MMR เป็นใบเบิกทางสำหรับการที่จะมีสังกัดมาดึงตัวหรือให้ความสนใจ
สำหรับผู้ที่สามารถเป็น Pro Player ได้แล้ว พิสูจน์ตัวเองได้แล้ว MMR อาจจะเป็นเรื่องรองลงไป

แต่แน่นอนว่าหมดยุคสำหรับพรสวรรค์อย่างเดียวแล้ว วัดกันที่ความขยันและ Teamwork อย่างแท้จริง
เล่น Rank บ่อย ได้เจอ Match-up ที่หลากหลาย คำนวณดาเมจใน Patch นั้นได้เป๊ะมากน้อยแค่ไหน
ส่งผลถึง "Laning Phase" อย่างแน่นอนและทำให้ต้นเกมสามารถเล่นได้ง่ายกว่า

Dota2 ณ ปัจจุบัน แทบไม่มี Pro Player ที่พักไปเกือบหนึ่งปีแล้วจะกลับมาเล่นดีอีกเลยในปีถัดไป
ไม่ว่าจะ Miracle หรือ Ame ซึ่งรายหลังฟอร์มส่วนตัวก็เลวร้ายลงไปมากและพึ่งจะกลับมาดีขึ้นบ้าง
(Topson ที่เคยพักช่วงสั้นๆก็ไม่ได้กลับมาเป็น Mid แถวหน้าอีก และรอบนี้ก็พักยาวกว่าเดิม)

ส่วน OG.Nine ก็พักไปเกือบปีเช่นกัน
แต่หลังจากนั้น Rank ก็ไม่ขึ้นอีกเลย (แม้ว่าจะพยายามเล่นแล้ว)
ตอนนี้ Rank อยู่อันดับ 632 ของ Zone EU

20 เกมหลัง (ต้องไม่นับ Match ที่ไม่ได้เล่นกลาง และมีการโยนเกมเกิดขึ้นที่จบต่ำกว่า 20 นาที)

ตัวที่ทำให้ Nine ชนะจะมี

1 ตัวหมา Counter แบบ Huskar
2 ตัวตบเลนแบบ Marci
3 ตัวกลัวแพ้เลนแบบ OD
4 ตัวกูเก่งแบบ Arc Warden

จะสังเกตได้ว่าตัวที่ทำให้ชนะไม่มีตัว Tournament หรือตัว Top Pick แบบเล่นกับทีมง่ายเลย

ยุคที่ Nine รุ่งเรืองเองก็เป็น Tusk / Keeper / Spirit Breaker / Winter Wyvern

ผมมองว่าตัวตนเขาเป็นแบบนั้น ไม่ใช่ความผิดของพี่ Nine ครับ

พรี่9 น่าจะมี dendi เป็นไอดอล

พึ่งเห็นข่าย Nisha ไอดีหลัก MMR= 5000 rank devine


แต่ไอดีเสมิฟ 12k ++

MMR สูงบอกอะไรได้บ้าง 1.สกิลเพลย์เฉพาะตัวดี 2.เล่นบ่อย แค่นั้นเลยจริงๆ พวกท็อปแรงค์ที่เวลาแข่งแล้วเหลวก็เยอะแยะ หรือคนที่เป็นแชมป์แต่ MMR ไม่ติดท็อป 100 ก็มีให้เห็นเยอะแยะไป

ทีนี้เคสของ Nine มันไม่ใช่แค่พักแข่งแต่มันหยุดเล่นยาวๆเนี่ยแหล่ะ ความต่อเนื่องมันเลยหายไป ก่อนมันพักแข่งก็เห็นๆกันอยู่ว่ามันเก่งขนาดไหน เมต้าแปลกๆมาจากตัวมันก็ไม่น้อยนะ เพราะงั้นจะบอกว่าพูลมันน้อยนี่ตลกเกินไป แค่ตอนนี้ที่มันกลับมาแข่งคือสภาพเดียวกับกระต่ายที่แวะนอนแล้วดันโดนเต่าแซงไปหมดละ

ยังไงก็มีผลอยู่ดี ความเข้าใจเกมส์ นาทีนี้ต้องทำอะไร lane ไม่ได้ไปstack ไหมแบบนี้
เรื่อง matchup เรื่องtiming hero
ส่วนมากที่เห็นแข่ง lane ไม่ค่อยแพ้ใน10 นาที

