ผมใส่ 2000 รวมกับแฟนด้วย ทุกงานก็ประมาณนี้

1. 2,000

2. 3,000

ปัจจัยอื่น ๆ ก็ลักษณะสถานที่งานแต่ง เงินเฟ้อ

ถ้าบ้านผม เค้าใส่มา2,000 ท่านก็เกทับไปเลย 3,000 หากมีงานอื่นๆอีก อีกฝั่งต้องมา 4,000 เมื่อลูกท่านแต่งงานก็ 5,000 แล้วมันจะเพิ่มไปชั่วลูกชั่วหลาน

หมายถึงกำลังเดินทางไปงานแต่ง ระหว่างทางก็เอาเมียไปด้วยหรอครับ

ไม่เคยเจอธรรมเนียมแบบนี้เหมือนกัน ถ้าให้เพิ่มก็มีแต่ต่องาน

2000 เท่าเดิมครับ

มันไม่ใช่ค่าหัว หรือราคาตั๋วเข้างาน ที่ต้องนับให้ครบรายคนนิ

ใส่เท่าไหร่ก็เท่านั้นแหละ ถือเป็น 1 บ้าน

จะไป 10 ก็ควรแจ้งเจ้าภาพว่าทางเราไป 10 คน แต่เงินในซองเท่าไหร่มันก็แล้วแต่เรา

กดเครื่องคิดเลขแล้วคิดว่า หลายๆงานที่ไปถ้าคนจัดได้ต่ำกว่าเก้าอี้ละ 2000 น่าจะเหนื่อยอะครับ เคสที่พาแฟนไปจะบวกคูณสองหรือคูณ 1.5 ก็อีกเรื่องละกัน

แล้วแต่คนด้วยครับอย่างคอมเม้นต์อื่นๆว่าแหละมันมีหลายแนวคิด

ผมเห็นด้วย ตามนี้ เค้าใส่มา สองพัน เราอยากใส่กลับสองพัน หรือมากกว่า ก็จัดไปครับ ถ้าไปคิดมากขนาดนั้น ถ้าแต่งห่างกันเกินไป มันต้องเอาเรื่องเงินเฟ้อ มาคิดด้วยไหม ถึงจะเท่ากัน ผมว่าสุดท้ายใส่เท่ากัน เค้ามางานเรา เราไปงานเค้าได้ถ่ายรูป แสดงความยินดี ถ่ายภาพร่วมกันน่าจะเป็นสิ่งที่คู่บ่าวสาว ต้องการมากกว่าเงินนะ ถ้าแต่งแล้วมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเงินซอง กับเพื่อน ผมว่าไม่ใช่แล้ว

ควรใส่เท่าเดิมหรือบวกเพิ่มครับ

ปกติ ก็ต้องใส่มากกว่าหรือเท่ากับที่เขาใส่มาแหละครับ

เขาช่วยเรามา 2 พัน จะใส่คืน พันนึง ก็คงกะไรอยู่

ถ้าคุยกันแบบเพื่อนสนิท บอกตรงๆเลยก็ได้ ถ้าไม่ไหว กุไหวแค่พันนะ

เป็นเพื่อน ผมไม่ต้องการซองเพื่อนเลยนะ แค่เห็นเพื่อนมาร่วมขบวนแห่ขันหมาก

แม่มก็โคตรดีใจละ

ใส่ซองเท่าไหร่มันคือหน้าตาของท่านเอง อยากหน้าใหญ่ก็ใส่เยอะ หน้าเล็กก็ใส่น้อย

เข้าใจว่าเจ้าของงานคงพร้อมจัดงานอยู่แล้วมั้ย จัดแบบมีเงินพร้อมจ่าย ไม่ได้จัดงานเพื่อหวังจะเอาเงินจากซองแขกมาร่วมงานมาจ่าย

ส่วนใครจะใส่เท่าไหร่ก้เป็นเรื่องความพึงพอใจ

ช่วยมาเท่าไหร่ใส่กลับเท่านั้น หรือจะบวกเพิ่มก็ได้

มากกว่าหรือเท่ากับ ไม่เกี่ยวว่าไปกี่คน
ปล. สำหรับผมนะ