พอดี เห็น FULL MATCH อาร์เซน่อล กับ แมนยู เด้งขึ้นมา

เลยเข้าไปดู นั่งดูก็ นึกถึงคำที่ชอบพูดกันว่า ถ้า นักเตะ

ยุคนั้นมา ยุคนี้ น่าจะไม่สำเร็จ แต่พอดูจริงๆ นักเตะยุคเก่า แม่งเก่งกว่านักเตะยุคนี้ เยอะ

ที่บอก ยุคเก่าไม่โดนเพรส ไม่มีแทคติคแน่น แบบยุคนี้

ผมนั่งดู มันไม่ต่างกันเลย นักเตะแม่งขยันกว่า ยุคนี้ด้วย

วิ่งบีบ วิ่งเพรส หาช่อง อัดนักเตะตรงข้าม และ ทักษะแต่ล่ะคนคือ ดีมาก

และที่สำคัญ คือ สมาธิการเล่น แต่ล่ะคน สมาธิโคตรดีอ่ะ

ความรู้สึกไม่เหมือนนักเตะ ยุคนี้ แบบ ต้องมีช่วง สมาธิหลุดจากเกม เเล้วเห็นบ่อยๆ สมัยนั้น ทุกคน จ้องบอล พร้อมไล่บี้

ตัวเติม ตัวอะไรแล่บมา โดนฟอลโล่ว หมด ดูแล้ว เกมคุณภาพจริงๆ

ไหนๆพูดถึงบอลคู่นี่ล่ะ ยุค อาร์เซน่อล มี อ.โคล ปิแรส ฟาเบกัส วิเอร่า เบิกแคมป์ อองรี สปีดบอล ดีมาก เล่นกันโคตรเนียน แต่แมนยู เล่นเพรส วิ่งไล่ ตั้งแต่ รุด รูนีย์ โด้ เลยเอาเกมน่อลอยู่

เห็นแล้วนึกถึง ทีมต่างดาวของเป๊บ มันคือ อีโวไปอีกขั้น นักเตะ แมนยู ที่วิ่งบีบ หาบอลไม่เจอ

ปล. ผมว่า บอลยุค 2000- 2010 แม่งคลาสสิค สุดล่ะ ให้เอานักเตะยุคนั้นมายุคนี้ ยังไงก็เก่ง แล้ว จริงๆ แผน ไม่ได้ต่างกันด้วย 4-2-3-1 แมนยูก็ใช้ ตั้งแต่ ยุคนั้น ล่ะ

ยุคนี้ฟุตบอลมันเข้าใกล้วิศวกรรมเต็มทน ต้องมีตัวบักที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์​มาทำลาย แบบเมสสี่

ไม่ต้องระดับ เมสซี่ หรอก เอามารตฐาน เบสิค ทั่วไป

ยังน้อยกว่า นักเตะ ยุค 2000 ที่แต่ล่ะทีม มีนักเตะ เก่งๆ

ถ้าจะเอาชัดๆ ต้องไปดู พวกทีมชาติอ่ะ แต่ล่ะทีม เหลือนักเตะ เก่งจริงๆ น้อยกว่าเดิม

ลองไปดู บอลโลก ตั้งแต่ ฟร้อง 98 ยัน จนถึง สัก 08

จะรู้เลยทีมชาติ ตัวเก่งหายไปเยอะ

นักเตะเก่งมี แต่โค้ชใส่ระบบเข้าไปเลยไม่เห็นอะไรที่วูบวาบ เพราะถูกจำกัดโดยโค้ช

มันเป็นทฤษฎี ของโค้ชยุคใหม่ ที่เค้าทดลองทำแล้วมันได้ผล และเก็บผลการแข่งที่ต้องการได้

ผมว่า คำพูดที่ว่า เอายุคเก่า มาสู้ยุคใหม่ อาจสู้ไม่ได้ นี่มีส่วนจริง

แต่ถ้าหมายถึง นักเตะยุคเก่า สู้นักเตะยุคใหม่ไม่ได้นี่ไม่จริง

ถ้าเอานักเตะยุคเก่า มาใส่ในระบบยุคใหม่ ก็ติดปีกเหมือนกัน (เก่งกว่าเดิม)

พรีเมียรยุคก่อน เข้าหนักกว่านี้เยอะครับ แต่ก็อย่างที่บอกยุคสมัยมันเปลื่ยน เบอร์ 10 แท้ๆอยู่ยาก

