“นายกฯ” แวะเติมของหวาน พร้อมขอบคุณทุกคะแนนเสียง



ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ลงมาจากห้องทำงานเพื่อเดินทางกลับ ขณะนั้นนายกรัฐมนตรีได้สังเกตเห็นโรงอาหารประจำรัฐสภา จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาซื้ออาหารเพื่อรับประทาน พร้อมยอมรับว่านี่เป็นการมาที่โรงอาหารครั้งแรก เพราะตอนเย็นที่มานั้น โรงอาหารจะปิด

ก่อนจะเดินไปที่ร้านขนมและเครื่องดื่ม ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่า ถูกโรยเกลือไปเยอะจึงต้องรับประทานน้ำตาลใช่หรือไม่ ทำให้นายกฯ ตอบว่า การเมืองไม่หยุดเลยเรา ขอพักการเมืองบ้าง

ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะแซวกลับไปอีกว่า โดนโซเดียมไปเยอะใช่หรือไม่ ทำให้นายกฯ กล่าวว่า ”ต้องเติมน้ำตาลแล้ว“ พร้อมกับระบุอีกว่า ทำให้รู้สึกเหมือนสมัยที่กำลังศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่รู้สึกอยากดื่ม ”ยาคูลท์ปั่นปีโป้“ แต่ได้สั่งเมนู ชาเขียวมัทฉะไปแล้ว ซึ่งไม่สามารถสั่งเพิ่มอีกแก้วได้แล้ว เพราะสองแก้วคงไม่ไหว

ก่อนจะเดินทางกลับ นายกฯให้สัมภากับสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ไว้วางใจ ตอนแรกยังไม่แน่ใจว่าวิธีการเป็นอย่างไรเพราะเป็นครั้งแรก พอประธานพูดจบเสียบบัตรลงคะแนนเลขก็ขึ้นเลย จึงไม่แน่ใจว่าเลขที่จอใช่ผลหรือยัง ซึ่งถือว่าเร็วมากเพราะตอนโหวตนายกฯ เป็นการขานชื่อ ถือว่าเร็วมากก็ต้องขอบคุณ(เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568)





ที่มา เพจ pptv

พี่โย่งว่าไร่ราศีแล้ว น้องอ้วงยิ่งกว่าอีก

ไม่ว่าสถานการณ์ไหนทำไมมันดูชิวไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

ขยะแขยงสุดๆ

Dunning-Kruger Effect คนโง่นี้เองในทางวิชาการแล้ว จัดได้ว่าเป็น Illusory superiority หรือ ‘ความเหนือกว่าอย่างลวงตา’ แบบหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดพลาดทางการรับรู้ (cognitive error) ประเภทหนึ่งนั่นเองครับ ที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ขาดความสามารถในการรับรู้ว่าตนเองนั้นไร้ซึ่งความสามารถในด้านนั้นๆ กล่าวก็คือ ไม่ได้รับรู้ว่าตนเองไม่มีความสามารถในด้านนี้ เข้าใจมาตลอดว่าตนเองโอเคอยู่ เช่น คนที่ร้องเพลงเพี้ยน แต่ไม่รู้ตัวว่าร้องเพลงเพี้ยน ก็เข้าข่ายลักษณะที่ว่านี้นั่นเอง

เพิ่มเติมครับ https://thematter.co/thinkers/dunning-kruger-effect/138692

เคยมีสักเสี้ยววินึงไหมที่คิดว่า ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ละอายแ่ใจบ้างไหม

พวกนายไม่เคยรวย พวกนายไม่รู้หรอก

ไม่มี ก็เสียภาษีเยอะกว่าอ่ะค่ะ