เนื่องด้วยเหตุการณ์เหตุการแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในพม่า ความรุนแรงส่งมาถึงกรุงเทพจนทำให้รถไฟฟ้าต้องหยุดวิ่ง

ตอนนี้การจราจรในเมืองกรุงจะเรียกว่าพิการก็คงไม่ผิดนัก แถมยังเป็นเย็นวันศุกร์สิ้นเดือนซะด้วย

ในขณะที่หลายๆคนอยากรีบกลับห้องไปดูสภาพ หรือกลับบ้านไปหาคนรัก

ได้ข่าวว่ามีพี่ๆเหล่ารถรับจ้างจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นพี่วิน พี่ตุ๊ก หรือพี่แท็ก

ที่เห็นโอกาสในวิกฤต โขกราคากันยับๆพร้อมกันแบบมิได้นัดหมาย

ใครเจอกับตัวบ้างครับ เพื่อนผมโดนวินเรียก 1000 (จากห้วยขวางไปสีลม) อีกคนโดนแท็กซี่เรียก 2000 (จากอ่อนนุชไปพระราม9)

เรื่องรถนี่ถ้าผมชับรถผมก็เรียกราคานี้นะ รถติดขนาดมอไซยังไปไม่ได้ ให้กดมิตเตอร์เข้าเนื้อแน่ๆ

นี่แหละ พวกฉวยโอกาส พร้อมฟันราคายับ แล้วก็มีคนพร้อมจ่ายด้วย พวกมันก็เลยกล้าเรียก

แต่นาทีนั้นถ้ามันจำเป็นก็จ่ายไปก่อน
แล้วต่อไปก็ไม่ต้องไปอุดหนุนพวกมัน

ก็เหมือนตอนโควิดแหละรับทุกคัน พอหายจากโควิดก็ส่งรถตลอด
ปล.แต่รถก็น่าจะติดหนักจริงนะตอนเดินไปปากซอยบ้านผมนี่รถไม่ขยับเลย

เชื่อมั่นในขาตัวเองเข้าไว้

1 ชั่วโมงเดินไวๆ ได้ 5-6 กิโลเมตร

เอาตัวเองออกมาจากความวิบัติตรงนั้นได้แน่นอน

ตลอดเลยวิกฤติของคนเดือดร้อนพวกนี้ก็นะ

ก้นี่ล่ะครับที่เรียกว่าฉวยโอกาสซ้ำเติมกันเอง รถติดมิเตอร์ก้วิ่งไม่ขาดทุนหรอก จะบอกว่าเสียโอกาสรับคนอื่นก้ไม่ใช่ รถติดคุณก้ทำรอบไม่ได้อยู่ดี

ถ้าเป็นคุณคุณจะขับไปส่งไหม ไม่รู้จะติดกี่ชม. เผลอ 5 ชมไม่ขยับ

ไม่อยากขับก้กลับบ้านครับ ไม่ช่วยก้ไม่ควรไปซ้ำเติม

แสดงว่าคุณช่วยใช่ไหม แล้ววันนี้คุณให้ใครติดรถกลับบ้านบ้างไหมครับ รถอย่างติด ผมมารับแฟน 5 โมงเย็นสามย่านไปปุณ ตอนนี้ยังไม่พ้นสวนลุมเลย

คำว่าคนไทยไม่ทิ้งกัน ใช้ไม่ได้เลย
ถ้าเทียบคุณภาพชุมชน ลองไปดูกลุ่มชุมชนในต่างประเทศ
คนไทยไม่ได้รักกันขนาดนั้น มีชุมชนอื่นที่เข้มแข็งกว่าเยอะ
ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะประเทศเราใหญ่ สังคมไม่ได้มีความกลมเกลียวขนาดนั้น

ผมไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองครับ แต่ถ้าอยากให้ผมสมมติว่าเป็นคนขับแท็กซี่หรือวินใช่มะ ผมจะรับผู้โดยสารที่ไปทางเดียวกับทางกลับบ้านแล้วตรงเข้าบ้านเลยครับ

สถานการณ์อย่างนี้ทุกคนเดือดร้อนกันหมดละครับ บางคนไม่มีที่ให้นอนด้วยซ้ำ ถ้าเราช่วยไม่ได้ก้อย่าไปซ้ำเติมเลย