สมัยก่อน ที่บอกบอลสนุกเพราะเปิดแลกกันตลอด ยุคนี้ตั้งโซนรับกันรอสวน

แต่บุสเดสกับสเปนอ่ะมันจริง ใส่กันตลอดมีพื้นที่ อังกฤษ บางเกมสนี่แถบเจาะไม่เข้า

ถ้าเรื่องระบบแผนก็ใช่ เพราะแผนสมัยนี้ก็ถูกพัฒนามาเพื่อสู้กับแผนยุคเก่านั้นแหละ พอใช้แล้วได้ผลมันก็ใช้ตามๆกันมา

สายพลิ้วสายสร้างสรรค์ เจอเพรชซิ่งจอดหมดถ้าไม่ใช่แบบตัวเก่งๆที่แบบโดดออกมาเลย ไม่นับเมสซี่เพราะคนนี้ก็รู้ๆกันอยู่

ไหนจะกติกาอะไรต่างๆที่เปลี่ยนไปอีก แต่ก่อนไม่ได้เล่นเพรชดุอะไรขนาดนี้

ยุคเก่าเล่นรุกเป็นหลัก แทคติกไม่เยอะเท่าสมัยนี้ พอเน้นรุกเยอะกองหลังมันจะเข้าพรวดบ่อย

ทุกอย่างมันพัฒนาขึ้น ยุคเก่า สู้ยุคใหม่ไม่ได้ แต่ไม่ใช่นักบอลยุคเก่าจะอ่อนกว่ายุคใหม่ นักเตะยุคเก่ามาเล่นในยุคนี้ก็จะปรับตัวกับฟุตบอลสมัยใหม่เอง ความสามารถ พรสวรรค์ มันเป็นเรื่องของแต่ละคน

คนเก่งยุคก่อน เขาก็เก่งอยู่แล้ว เขายืนในจุดสูงสุดในตอนนั้น

ถึงสถิติอะไรจะสู้สมัยไม่ได้ก็เถอะ แต่คนที่เก่งไม่ว่าจะอยู่ช่วงเวลาใด มันจะมีแรงจูงใจเพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดอยู่แล้ว

ผมก็เลยเชื่อเสมอว่าเอา เอโต้ เชฟเชนโก้ รุดฟาน อองรี มาเล่นยุคเดียวกับ เลวาน ซัวเรส พวกนี้ก็ยิงสถิติเดียวกันนี่แหละ แต่ทว่าดันไปด้อยค่านักเตะยุคนั้น ด้วยการนำสถิติมาข่ม

นักเตะยุคก้ำกึ่งอย่าง RVP ที่ยิงประตู 30 ปลายๆ ก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากเลยว่า ซัวเรส หรือ เลวาน เก่งกว่าเขาในยุค 2010

แล้วผมไม่เชื่อเลยสักนิดที่ RVP จะอ่อนกว่า 2 คนที่ว่ามา

ตอนนั้นดูแล้วรู้สึกว่านักเตะปืนมันไม่ยอมแพ้เลยอะ ยิ่งเกมใหญ่ๆสู้ตลอดจนหมดเวลา พอเข้ายุคไร้แชมป์บางเกมเหมือนมันไม่สู้เลย เตะให้จบไปงั้นๆ

มียุคพรี่ต้านี่แหละที่ดูจะฮึดกันขึ้นมาอีก

ผมว่ายุคเก่าเตะฟรีคิกเก่งกว่าสมัยนี้อ่ะ

เป็นที่บอลด้วยครับ ยุคเก่าสังเกตุเลย ยิงไกลกันง่ายเพราะบอลมันมีน้ำหนัก ยิงแล้วเข้าข้อพุ่งสวยเลย

พอเริ่มเปลี่ยนเทคโนโลยีทำให้บอลเบาลง การคอนโทลมันยากขึ้นเยอะ

จะหาคนยิงสวยๆยิงไกลๆเก่งๆ ยิงได้สม่ำเสมอนั้นมีน้อยมาก

คนเก่งจับเค้าใส่ยุคไหนเค้าก็เก่ง ง่ายๆแบบนี้แหละ

ยาก สุ้ไม่ได้หรอก แบบสมมติเอามาจับเจอกันเลยอะนะ

เหมือนบาสอะ ให้เก่งในยุคก้พอละ

ยุคเก่าก็ต้องยุค 4-4-2 นู่นแหละถึงจะชัด ซึ่งทีมที่ใช้ระบบ 4-4-2 แล้วเป็นแชมป์รายการใหญ่ 20 ปีหลังมานี่มีสักกี่ทีม