โคมไฟระย้าสูงๆอะตัวดีเลย เพื่ออะไร
ร่วงใส่หัวก็ตายสถานเดียว ตัวดักฝุ่นชั้นดี
ทำความสะอาด เซอวิสแม่งก็ยาก

ฝ้าหลุม สวรรค์ของพวกแมลง สัตว์เลื้อยคลาน จิ้งจก ฝุ่น

ความร้อนใต้หลังคา ถ้าไม่ทำระบบดีๆ ระบายดีๆ ฝ้ารูระบายอากาศไรงี้
เตาอบชัดๆเลย ห้องที่อยุ่ใต้หลังคาอะ เปิดแอร์2-3ชั่วโมงกว่าจะเย็น

วางหน้าต่างลมเข้าลมออกดีๆ บางทีห้องมันไม่มีอากาศไหล หรือ ไหลเข้าไปไม่พอ อยุ่ไปแม่งใจจะขาดเลย
ห้องนอนผมแม่งมีหน้าต่างฝั่งเดียว แล้วลมเข้ามันจะออกทางไหน บางทีเปิดพัดลม แต่ไม่รุ้สึกถึงลมจากพัดลมที่กระทบโดนตัวเลย ไม่รุ้แม่งหายไปไหนหมด

แอร์ถ้าห้องที่เปิดปิดบ่อยๆหรือโดนแดดเยอะ เอา fixed speed พอ
แอร์ถ้าห้องเปิดยาวๆ นอนหลับ ไรงี้ inverter เลย คำนวน BTU + ไปนิดหน่อย

คิดจะติดกล้อง ก็วางแผนพร้อมสร้างบ้านเลย สะดวกกว่า

พัดลมดูดอากาศนี่ก็เป็นอะไรที่เทพมากๆติดไปเต๊อะ

ซิงค์เคาท์เตอร์ล้างจานอย่าไปปิดทึบ เซอวิสยาก เผลอๆตู้ข้างล่างไม่ถูกเปิดแน่ๆ กลายเป็นรังแมลงสาป เน่าเลย เปิดโล่งไปเลย เวลาล้างจานจะได้ยืนถูกกายวิภาคด้วยว ที่บ้านเมื่อก่อนแม่งทำเตี้ยไม่พอ
ทึบอีก คนตัวเล็กล้างจานยังปวดหลัง คนตัวสูงจะไปรอดอะไร



โคตรไม่อินกับบัวหลุยส์ถุยน้ำลายเลย แม่งเป็นงานมาเช็ดฝุ่นชัดๆ ผนังเรียบๆไปเลยจบ

บิวอินด์เฟอนิเจ้อผมก็โคตรเกลียดเลย มันย้ายอะไรไม่ได้เลย แม่งต้องรื้ออย่างเดียว

ปั๊มน้ำแบบมีสวิชเปิดปิดจากในบ้าน แม่ผมเพิ่งติดผมอย่างชอบเลย

ปูกระเบื้องไปเลยรอบบ้าน หน้าฝนตะไคร้ไม่รังควานดี

อย่าติดวอลเปเปอร์
อย่าบิ้วอิน ผ่านไปห้าปีสิบปี ก็เก่าแล้วอยากเปลี่ยน เปลี่ยนลำบาก
ถ้าติดหน้าต่าง ติดฟิลม์กันแดดด้วย
ฟูกซื้อดีๆไปเลย ไปลองนอน เอาแบบแพงๆเพราะเราใช้งานเยอะสุด

ถ้าซิ้งล้างจานมีขนาดใหญ่ แนะนำก๊อกที่มีหัวต่อสายแยกจะได้ทำความสะอาดซิ้งได้ทั่ว ไม่ต้องคอยเอามือกวักน้ำราดเองคับ

ถ้ามีเวลาให้เข้าไปดูบ้านเองบ่อยๆ อย่าไว้ใจ ผรม เยอะเกินไป

แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ หลายๆงวด อย่าจ่ายตู้มเยอะๆ เสี่ยง ผรม หนีงาน

ประตูหน้าต่าง เลือกขนาดมาตรฐาน อย่าไป custom เพราะราคาจะพุ่งไป 3 เท่า

ถ้าจะติด solar cell หรือทำ smart home ก็วางแผนตั้งแต่ต้น ไปทำตอนใกล้เสร็จแล้วจะวุ่นวาย

ตู้แบบไร้หูจับบางทีก็น่ารำคาญในการเปิดปิด โดยเฉพาะเวลาแม่เหล็กมันเสื่อมคับ

1.แนวท่อขี้ครับ อย่าให้งอก ออกมาจากตัวบ้านแบบงงๆ ออกแบบให้ผนังโอบให้หมด
ผมเห็นบ้านหลายหลังมากที่เป็นแบบนั้น (บ้านผมก็ด้วย 555)

