น้องง่วง เปิดราคามา 470000 วันดีๆงามๆ ลมเย็นๆ เหลือ 370000 จำนวน 1000 คัน นะครับ
การตลาดแบบจีน ยากจะคาดเดานะครับ

เหมือนสมัยก่อน เพื่อนผมมันจะเคลมรถมันถอยตูดให้ชนเสา แล้วส่งซ่อม มันบอกเขาจะได้ทำให้ทั้งชิ้นดีๆ (สมัยกล้องไม่ค่อยมี) ผมนี่คิดในใจ มึงนี่คิดเรื่องแบบนี้ถนัดนักนะ... ไม่ดีหรอกสุดท้าย ด้วยแนวคิดแบบนี้ ชีวิตคือไม่เข้าท่าเลย

มีน้องที่รู้จักออก good cat มา ตอนเชียงใหม่น้ำท่วม จมทั้งคัน ได้คืนทุน เงินที่ได้มาตอนนี้ซื้อคันใหม่เงินสดได้เลย

เอาจริงๆผมไม่กล้าผ่อนรถไฟฟ้าเกิน4ปี
ตอนนี้ไม่กล้าซื้อกลัวทำใจไม่ได้ ถ้ามันลดหนักๆ

เก็บตังเอาสดไปเลยดีกว่า ลดก็ช่างมัน ทิ้งเหมือนเคนื่องใช้ไฟฟ้า

จีนเค้าเน้นขายอยู่แล้ว และเหมือนนัดกันมานะว่าในมอเตอร์โชว์ลดแบบโหดๆเลย แค่นี้คนก็แห่กันซื้อได้ล่ะ ส่วนจะมีอะไรเกิดขึ้นทีหลังค่อยว่ากัน เรื่องสงครามราคา ขายตัดราคาผมว่าจีนนี่เรื่องปกติเลยนะ ใครที่ไม่เดือดร้อนกับเงิน 4-5 แสนแล้วต้องใช้รถทุกวันเดินทางตลอด มันก็โอเคล่ะ ส่วนคนที่ซื้อไปแล้วผมว่าคิดเรื่องใช้และความคุ้มค่ากับไม่ต้องจ่ายเงินค่าน้ำมันดีกว่า เหมือนมือถือล่ะ ซื้อตอนเปิดตัวราคานึง พอผ่านไปสักพักรุ่นใหม่จะมาก็ลดราคามาเพื่อล้างสต๊อคของเก่าไป

แบบว่าสะใจครับ

ขอโทษผู้ใช้ BYD คนอื่นด้วยครับ แต่ผมเคยโดนคนขับ Atto3 แซะเรื่องรถ

ตอนนี้คิดย้อนไป โคตรสะใจอะ

น่าจะจ้อจี้ครับ ใครจะตั้งใจขับรถชน เพื่อเอาเงินแบบโง่ๆ โดนสอบสวน เบิกไม่ได้วุ่นวายอีก

ใช่ไงครับ เกิดทำกันเยอะๆ มาเดือดร้อนกับคนที่ประสบเหตุจริงๆอีก
แถบถ้าโดนประกันสอบว่าตั้งใจนี่งานหยาบ ทั้งเจ็บตัว ทั้งไม่ได้เงินประกัน
ดีไม่ดีโดนฟ้องอีก

เบนซ์ลด 800000ไม่เหนมีใครพูด

คิดเสียว่า ซื้อหุ้น ติดดอย แล้ว ทรงไม่ฟื้น ต้องขายขาดทุน

ก็อาจจะแบบนั้น โม้เอาหล่ออวดฉลาดไป ผมก็ฟังๆไป

จริงๆมันคือหลักการตลาดขั้นพื้นฐานเลยครับ คนเรียนการตลาดวิชาแรกก็ได้เรียนอะไรพวกนี้แล้ว

มันคือเรื่องคุณค่าของสินค้าครับ สินค้าที่ลดราคาเพื่อให้ขายได้มันทำให้คุณค่าของสินค้ามันลดลง คนซื้อจะให้ค่าให้แค่ราคาที่ลดแล้ว ไม่ใช่ราคาก่อนลด และเค้าจะรอซื้อในตอนที่ลดเท่านั้น ตัวอย่างสุดคลาสสิคคือเรื่องร้านโดนัทเจ้าดังเจ้าหนึ่งที่จะลดราคาในช่วงก่อนปิดร้าน และคนจะมารอซื้อตอนก่อนปิดร้านกันเต็มไปหมด แต่ช่วงปกติแทบไม่มีคนซื้อ

ส่วนตัวอย่างที่เห็นชัดสุดคือ ไอโฟน ครับ ที่ official ไม่มีการลดราคาเลยในระหว่างปี ทำให้ลูกค้าจะซื้อตอนไหนก็ราคาเท่ากัน ไม่มารอ 3 เดือนหลังเปิดตัวแล้วค่อยซื้อเหมือนแบรนด์อื่นๆ และราคามือสองก็แข็งกว่าแบรนด์อื่น

โคตรเบื่อจีนตรงนี้ เริ่มตามพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ละเน้นขาย ถูกใช้ละทิ้งเป็นเศษซากเลย อยากรู้ว่ามันจะกระทบกับขยะโลกไหมครับ หรือพวกนี้มันสามารถเคลียได้ง่ายกว่าพวกพลาสติก

ส่วนตัวผมรอให้มีบริษัทที่จริงใจเรื่องบริการหลังการขายก่อน

บริษัทไหนคิดได้ หันกลับมาใส่ใจบริการหลังการขายผมว่าบริษัทนั้นจะเป็นผู้ชนะในระยะยาวอ่ะ

ตอนนี้เล่นสงครามราคากันนี่ ผมมองว่าส่วนหนึ่งเพราะเทคใหม่กำลังเข้ารุ่นใหม่ๆไง

รุ่นเก่าเทคเก่าก็ต้องเทขาย

เทคใหม่คือมิติใหม่เลยนะ ลองตามข่าวให้ดีเรื่องแบตใหม่อ่ะ ดังนั้นส่วนตัวการลดหนักแบบนี้มองว่าไม่แปลก

เป็นแค่การเทกระจาดรุ่นเก่า ก่อนรุ่นใหม่ลงสายพานผลิตแหล่ะ

มือสองรถไฟฟ้าราคามันไม่เหลืออยู่แล้วครับ เพราะค่าแบตที่ต้องเปลี่ยนมันได้คันใหม่คันนึงเลย นอกจากว่าจะขายทิ้งก่อนสัก2-3ปีหลังซื้อ

ส่วนตัวผมเปนคนไม่ยึดแบรนด์ ขอแค่รถใช้ดีก็พอดังนั้นยิ่งแข่งขันลดราคากันเยอะๆ ยิ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภคแบบผม