อ้าว ผมกินบ่อยมากเพราะนึกว่าของ CP ถ้ารู้ว่าเป็น SME คงไม่กล้าลอง นี่ซื้อมาน่าจะ 500 ห่อละ ของแบบนี้มันต่างคนต่างได้นะ ไม่งั้นไม่มีทางได้เงินผม

ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าประชาชนทั่วไป(ในฐานะผู้บริโภค) เสียผลประโยชน์อย่างไร ?

เพราะการมีตัวเลือกสินค้าแบบเดียวกันหลาย ๆ ยี่ห้อมาให้เลือก ย่อมดีกว่ามีแค่ยี่ห้อเดียวอยู่แล้ว

กรณีนี้ ผมมองว่า Happy Munchy ก็ถือว่ามีสถานะเป็นนายทุนเช่นกัน และผลิตสินค้าออกมาวางขายในตลาด โดยเฉพาะไปวางขายในเชลท์ของ 7-11 ย่อมแปลว่าคุณต้องรับรู้แต่แรกว่าจะมีคู่แข่งพร้อมทำตาม ดังนั้นคุณต้องพร้อมสำหรับการแข่งขันอยู่แล้ว
แต่เมื่อเจอนายทุนตัวใหญ่กว่า ที่สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ดีกว่า(เมื่อเทียบจากความคุ้มค่าต่อราคา) มันก็คือปลาใหญ่กินปลาเล็ก ในสัจธรรมของโลก โดยเฉพาะโลกแห่งทุนนิยม

สุดท้ายแล้ว ผมมองว่าผู้บริโภค คือผู้ที่ได้ประโยชน์ในกรณีนี้ครับ

เป็น R&D บ นี้อายตายห่า พูดเลย

555

ผมมองว่ามันเหมือน ทุนจีนที่มาขายของตัดราคาใน shopee ลูกค้าได้ประโยชน์แต่ SME ไทยตายหมด สิ่งที่จะช่วยได้คือหน่วยงานรัฐออกกฎหมายมาควบคุม

ประเทศที่พัฒนาแล้วนโยบายของรัฐจะสนับสนุน SME เพราะ SME จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มความมั่งคั่งให้กับคนส่วนใหญ่ในประเทศ แต่ประเทศที่คอรัปชั่นเยอะมักจะสนับสนุนทุนผูกขาด

สำหรับเรื่องนี้ CP ทำผิดมั้ย ถ้ากฎหมายประเทศนี้คงไม่ผิด เพราะประเทศนี้สนับสนุนปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ประเทศอื่นอาจจะผิด กฎหมายควรจะควบคุมให้ปลาเล็กอยู่รอด เพื่อปลาเล็ก 1 ตัวได้โตขึ้นและผลิตลูกปลาตัวต่อๆไปครับ

คือ ถ้า ไม่ปรัวตัวก็ ต้องแพ้

ไม่ใช่แค่ 7 นะ แมคโคร โลตัส ก็ไม่เหลือ เดินเข้าไปแทบจะมีแต่ของเจ้าสัวแล้ว
ถ้าคุณกล้าเผยความลับทางธุรกิจของตัวเอง ก็เท่ากับคุณต้องเตรียมใจรับเรื่องนี้อ่ะ
ขนาดสินค้าแบรนด์ใหญ่ๆยังไม่รอดเลย โดนก๊อปกระจุย

ประเทศนายทุนก็เงี่ย

แต่หลังจากปลาใหญ่มันกินปลาเล็กหมด
มันจะกำหนดทุกอย่างเองได้หมด ไม่ต้องมีคู่แข่ง

เซเว่นนี้ไม่เคยอยากเข้าเลย หลายๆคน วางแผนผิดคิดว่า 7 คือ end game จากที่เคยได้คุยกับเจ้าของที่ประสบความสำเร็จในการวางขายในเซเว่นคือ ถ้าคุณจะเข้า 7 แบรนด์คุณต้องแข็งจนเขามาติดต่อเอง หรือ คุณจะต้องเป็น ที่1 ในสาขาของคุณ โดยที่คู่แข่ง หรือตัว 7 ไม่สามารถ มาทำhouse brand ได้ ไม่งั้นเข้าไปก็ไปเทสตลาด ให้เขาฟรีๆ โดยใช้เงินของเราเอง