2.ระแนงไม้เทียมตกแต่งแพงมาก ไม่คุ้มราคา นานๆไปมันโก่งงอ และ ราขึ้น อย่าหาทำ
แนะนำเป็นเหล็กทาสี หรือวัสดุอื่นๆเวิคกว่า

3.ปลั๊กไฟ วางแผนให้ครอบคลุมครับ เวลาจะเพิ่มมันเพิ่มยาก เจาะนู่นนี่วุ่นวายมาก
3.1 สวิทสองทาง อันนี้เอาให้ชัวครับ ว่าไฟหลอดไหนควรเป็นสองทาง อันไหนควรทางเดียว
บ้านผมมีปัญหาเล่าก็ยาว เอาเป็นว่าดูให้ดี

4.มูลี่ สวยครับ แต่ฝุ่นเกาะตรึม และทำความสะอาดยากมาก

5.ที่จอดรถ อย่าทำให้พอดีรถ ให้เผื่อเยอะๆหน่อย

6. เรื่องระเบียง ไม่ต้องทำกว้างมากครับไม่มีประโยชน์
แต่เหตุผลที่ผมทำ ก็เพราะแค่มันทำให้บ้านดูสวย มีแค่นี้จริงๆ

7. ห้องเก็บของต้องมี ได้ใช้แน่นอน

8. ถังบำบัด ถ้าระยะห้องน้ำไกลกันอย่าประหยัดครับ
ให้ลงคนละถังไปเลย

ควรปรึกษาสถาปนิกครับ
เรื่องการวางแปลนบ้าน
ให้เหมาะกับทิศทาง แดด ลม ฝน
จะช่วยตัดปัญหาได้หลายอย่าง และประหยัดค่าไฟระยะยาวด้วยครับ
ดูทิศ ดูสภาพแวดล้อมดีดีครับ

ผมคิดว่าท่านทำถูกแล้ว ที่ใช้สถาปนิกและวิศวกร มากกว่าจะไปใช้ บ.รับเหมาแบบ turnkey ที่จบในเจ้าเดียว
ไม่ได้บอกว่า บ.รับเหมาไม่ดีนะครับ ที่ดีๆก็มี แต่ บ.รับเหมาส่วนใหญ่มันจะตกหล่นใน part การพูดคุยเรื่องความต้องการที่จะนำไปสู่การออกแบบ เพราะโดยมากจะเน้นให้ได้งานก่อสร้าง เพราะกำไรมันเยอะกว่า ค่าออกแบบถูกก็จริง แต่มันถูกไปถัวอยู่ในค่าก่อสร้างเเล้ว รวมถึงปัญหาอีกหลายๆ อย่างถ้าพูดไปมันก็จะยาว

ผมเข้าใจว่าการจ้างสถาปนิกและวิศวกรเองมันอาจจะยุ่งยากกว่า แต่บ้าน 1 หลังนี้เราอยู่ทั้งชีวิต และเป็นเงินที่ต้องหาทั้งชีวิตเหมือนกัน ผมว่าต้องลงรายละเอียดกับมันเยอะหน่อย
ขอยาดพูดในฐานะที่ผมเองเป็นสถาปนิกด้วยและต้องไปคอยแก้ปัญหาจากเพื่อนๆ ที่ทำบ้านกับ บ.รับเหมาturnkey (ย้ำว่าไม่ได้ทุก บ.)

ส่วนที่ท่านถามมา ผมคิดว่าช่วงที่สำคัญที่สุดคือช่วงที่คุยเรื่องความต้องการ ต้องพยายามสื่อสาร "วิถีชีวิต"
ให้เห็นภาพให้ได้มากที่สุด และก้มองเผื่อไปในอนาคตด้วยว่าวิถีชีวิตมันจะเปลี่ยนไปยังไง

- เรื่องงานก่อสร้าง บ้าน 400 ตารางเมตร ก็ถือว่าขนาดกลางๆนะครับ ถ้าท่านไม่มีความรู้หรือพอมีเงินผมก็แนะนำให้จ้าง Consult ที่คอยมาช่วยดูและประสานงานเรื่องงานก่อสร้างก้จะเป็นเรื่องดี จะได้เป็นคนกลางคอยสื่อสารกับผู้ออกแบบและผู้รับเหมา แต่ถ้าไม่ไหว จริงๆ งานพวกนี้ก็อยู่ในขอบเขตที่สถาปนิกต้องคอยช่วยดูและประสานได้บ้าง อาจจะต้องสื่อสารกับสถาปนิกอยู่บ่อยๆ


