ่นดินไหว
หลังจากนั้นทุกคนก็พากันวิ่งออกจากห้องประชุม

แต่ผมเก็บของอยู่ เพราะรู้สึกว่ามันไหวเบาๆ เดี๋ยวก็คงหยุด
ที่ไหนได้มันแรงขึ้นเรื่อยๆ จนต้องรีบวิ่งลงมา แบบโซซัดโซเซ
ลงมาถึงชั้นล่างมันยังไหวแรงชนิดน้ำบนคอนโดตรงข้ามกระฉอกลงมาอย่างกะน้ำตก

ตรงบ้านผม ใกล้ถนนชนบท บางทีมันมีรถพ่วงบรรทุก หนักๆ ผ่าน มันจะเด้งๆ พาบ้านโยกหน่อย ได้ยินเสียงรถก็รู้ว่ามาจากรถพ่วง แต่วันนี้ เงี่ยหูฟัง ไม่มีเสียงรถ มั่นใจเลยว่าแผ่นดินไหว เพราะจอคอมฯ โยกแรงมาก รีบตะโกนบอกแม่ให้ออกจากตัวบ้าน

ผมอยู่ในรถกำลังจะเลื่อนรถไปชาร์ท เห็น Tesla คันข้างๆใส่เกียร์หมาหนีกันหมด ผมจะอยู่ทำไม ตีนผีสิครับเกิดอะไรขึ้นไม่รู้แต่กุขอตามไปด้วย

คำแนะนำที่ว่าใช้สำหรับกรณีอยู่ในสิ่งปลูกสร้างตามปกติแล้วแผ่นดินไหวครับ ไม่ใช่อยู่ในตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จ

เหตุผลที่เค้าแนะนำว่าห้ามวิ่งให้หลบใต้ที่กำบัง เพราะคนที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตส่วนใหญ่ ไม่ได้เป็นเพราะตึกถล่มหรืออะไร

แต่เพราะของที่อยู่สูงหัวหล่นใส่แล้วสลบหรือบาดเจ็บภายในๆขณะที่ไม่มีใครช่วยเหลือได้ครับ มันเป็นการใช้ที่กำบังเพื่อป้องกันหัวเป็นหลัก

ลองคิดสภาพว่าของในชั้นหล่นแบบมุมคมๆใส่ หรือฝ้าหล่นลงมาใส่หัวตอนวิ่งหนีก็ได้

แล้วในกรณีที่แผ่นดินไหวระดับหนักๆเลย ที่ไม่มีบุคลากรด้านไหนมือว่างมาช่วยคุณได้ บาดเจ็บอะไรขึ้นมา โดยเฉพาะที่หัวในเวลานั้นคือตายเกือบ 100% เลยนะครับ

หลังจากที่ระลอกแรกสงบแล้ว ที่ต้องทำต่อไปคือคว้าของที่จำเป็นแล้ววิ่งออกไปข้างนอกหรือไปที่บันไดหนีไฟครับ

นั่งกับพื้นเลยครับ นึกว่าบ้านหมุนจะเป็นลม พื้นโยกซ้ายทีขวาที

นั่งๆอยู่ทำไมตัวโคลง เงยหน้ามองฝ้า เอ้ยโคลงหนัก พอคนรอบข้างเป็นเหมือนกันมีคนตะโกนแผ่นดินไหว รีบโกยเลยครับ ออกมาพร้อมมือถือ 1 เครื่องถ้วน

ดีนะ wfh ถ้าขึ้นตึก ผมแม่งลงจากชั้น 31 ขาลากแหงมๆ

ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเป็นแผ่นดินไหว บอกแฟนก่อนเลยว่าพาไปโรงบาลหน่อย

วันนี้ดันซวยเข้าออฟฟิศเซนเวิล ตอนแรกก็นึกว่าเวียนหัว แต่พอเห็นโคมไฟโยกก็รู้ละแผ่นดินไหว หยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปซะด้วยกู ตอนแรกนึกว่าจะเบาๆเหมือนที่กรุงเทพเคยโดนที่ผ่านมา แต่แม่งโยกโคตรโหดแถมมีเสียงดังอย่างกับตึกจะร่วง

จังหวะนั้นก็บันไดหนีไฟเท่านั้นแหละ

ทำงานอยู่จำได้ว่าประมาณบ่ายโมงรู้สึกว่าตึกมันโยก ๆ ก็รู้แหละว่าแผ่นดินไหว

พอเดินออกมานอกตึกเห็นข้างนอกโกลาหลกลียุคกันมากอย่างกับได้ข่าวว่าก็อตซิลล่ากำลังจะขึ้นฝั่งที่บางขุนเทียน บางคนสบถด่าคำหยาบอยู่ตลอดเวลาบางคนกรีดร้อง

ขับรถอยู่ไม่รู้เรื่องจนพนักงานที่ร้านโทรมาบอก ยังว่าอยู่ทำไมเห็นคนจากตึกลงมาอยู่กันข้างล่าง นึกว่ามีงานอะไรกัน

ถ้าตึกถล่มผมคงตายในทันที เพราะนอนแฮงค์อยู่ ตอนแรกๆลืมตาขึ้นมาพร้อมเมีย เมียบอกว่าตึกโยก ผมก็บอกไม่มีอะไรหรอก คงจะเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหรืออะไรสักอย่าง แล้วก็กำลังจะนอนต่อ ปรากฎว่ามันโยกแรงขึ้นเรื่อยๆ โยกแบบเหมือนตึกมันจะล้มลงให้ได้ คราวนี้ตื่นเลย เมียผมลุกก่อนแล้วไปเปิดประตู ได้ยินเสียงคนร้องและวิ่ง คราวนี้เมียผมตะโกนว่า แผ่นดินไหว เท่านั้นแหละคว้ากางเกง เสื้อคลุม วิ่งเลย วิ่งมาถึงหน้าห้องแล้วลืมโทรศัพท์ วิ่งกลับเข้าไปเอาอีก

นึกว่าไม่สบาย บ้านหมุน
ทำไมตัวโยกๆวะ
จะหันไปถามพี่โต๊ะข้างๆ อ้าว อาการเดียวกันเลย
แล้วพวกมู่ลี่มันขยับแกว่ง
ตอนแรก ทำท่าจะมุดโต๊ะ แต่ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหล่น ก็ไม่อยู่แล้ว

ผมนั่งเล่นคอมอยู่บ้าน ตอนแรกนึกว่าเก้าอี้มันสั่นๆเพราะพัดลมใหม่ที่เพิ่งซื้อมามันแรงจัด

คิดถูกจริงๆที่ตัดสินใจออกจากออฟฟิศตั้งแต่เที่ยง ถ้าออกมาช้ากว่านี้แค่ชั่วโมงเดียวคือวันนี้ได้นอนออฟฟิศแน่