เรื่อง objective 15นาที rs ด้วย พวก12k รีบไปเอาจัด
แล้วพยายามจบให้ได้ใน ใน timing hero ตัวเอง +ออกของ counter
ต่างจากพวก7k ลงมา ที่เล่นชิลๆไป

มีอยู่แล้ว ยิ่งเป็นตัวคอร์MMRเยอะมันบ่งบอกว่าถึงการเล่นเพื่อชนะ หาวิธีชนะไม่ว่าจะด้วยตัวเองหรือไปกับทีมไม่ใช่เล่นส่งๆแพ้ช่างมัน แค่ซ้อมมือแบบนั้นไม่มีประโยชน์ แถมMMRน้อยก็จะเจอห้องที่อ่อนลงไปอีก

ส่วนไอ้9ก่อนแข่งทัวร์ที่แล้วยังนั่งกดkezรัวๆอยู่เลย โคตรไม่มีประโยชน์

ส่วนตัวผมคิดว่า

MMR มีผลแค่ตอนคัดเข้าทีมอ่ะสำหรับผม คือคุณจะผ่านมาตราฐานการเป็น Pro-Player ที่ทีมคาดหวังไว้ไหม

แต่ไม่ได้มีผลต่อรูปเกมในรูปแบบของการแข่งขันเท่าไร่
ขึ้นอยู่ว่า Pro Player คนนั้นปรับตัวเข้ากับการแข่งขัน กับทีมได้ดีแค่ไหนดีกว่า
ไอเรื่องความเข้าใจเกมผมว่าถ้าไปถึงระดับเกมแข่งแบบ top-team ได้ เรื่องพวกนี้มันเป็น Default อยู่แล้ว

พวกนักแข่งก็ไม่ได้ TOP1 MMR กันทุกคน

คน MMR เยอะก็ไมไ่ด้ประสบความสำเร็จเสมอไป
นักแข่งหลายๆคนโชกโชนประสบการณ์แข่งแต่ MMR ก็ไม่ได้สูงระดับ top ตลอดเวลาก็มี


Ok ตัวเลข mmr มันแสดงถึงผลลัพท์ว่า คุณเล่นเพื่อชนะ
แต่มันก็ใช้วัดได้แค่ในระดับการเล่นแรงค์ มันใช้วัดความแตกต่างในการแข่งขันยาก
เพราะในห้องแรงค์มันยังมีโยนเกมอยู่ผิดกับการแข่งขัน

สุดท้ายเมื่อมาอยู่ในระบบทีม MMR มันไม่ใช่ตัวที่บอกว่าคนๆนั้นเหมาะกับทีมหรือเปล่า
ระบบการเล่นของการแข่งขัน กับ การเล่นแรงค์ Intensity มันแตกต่างกัน

ยกตัวอย่างเช่น Zai มีใครเคยสงสัยไหมว่า แก MMR เท่าไร่ rank เท่าไร่
ทุกวันนี้ยังมีคนเรียกหา Zai ให้มาเล่นอยู่เลย

แต่ไมไ่ด้บอกว่าไม่มีผลนะ ผมจะบอกว่าถ้าไปถึงระดับเกมแข่งแบบ S-Tier ได้แล้ว ถึงตรงนั้นความแตกต่างของ MMR มันคงไม่มีผลอะไรมากแล้่วแหละ

มีแค่ตอนยังเป็น Rookie ให้คนจับตามอง หรือแมวมองทีมต่างๆ แต่พอขึ้นมาเป็นโปรเพลย์เยอร์แล้ว ไม่ได้มีผลอะไร มีไว้เพื่อเล่นฝึกฝีมือหรือเมต้าแค่นั้น พวกแรงค์ต้นๆก็ไม่ใช่ Top Player Teir S อะไรนี่

เมื่อวานไปนั่งดู 23 เล่นอยู่ตานึงช่วงท้ายเกมละ ขนาดจะ16kทีมยังหลอนเลย

ต่ำๆก้ควร top100

23 บอกในสตรีมยกเว้น XinQ ไว้คน Rank 1000+ แถมวันๆเล่นแต่ 3 ก๊ก แต่พอแข่งจริงโคตรโหด