มุมมองคุณคิดยังไงบ้าง

ถ้าอยู่ๆ คุณลงแรงทำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไปวางขาย แล้วคนที่ทำสินค้าเหมือน ดันเป็นเจ้าของตลาดที่เราวางของขายอยู่ เสียทั้งค่าที่ เสียทั้งความรู้สึก

เรื่องนี้แบ่งสองเรื่อง เพราะผมว่าหลายๆคนออกตัวไกลเกินไปหน่อย ไปโยงถึงนู่นถึงนี่เลย

1. ก๊อบ SME หรือสินค้าที่มาฝากวาง อันนี้ผมไม่เห็นด้วย 100% อย่างที่มีกระทู้เมื่อวานว่า CP ส่งคนไป Inspect โรงงานไม่พอ ยังขอ Sample รวมถึงต้นทางวัตถุดิบด้วย อ้างเรื่องผ่านมาตราฐาน ซึ่งจริงๆเอาแค่ผ่านอย.ก็จบแล้ว อันนี้คือเจตนาไม่ดีแต่แรกแล้ว

2. เรื่องก๊อบไอเดีย อันนี้ผมกึ่งกลาง คือสินค้าตัวปัญหารอบนี้ ไม่ใช่ไอเดียของคนไทย 100% อยู่แล้ว มันเป็นของกินเล่นของเกาหลีอะท่าน อารมณ์เหมือนพวกอุด้งอะไรแบบนั้น เช่นเดียวกับโตเกียวบานาน่าที่เคยมีประเด็น
คือสินค้ามันต้นตำหรับไม่ใช่ของทั้งคู่อะ เจ้าของเขาอยู่ต่างประเทศ ฉะนั้นสำหรับผมเรื่องนี้คือ Fair Game ใครอยากทำก็ทำไป

งั้นถ้าสมมติ CP ทำชานมเสือไฟงัดกับไอ Fire Tiger ที่ไปเอาไอเดียจากไต้หวันไม่พอ
ยังไปฟ้องพวกตัวเล็กตัวน้อย อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของแบรนด์อีก
ท่านว่าเราควรจะปกป้อง Fire Tiger ไหมครับ?
หลักการเดียวกันอะสำหรับผม ถ้าไอเดียมันมาจากต่างประเทศหรือไม่ใช่การคิดค้นของเราแต่แรก มันคือ Fair Game ใครอยากทำก็ทำ Capital คุณเล็กกว่าก็แพ้ แค่นั้นเอง

เรื่องแบบนี้มันพูดยากครับ เพราะการค้าเสรีมันไม่มีกฏห้ามใครทำอะไรอยู่แล้ว ยกเว้นไปจดสิทธิบัตรไว้ เพราะงั้นสิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องระวังเลยคือเรื่องนี้นี่แหละ ว่าเราจะทำยังไงให้คนยังซื้อของของเราแม้จะมีของเลียนแบบทำขึ้นมา

ใหญ่เกินจะแบนเค้าแล้ว

เดี๋ยวนี้กาแฟ ก็ทำแข่งร้านรถเข็น
อาหารเร่งด่วน รวมถึงบางสาขามีข้าวไข่ข้นหมูสับ ทำแข่งร้านเล็กๆอีก

เครือข่ายมือถือ เหลืออยู่ 2 เจ้า

นี่ยังไม่รวมอุตสาหกรรมเกษตร ปศุสัตว์อีก

เรื่องนี้แบ่งสองเรื่อง เพราะผมว่าหลายๆคนออกตัวไกลเกินไปหน่อย ไปโยงถึงนู่นถึงนี่เลย

1. ก๊อบ SME หรือสินค้าที่มาฝากวาง อันนี้ผมไม่เห็นด้วย 100% อย่างที่มีกระทู้เมื่อวานว่า CP ส่งคนไป Inspect โรงงานไม่พอ ยังขอ Sample รวมถึงต้นทางวัตถุดิบด้วย อ้างเรื่องผ่านมาตราฐาน ซึ่งจริงๆเอาแค่ผ่านอย.ก็จบแล้ว อันนี้คือเจตนาไม่ดีแต่แรกแล้ว

