BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 22160
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 25, 2025 21:05
กฎหมายป้องกันการผูกขาดตปท - พรบ.ป้องกันผูกขาดที่เป็น"เสือ"กระดาษ


กฎหมายไทยมีพรบ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ที่ปรับปรุงมาจากกฎหมาย 2552 แต่กฎหมายดังกล่าวนั้น
ไม่เคยนำมาใช้อย่างจริงๆจังๆ กว่าจะนำมาใช้ก็ทำให้กลุ่มนายทุนครองควบคุมต้นน้ำ -กลางน้ำ-ปลายน้ำ ทั้งหมด
สร้างอาณาจักรความร่ำรวยอย่างมากมายมหาศาล สร้างมาตรฐานของความเหลื่อมล้ำครั้งแล้วครั้งเล่า อะไรที่ทำให้นายทุนยักษ์ใหญ่สามารถทำได้ มีเหตุผลอยู่ประการใหญ่ คือ
ภาคการเมืองมิได้นำกฎหมายมาใช้อย่างจริงจัง ทั้งยังส่งเสริมให้กลุ่มนายทุนมีอำนาจมากมากขึ้น ผ่านการแทรกแซงทางเศรษฐกิจและตลาด เครื่องมือสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตคือ การใช้กฎหมายส่งเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ขจัดคู่แข่งทางการค้า วิวัฒนาการนับตั้งแต่การเมืองพฤษภาทมิฬ กลุ่มนายทุนเริ่มมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น ผ่านการเข้ามาเล่นทางการเมือง หรือส่งบุคลากรลงเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ อาทิเช่นการใช้อำนาจเงินซื้อนักการเมือง เมื่อสามารถกุมอำนาจกำหนดทิศทางผ่านเชิงนโยบายและกฎหมายของรัฐ ก็ง่ายต่อการดำเนินการต่อไป ในขณะที่ต่างประเทศได้มีออกกฎหมายเพื่อป้องกันการผูกขาดเหมือนเช่นของไทย แต่สิ่งที่แตกต่างกัน "การเอาไปปฏิบัติอย่างจริงจัง" ไม่ใช่ทำให้กฎหมายนั้น เป็นเพียงแค่ " เสือกระดาษ" เท่านั้น



ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอย่างประเทศอเมริกา ที่ออกกฎหมายAntitrust Laws โดยกฎหมายดังกล่าวได้ให้ความสำคัญในการป้องกันผูกขาดของกลุ่มนายทุน ประกอบด้วย3หลักเกณฑ์ 1.Sherman Act of 1890 2. พระราชบัญญัติเคลย์ตันปี ค.ศ.1914 3. พระราชบัญญัติคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางปี ​​ค.ศ.1914
สามกฎหมาย ได้ใช้รูปแบบครอบคลุมดังนี้
1.การใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ (Abuse of Dominance)
2.การควบรวมธุรกิจ (Merger)
3.การตกลงร่วมกันเพื่อลดการแข่งขัน (Collusive Practice)
4.การกระทำที่เป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม (Unfair Trade Practice) และ
5. พฤติกรรมอื่นๆ ที่มีบทบัญญัติเฉพาะแยกออกไป


เหตุการณ์ที่มีการใช้กฎหมายจัดการผูกขาดของอเมริกาที่เป็นข่าวโด่งดังทั่วโลกคือ
1.เคส ‘Standard Oil’ บริษัทน้ำมันของอภิมหาเศรษฐี John D. Rockefeller ซึ่งใหญ่มากจนผูกขาดตลาดของอเมริกาได้แบบสมบูรณ์ สุดท้ายศาลตัดสินให้ ‘แตกบริษัท’ ออกมา 34 บริษัทในปี ค.ศ.1911 ภายใต้ชื่อที่คุ้นเคยอย่างเช่น Exxon, Chevron
2.เคส ‘AT&T’ บริษัทให้บริการเครือข่าย ที่ถูกศาลตัดสินว่าผูกขาดเช่นกัน ทำให้สุดท้ายต้องแตกเป็น 7 บริษัทในปี ค.ศ.1974

