อันดับแรกนึกว่าตัวเองป่วย พอรู้ว่าเป็นแผ่นดินไหวก็รีบเก็บแมวทุกตัว ที่เหลือช่างมันละ

โคตรกลัวเลยครับ ใจสั่นเลย มันโยกแรงจนในหัวนี่คิดไปไกลขนาดบ้านเมืองพังพินาศเลย

เมื่อกี้ตอนอยู่ที่ทำงานกับน้องๆ​ นั่งแล้วรู้สึกโคลงเคลงหมุนๆ​ นึกว่าสโตรคละ​ จนนั่งมองหน้ากันสามคนแล้วแบบชิบหายละ​ ตึกยุบเปล่าวะ

เลยบอกน้องๆให้วิ่งกันออกไปก่อนเลย​ แล้วผมคว้าออกมาเพิ่มแค่มือถือเครื่องที่ทำงานของตัวเองกับโน๊ตบุ้ค​ตัวที่ไว้แบ็คอ้พข้อมูลแค่นั้นแล้ววิ่งเลยครับ

แต่หลอนจริงอะไรจริง​ ถ้าอยู่บ้านนี่ลืมคว้าเอกสารสำคัญชัวร์

หัวใจตกลงตีนแน่นอน ถ้าอยู่คอนโดชั้นสูงๆ ตึกแม่งโยกเยกไปมาขนาดนั้น

ถ้าผมเป็นแฟนท่านรักตายเลย บางคนบอกแค่แผ่นดินไหวรีบลงมา ส่วนใหญ่ใช้ลิฟต์

ผมเฉยๆ มันยังไม่ได้รุนแรงรวดเร็วขนาดที่ตั้งสติไม่ทัน
พอสั่นได้สัก 4-5 วิ รู้ว่าแผ่นดินไหวแน่ๆ
ก็เก็บแมคบุ๊ค ไอแพด หยิบพาวเวอร์แบงค์ สายชาร์จใส่กระเป๋า มือถือ กุญแจรถเป๋าตังค์ ปิดไฟปิดแอร์ ล็อกห้อง เดินลงบันไดหนีไฟ
โชคดีอยู่คอนโด low rise เดินลงแค่หกชั้น

ใจสั่นเลย กลัวตึกถล่ม ขนาดอยู่ไม่สูงมากนะ แค่ชั้น 4

บอกตรง ยังไม่รู้ตัวเลย ยังมึนๆหัว แม่ผมนี่ถึงกลับถาม ว่าบ้านโยกไหมและรีบออกไปนอกบ้านกัน ถึงรู้จากอัพเดตข่าวใน FB Line

ผมเฉยๆนะไม่ได้อยู่บนตึกด้วยเลยไม่กลัวด้วยมั้ง

ลงจากชั้น26 เจอ ผญ คนนึงสติแตกตอนลงบันไดหนีไฟ
ปลอบจากชั้น26 จนออกมานอกตึก สงสารก็สงสาร รีบก็รีบ แต่กลัวเค้าเป็นลมตรงบันไดหนีไฟแล้วคนลงไปข้างล่างลำบาก

ใจหายแวบเลย ไม่เคยเจออะไรเหตุการ์ณกลัวตายแบบนี้ นั่งทำงานอยู่ หยิบได้แค่มือถือ คือไม่คิดว่าจะแผ่นดินไหว

พอได้ยินเสียงผนังข้างๆสั่นเท่านั้นแหละ วิ่งหนีตายตีนเปล่าลงทางหนีไฟ เจอคนวิ่งมาเหมือนกันร้องเสียงหลงมาเลย