2. เรื่องก๊อบไอเดีย อันนี้ผมกึ่งกลาง คือสินค้าตัวปัญหารอบนี้ ไม่ใช่ไอเดียของคนไทย 100% อยู่แล้ว มันเป็นของกินเล่นของเกาหลีอะท่าน อารมณ์เหมือนพวกอุด้งอะไรแบบนั้น เช่นเดียวกับโตเกียวบานาน่าที่เคยมีประเด็น
คือสินค้ามันต้นตำหรับไม่ใช่ของทั้งคู่อะ เจ้าของเขาอยู่ต่างประเทศ ฉะนั้นสำหรับผมเรื่องนี้คือ Fair Game ใครอยากทำก็ทำไป

งั้นถ้าสมมติ CP ทำชานมเสือไฟงัดกับไอ Fire Tiger ที่ไปเอาไอเดียจากไต้หวันไม่พอ
ยังไปฟ้องพวกตัวเล็กตัวน้อย อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของแบรนด์อีก
ท่านว่าเราควรจะปกป้อง Fire Tiger ไหมครับ?
หลักการเดียวกันอะสำหรับผม ถ้าไอเดียมันมาจากต่างประเทศหรือไม่ใช่การคิดค้นของเราแต่แรก มันคือ Fair Game ใครอยากทำก็ทำ Capital คุณเล็กกว่าก็แพ้ แค่นั้นเอง

ไม่ผิด แต่ก็น่าเกลียดอยู่

ไม่โลกสวย ทำอะไรไม่่ได้ครับเพราะเป็นตลาดเสรี สิ่บที่ทำได้คือใช้ social ป่าวประกาศนั่นแหละว่าของเรา original อุดหนุตเรา

ที่อเมริกา google ยังโดน ข้อหา ผูกขาดเรื่องเสิร์ชเอนจิน กับ โฆษณาออนไลน์ อยู่เลย

หันมาดูไทย

ทำไรไม่ได้ ทุนนิยม ทำได้แค่อย่าไปกิน

โกโก้ ร้านรถเข็น 25 ของ นายทุน 35 ต้นทุนนายทุนถูกกว่าทุกอย่าง ตายๆ

ยุคนี้ผมว่าอยู่ที่เราแล้วละ ว่าเราอยากจะอุดหนุนใคร ถ้ายึดถูกน่าจะสู้นายทุนไม่ได้

ในเชิงศีลธรรมก็ถือว่าไม่น่าชื่นชมแหละครับ แต่ในเชิงธุรกิจมันก็เป็นเรื่องปกติ ธุรกิจ commerce แทบจะทั้งหมดก็ทำ House Brand มาแข่งกับสินค้าที่ตัวเองวางขายทั้งนั้นแหละครับ ทั้ง Homepro, Do Home ก็ทำไม่ต่างกัน หรืออย่าง Walmart ก็ทำเหมือนกัน มันเป็นท่าไม้ตายในการเพิ่ม margin ของธุรกิจค้าปลีก

ถึงต่อให้เซเว่นไม่ทำ วันนึงก็ต้องมีคนทำขนมหน้าตาคล้ายๆ กันมาแข่งกันอยู่ดี ถ้าอยากทำธุรกิจที่ไม่มีคนมาแข่งขันเลย ก็ต้องหาผลิตภัณฑ์ที่มีสิทธิบัตร หรือ มี moat ที่คู่แข่งเข้ามาไม่ได้ ทำธุรกิจอาหารมันมี barrier to entry ต่ำมากๆ อยู่แล้ว ก็ควรจะต้องเตรียมใจเอาไว้

เรื่องนี้ผมว่ามันโคดจะปกติเลย แต่มันดราม่าเพราะเซเว่นมันทำแบบนี้ประจำจนคนเค้าอคติกันไปหมดแล้ว