ใขณะที่ยุโรปประเทศที่พัฒนาแล้วก็ให้ความสำคัญกับป้องกันผูกขาด ช่วยให้ธุรกิจรายเล็กสามารถอยู่รอดได้
อาทิเช่น
-ปี ค.ศ.2009 ‘Intel’ โดนปรับ 1,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ฐานผูกขาดตลาดชิปคอมพิวเตอร์ เพราะใช้ส่วนลดพิเศษ
-สั่งปรับ ‘Google’ ในปี ค.ศ.2018 ที่ 2.42 พันล้านยูโร หรือราว 9.5 หมื่นล้านบาท ฐานฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการผูกขาด เพราะ Google Shopping เสนอข้อมูลสินค้าที่จ่ายเงินให้กูเกิลอยู่บนสุดทุกครั้งในหน้าค้นหา เวลาผู้บริโภคค้นหาข้อมูลที่ตนต้องการ

ในขณะที่เอเชียอย่างจีนก็จะมีเรื่องราวรัฐบาลจีนจัดการปรับ ‘Alibaba’ ของจีน ที่มีมูลค่ากว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เพราะอาลีบาบากีดกันไม่ให้คนขายไปขายของกับแพลตฟอร์มอื่น ด้วยการผูกให้ใช้แต่ช่องทางการชำระเงินตัวเอง ถือว่าเป็นเคสสำคัญ และเป็นบรรทัดฐานของประเด็นการผูกขาดในจีน ที่กฎหมายเพิ่งออกมาครบ 10 ปี ในขณะที่สิงคโปร์ก็จัดนายทุนเคสของการควบรวม ‘Grab X Uber’ นั้น ถูกคำสั่งตัดสินให้จ่ายค่าปรับ 13 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยให้เหตุผลว่า การควบรวมทำลายระบบตลาดอันเป็นธรรม ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในเรื่องค่าโดยสารที่สูงขึ้น และการเอาเปรียบเรื่องรายได้หรือค่าคอมมิชชั่นของคนขับรถรับจ้าง เนื่องจากในเวลานั้น Grab ก็ครองตลาดสิงคโปร์ไปราว 80% แล้ว ทำให้ไม่มีคู่แข่งอื่นมีโอกาสต่อสู้ได้






จากที่กล่าวมาทั้งหมดหากเอามาลองเทียบกับประเทศไทยนั้นแล้ว เราจะเห็นกฎหมายบางประเทศนั้นใหม่กว่าของเราแน่นอน แต่ประเด็นสำคัญคือไม่ได้อยู่การออกกฎหมายนั้นช้าหรือเร็ว แต่อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายเสียมากกว่า การปล่อยปละละเลยคือความผิดพลาดที่ทำให้การสร้างความเติบโตของการผูกขาดจนมันยากแก่การแก้ไข ทำได้เพียงประคับประคองไม่ให้เกิดการผูกขาดมากกว่านี้ การผูกขาดทำลายโครงสร้างเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับล่าง-ระดับปานกลาง รวมไปถึงการสร้างค่านิยม พฤติกรรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มองสิ่งไม่ปกติ ให้เป็นเรื่องปกติ ความน่ากลัวในอนาคตไม่ใช่การกินรวบแค่ต้นน้ำ-กลาง-ปลายน้ำ แต่จะเป็นผูกขาดไปจนถึงระดับ "ตาน้ำ" เลยทีเดียว






ข้อมูลเคสเหตุการณ์จากThe matter









แก้ไขล่าสุดโดย Hell_Yeah เมื่อ Tue Mar 25, 2025 21:07, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 9859
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 25, 2025 21:20
[RE: กฎหมายป้องกันการผูกขาดตปท - พรบ.ป้องกันผูกขาดที่เป็น"เสือ"กระดาษ]
ทรูดีแทคแค่ภาพใหญ่ๆ แค่ปัญหายังไม่แสดงอย่างเด่นชัน

แต่ แม็คโคร โลตัส นี่คือภาพชัดของปัญหา เกิดการเล่นทริคของผู้ผลิตของที่ขายในแม็คโครอาทิโค๊กกระป๋องจะสกีนราคาเอาไว้ชัดเจน แต่โค๊กกระป๋องที่ขายในเซเว่นจะไม่สกีนราคาที่กระป๋อง เหมือนบีบรายย่อยให้ขายตามการสกีน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel