ไปดูโชว์รูมรถแถวบ้าน ขอไม่บอกยี่ห้อ เจอแผงคอนโซลโล้นๆ มีแค่หน้าจอใหญ่ๆ

แง่นึงมันก็โล่งแหละ
แต่ในแง่การใช้งานจริง มันดีต่อผู้ใช้มั้ย หรือมันลดต้นทุน หรือเทรนมินิมอล แอบรู้สึกเข้าไม่ค่อยถึงแฮะ แค่ปรับแอร์ยังรู้สึกลำบากเลย

ไม่ดี แล้วก็จะค่อยๆน้อยลงแล้วด้วยเพราะ euro ncap จะหักคะแนนถ้ามีแต่จออย่างเดียว

มันดูสวยดูมินิมอล แต่การใช้งานจริงอันตรายมาก

สำหรับผมแล้วเบรคมือขอเป็นด้ามเหมือนเดิมได้ไหม ไม่เอาไฟฟ้า ชอบเสียงกื้ดๆๆๆ

ดีไม่ดีต้องลองจินตนาการดูครับ

กลางคืนกลางค่ำ ขับๆอยู่อยากปรับกระจกข้าง ตาต้องมองจอ ททการจะปรับให้ผมเดาอย่างน้อยๆต้องเข้าเลเยอร์ที่ 2 หละ ปรับแอร์ก็ต้องมองจอ

ผมไม่เคยใช้หรอก แต่แค่คิดก็ปวดหัวละ 555

เหมือนจะมีบางรุ่นไม่มีสวิชกระจกด้วยมั้ง

เป็นเหตุผลที่ไม่เคยรู้สึกพิสมัยรถไฟฟ้าอะไรเลย นอกจากฮุนได

เอาจริงๆ อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย อยากให้แมนนวลเหมือนเดิมมากกว่า มันรู้สึกสบายใจกว่าเวลากระทันหัน

ขับเทสล่าล่าสุดแล้วจะบ้า ยัดจอหมดทุกสิ่งยันเกียร์
ได้ยินว่าจอมันต้นทุนถูกกว่าด้วยแล้วดูล้ำกว่าด้วย ยัดลงจอหมดหายไปหลายสิบปุ่มเลยล่ะ

มันมีเรื่อง Ergonomics น่ะแหละ ใครเรียน IE มาก็น่าจะได้เรียนนวิชา Ergonomics ให้การออกแบบ

สมัยก่อนจะมีฝั่งสวีเดน (ทั้งวอลโว่และซาบ) ที่ได้รับคำชื่นชมเรื่อง Ergonomics ว่าค่อนออกแบบมาได้ดี
แล้วจะมีของจีนกับเกาหลีที่โดนด่าเยอะเรื่อง Ergonomics ที่แปลกๆในการคิดและออกแบบปุ่มไรงี้

แต่พอเจอคนแหวกทำจออย่างเดียว (น่าจะเทสล่ามั้งเจ้าแรกที่แมสๆ) ก็เริ่มแห่กันทำตามโดยเฉพาะฝั่งจีน
เพราะอย่างที่บอก นโยบายการออกแบบจีนคือเห็นไอเดียดีๆก็ขโมยมาใช้ อันนี้ปกติเขาตั้งแต่ยุคไหนๆแล้ว
เยอรมันผมค่อนข้างผิดหวังกับเบนซ์มากกว่าโดยเฉพาะ EQS เพราะว่ากันตามตรงมันไม่ต้องจอยาวขนาดนั้นก็ได้
แทบไม่มีความจำเป็นต้องใช้ แต่เดาว่าคงอยากทำแบรนด์ใหม่สู้ Tesla ด้วยแหละเลยออกมาแบบนั้น (BMW i ผมไม่แน่ใจว่าจอล้วนรึยังนะ)

ส่วนตัวผมถ้าขึ้นรถไปแล้วไม่มีปุ่มตามนี้ ถือว่าออกแบบได้ผิดหลักมากคือ
1. ไฟฉุกเฉิน
2. ปรับแอร์ ไม่เอาแค่เปิดปิด แต่ต้องรวมถึงเพิ่มลดด้วย
3. ควบคุมกล้อง อนุญาตให้อยู่บนพวงมาลัยได้
4. เพิ่มลดเสียงในรถ รวมถึงการวางและรับสายสมอลทอล์ค (เข้าใจว่าอยู่บนพวงมาลัยกันเกือบหมดแล้ว)

เพราะปุ่มพวกนี้เป็นอะไรที่ใช้กันบ่อยมากโดยเฉพาะระหว่างการขับขี่ และการละสายตาลงมาปรับเป็นอะไรที่ผิดหลักการขับขี่แต่แรกแล้ว ไอที่ปรับแอร์และเสียงรถต้องเป็นแบบมือหมุนหรือก้านล็อคที่มีฟีดแบ็คต้านมืออะ ก็เพื่อเหตุผลนี้คือเอานิ้วสัมผัสแล้วรู้ว่าไอนี่คืออะไรแบบไม่ต้องละสายตาลงมา

ส่วนตัวผมไม่ชอบ
และเชิง function ก็ไม่ค่อยปลอดภัยในความคิดผมนะ

ปุ่ม physical เราใช้การคลำแล้วกดได้โดยสายตาไม่ต้องละไปจากถนน

แต่ touchscreen ทำแบบนั้นแทบไม่ได้เลย หลายๆคนอาจจะบอกก็สั่งงานด้วยเสียงสิ
ระบบสั่งงานด้วยเสียงในปัจจุบันก็ยังไม่แม่นยำพอ แล้วก็ต้องรอประมวลผลอีกสักพักอีก

สรุป ซื้อรถใหม่ผมก็ยังมองเรื่องนี้เป็นปัจจัยสำคัญอยู่ด้วย

อันนี้ไม่ได้อวยนะครับ ในบรรดารถใหม่ๆผมยกให้ Lexus ออกแบบมาโคตรดี

ปุ่มสำคัญที่ใช้บ่อยๆเช่นแอร์นี่ ทำแยกเลย ไม่เอาไปรวมเป็นหน้าจอ

ไม่ดีครับ ส่วนตัวผมว่าไม่ Work เลย

คิดว่าลดต้นทุนฮะ ถามว่าดีต่อผู้บริโภคไหม? บอกเลยว่าไม่ใช่ผมแล้วหนึ่ง

ส่วนตัวผมชอบปุ่มจริงๆมากกว่า จะปรับอะไรก็คลำๆเอาไม่ต้องละสายตาจากถนน เอาจริงไม่อยากให้มีจออยู่ในรถด้วยซ้ำ

ถ้ามีก็ขอให้พับซ่อนลงไปได้ หรือขอขนาดเล็กๆแบบใน mazda กำลังดี

ไม่ดีกับคนขับ ต้องมองเวลากด สมัยก่อนคลำๆเอาได้ไม่ต้องละสายตาจากถนน