มันดราม่าเพราะเป็นซีพีอะ ไอ้กลยุทธนี้นี่ไม่ใช่ของใหม่หรอก เอาแค่ตลาดบ้านๆบางทีก็มี
เจ้าของตลาดเห็นร้านลูกชิ้นทอดขายดี เลยให้ลูกหลานตัวเองมาขายแข่ง มันก็แบบเดียวกันนั่นแหละ
น่าเกลียดน่ะใช่ แต่ก็ไม่ได้ผิดอะไร
ยิ่ง 7 เนี่ย ไม่ได้ไปขอร้องให้คุณมาขายด้วย คุณขอเข้ามาเอง และในสัญญา การจะวางขายในร้านเค้าได้ เค้าต้องไปเช็คสูตร ตรวจโรงงานก่อน โอเคแหละถึงมันจะทำเป็นพูดว่าเพื่อให้ได้มาตรฐานความสะอาดความปลอดภัยอะไรก็เหอะ แต่มันก็รู้ตั้งแต่วันเซ็นแล้ว ถ้าไม่นาอีฟเกินไปคุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีโอกาสแบบนี้เกิดขึ้น แต่คุณเลือกเงื่อนไขนี้เอง เค้าไม่ได้แอบทำ
สินค้าหลายตัวที่กะว่าเข้า 7 แล้วจบ สบายแระมีสาขาทั่วประเทศ ผลิตให้ทันก็พอ ถ้าคิดหยั่งเงี๊ยะอะพัง เพราะกะไปพึ่งเค้าอย่างเดียว แต่ถ้า 7 เป็นแค่ทางเลือกหนึ่ง มันยังจะไปของมันต่อได้ เพราะสุดท้าย 7 ก็ทำแค่เฮาส์แบรนด์ขายในร้านของตัวเอง ไม่ได้ตามไปประกบในทุกที่ที่คุณไปลงของ
จริงๆก็ไม่ต่างจาก ซันไล โดนประกบด้วยยี่ห้อเอโร่ ยี่ห้อคุ้มค่า อะไรงี้หรอก น้ำยาล้างจากพวกนั้นก็ถูกกว่าแต่สุดท้ายคนก็ยังซื้อซันไล เพราะแบรนด์มันแข็ง นั่นแหละคือสิ่งที่คุณต้องทำ สร้างแบรนด์ให้มันแข็งก่อนเข้าไป
ซึ่งใช่ สำหรับแบรนด์ใหม่เอี่ยมมันยาก และมันเหนื่อยที่เจออะไรงี้ แต่นี่เป็นความจริงที่จะต้องเจอตราบที่ยังง้อเค้าอยู่

ไม่เห็นจะไปก๊อปสาหร่ายเลย

กลัวว่าจะมีอยู่ในสัญญาไหม

เช่น อนุญาตให้มาขายใจ 7

โดย ต้องให้ไปตรวจสอบโรงงาน [ก็คือการไปเก็บข้อมูลนั่นเอง]

ความโหดร้ายของ ทุนนิยม (ซึ่งเป็นปกติของเจ้าตลาด)

ทำไรไม่ได้จริงๆ

มันคือโลกทุนนิยม และดันกฏหมาย + คนไทย

ทำให้เค้ายึดตลาดนี้ไปครองได้

แล้วเราก็ไปเอาผิดเค้าไม่ได้ด้วย เพราะ ระบบเค้ามันโยงใยต้นน้ำจนถึงปลายน้ำหมดแล้ว

กฏหมายจะไปเล่นผิดก็คงทำไม่ได้ ิเพราะเค้าทำในช่วงที่ตอนนี้ไม่มีกฏหมายเอาผิด

ดังนั้นความหวังเดียว ซึ่งเป็นไปไม่ได้หรอก สำหรับคนไทย

คือ ไม่อุดหนุน