ความเร็วของรถและความแรงของแผ่นดินไหวไม่ได้มีความสัมพันธ์โดยตรง เนื่องจากการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวและการเคลื่อนที่ของรถนั้นเกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกัน แต่สามารถพิจารณาจากสองประเด็นหลักได้:

1. **ความแรงของแผ่นดินไหว**: แผ่นดินไหวมีการวัดความแรงจากมาตราส่วนริคเตอร์ (Richter scale) โดยแผ่นดินไหวที่มีค่ามากกว่า 4.0 หรือ 5.0 อาจจะรู้สึกได้ชัดเจนในพื้นที่ที่ไม่ห่างจากศูนย์กลางมากนัก แผ่นดินไหวที่มีความแรงต่ำกว่า 4.0 อาจไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนมากนัก หรือแม้แต่ไม่รู้สึกเลยในบางกรณี

2. **ความเร็วของรถ**: ความเร็วของรถมีผลต่อการรับรู้การสั่นสะเทือนในบางกรณี เพราะหากรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง การสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอาจจะถูกรบกวนหรือไม่เด่นชัดมากนัก อย่างไรก็ตาม หากขับรถช้าๆ การสั่นสะเทือนอาจจะถูกรับรู้ได้ชัดเจนมากกว่า

### เทียบความแรงของแผ่นดินไหวกับความรู้สึก:

- **แผ่นดินไหวที่มีขนาด 3.0-4.0 (ริคเตอร์)**: โดยทั่วไปจะไม่รู้สึกหากอยู่ในรถที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วปกติ หรืออาจจะรู้สึกในบางกรณีที่ขับรถช้า
- **แผ่นดินไหวที่มีขนาด 5.0-6.0 (ริคเตอร์)**: การสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวระดับนี้จะรู้สึกได้แม้ขณะขับรถช้าๆ และอาจส่งผลให้รถสั่นหรือเคลื่อนที่เล็กน้อย
- **แผ่นดินไหวที่มีขนาด 6.0 ขึ้นไป**: แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับนี้จะรู้สึกได้ชัดเจนแม้ในขณะขับรถ และอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้หากเกิดขึ้นใกล้พื้นที่ที่ขับรถอยู่

### สรุป:
การรู้สึกถึงแผ่นดินไหวขณะขับรถจะขึ้นอยู่กับความแรงของแผ่นดินไหว หากแผ่นดินไหวมีความแรงมาก (ประมาณ 5.0 ขึ้นไป) แม้ว่าคุณจะขับรถด้วยความเร็วสูง คุณก็อาจจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนได้ แต่ถ้าแผ่นดินไหวมีความแรงต่ำ (3.0-4.0) ในหลายกรณีอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย หรือรู้สึกเพียงเล็กน้อย