เพิ่มราคาสักหน่อย ติดแอร์ให้ครบ แล้วแบบนั่งชั้น2 ด้วย ควรติดแอร์เหมือนกัน

บางคนที่เข้ามาติโน่นนี่ อยากให้เข้าใจ รฟท.บริการเชิงสังคม ต้นทุนตอนนี้มันมาไกลมากแต่ปรับราคาไม่ได้ ราคาตั๋วชั้นสามปัจจุบันไม่ปรับบมาอย่างน้อยๆก็สามสิบปีแล้ว ฉนั้นการปรับปรุงคุณภาพมันเลยดูเหมือนไม่มีการพัฒนา

ถ้าหากปรับให้สอดคล้องกับต้นทุนจริง คนที่รายได้น้อยคงไม่สามารถใช้บริการพื้นฐานแบบนี้ได้

น่าจะทำตั้งนานแล้ว พึ่งจะนั่งขากลับจากพิษณุโลกจองรถด่วนไม่ทัน นั่งชั้น 3 ทั้งฝุ่นทั้งกลิ่นสนิมเหมือนเดิม

สถานีละ 3 บาท หากำไรจากค่าโดยสารก็คงยาก เมื่อก่อนมีที่เยอะก็คิดว่าไม่ค่อยบริหารเอาไปทำกำไร คงกลัวเรื่องโดนฟ้องหรืออะไรมั้ง แต่มันกำไรยากจริงๆ ถ้าอยากให้กำไรจะไม่มีคนนั่งขนาดนี้นะผมว่า

กลิ่นลึ่มแน่นวล

ข้อดีนี่ดีเยอะมากๆ ข้อเสียที่นึกได้ก็เรื่องเดียวคือ ผดสอีกประมาณ 30-50% แล้วแต่วันนะ
ก่อนขึ้นรถไฟนี่ทั้งกลิ่นเสื้อ กลิ่นตัวนี่ ฝุดๆ ได้ตลบอบอวลบนรถแน่
ถึงยังไงก็น่าพ่วงพัดลมไปกับขบวนด้วยอยู่ดี

ผมตรวจตั๋ว เจอทุกวัน ทั้งกลิ่นต่างๆ
ที่สำคัญเลยนะคนที่ตังหมดไปกับค่ารถไฟนี่เยอะหลายเคสและมีประจำ เยอะกว่าที่คนธรรมดาจะคิดได้
เวลาคนตกรถ เพราะมาไม่ทันหรือไม่รู้ว่าเลขขบวนนี้ผ่านสถานีที่จะลง
ผมก็ให้เขาไปซื้อตั๋วขบวนถัดไป แล้วคือแต่ละคนไม่มีเงินติดตัวแล้ว บัตรสวัสดิการก็ใช้จนครบยอด ต้องติดต่อตำรวจเพื่อขอความอนุเคราะห์ขึ้นฟรีตามภูมิลำเนา
ตอนผมทำงานใหม่ๆ ผมออกเงินช่วย ผดส ซื้อตั๋วหลายครั้งเลยนะเพราะสงสาร พอมันเหนื่อย ก็เลิกทำละ

รถแอร์มีอะ โคตรดีเลย
รถพัดลม ยังไงก็ต้องมี ต้องพ่วงไปกับขบวนอยู่ดี

ควรแก้ห้องน้ำ ห้องส้วมก่อนครับ สกปรกมาก ทนเข้าไปใช้ไม่ไหวจริงๆ ผมไปมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ห้องส้วมยังคงสภาพเหมือนที่ผมเคยใช้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว โคตรสกปรก ต้องนั่งยอง แถมไม่มีหัวสายฉีดก้น และไม่มีที่ตั้งสายฉีด

ค่าโดยสารไม่ได้สะท้อนต้นทุนจริงๆครับ เมื่อก่อนที่รฟท. ยังไม่ได้มีระบบขายตั๋วออนไลน์ ยังต้องปริ้นกระดาษเป็นใบๆ ช่วงก่อนโควิด

มีคนขึ้นรถไฟชั้นสามใกล้ๆอย่างดอนเมืองไปหัวลำโพงค่าตั๋ว2บาท!!! คือแค่มีคนมาใช้บริการรฟท.ก็ขาดทุนแล้ว ค่ากระดาษปริ้นตั๋วยังแพงกว่า2บาทเลยมั้ง

แล้วมันจะเอาอะไรมาดี ถ้าไม่ได้เงินอุดหนุนหรือเงินกู้

ปรับเบาะด้วยเถอะขอร้อง