- เรื่องการบำรุงรักษา ก็เป็นอีกเรื่องที่จะเป็นสิ่งกวนใจในอนาคต อาจจะต้องให้สถาปนิกช่วยดูละเอียด
เรื่องการป้องกันการรั่วซึม , การวางระบบฉีดปลวก , การรับประกันวัสดุต่างๆ , งานสีทาอาคาร , สีทาเหล็ก ,สีเคลือบและรักษาผิววัสดุ , งานฟิตติ้งประตูหน้าต่าง

- เรื่องการควบคุมราคา สิ่งสำคัญในพาร์ทออกแบบผมคิดว่าในสัญญาควรระบุให้สถาปนิกจัดทำ BOQ ด้วยเหมือนเป็นราคากลางที่มาจากผู้ออกแบบ ให้เป็นราคาอยู่ในมือเราก่อน จะได้บิดผู้รับเหมา ซึ่งราคาผู้รับเหมาส่วนใหญ่มันก็จะสูงกกว่าราคากลางเเหละ แต่อย่างน้อยเอามา cross check บาง item ที่มันสูงผิดปกติได้ หรือบางกรณี ผู้รับเหมามักจะขอเทียบ spec วัสดุบางรายการที่คุณภาพและราคาต่ำลง ถ้าเรายอม เราก็ยังพอจะเปรียบเทียบได้ว่า คุณภาพบางอย่างยอมรับได้ แต่ราคามันลดลงแบบมีนัยยะมั้ย อาจจะคุ้มหรือไม่คุ้ม

- มีห้องเก็บของหรือบริเวณเก็บของ ประมาน 12-15% ของตรม บ้าน

- ดูทางลม ทางแสงให้ดี เพราะแต่ละฤดูก็ไม่เหมือนกัน ระเบียงไม่ค่อยได้ใช้

- มีทุนหน่อยก็ทำคานบ้านขึ้นมาสูงๆจากพื้น 0.5-1 เมตรได้ยิ่งดี ได้เรื่องลม ป้องกันน้ำ

- เตรียมงบไว้เผื่อบาน 20-40 % จากที่ตั้งไว้ เพราะพวกกระเบื้อง พวกวัสดุสวยๆ พวกเฟอดีๆมันแพง

- ยังไม่ต้องทำครบทุกห้องก็ได้ แต่ทำเป็นสัดส่วนไว้เผื่อต่อเติม (กรณีทุนไม่พอ)

- ถ้ามีคอนเนคชั่นหน่อยและมีเวลาเช็คหน่อย ไม่ต้องให้ผูเ้รับเหมาทำทุกอย่าง พวกเรื่องช่างไฟ ช่างฝ้า บิ้วอิน เราติดต่อเข้ามาทำเองได้ ซึ่งถูกกว่าให้ผุ้รับเหมารับเหมาทำเองทั้งหมด 20% ได้ แต่ต้องเก่งหน่อยบริการเวลาให้มันสอดคล้องกัน

ง่ายสุดนะ ถ้ามีเงิน ไปจ้างบริษัทออกแบบและเขียนแบบให้ครับ ไม่ควรเอารูปจาก internet ให้ช่างทำตาม

พวกบริษัทเขียนแบบที่ครบๆ เค้าให้สถาปนิกคุยเรื่องแบบ อยากได้แบบไหนคุยกับเค้า พวกข้อจำกัดต่างๆเค้าจะแนะนำเอง ส่วนใหญ่ก็สองทาง อยากได้แบบนี้แหละ ข้อจำกัดโน้นนี่นั้น ใช้เงินแก้ ติดโน้นเพิ่มทำตรงนี้เพิ่มกันปัญหา ไม่ก็ปรับแบบนิดหน่อย คุยให้ครบที่อยากได้ จากนั้นวิศกรเค้าก็จะมาดูแลเรื่องมาตรฐานให้ จากนั้นเค้าจะเขียนแบบให้ มีข้อมูลวัสดุให้ เซ็นรับรองให้

จากนั้นหาผู้รับเหมาที่อ่านแบบได้ จ้างวิศกรคุมงาน

แบบนี้ปวดหัวน้อยสุด แบบบ้านคุยมาครบแล้ว รายละเอียดตรงใจดีแล้ว ช่างแค่สร้างตามแบบ มีวิศกรคอยคุมอีกทางไม่ให้ช่างลักไก่

ส่วนประเด็นส่วนเพิ่ม พวกสนามหญ้าควรมีมั้ย ระเบียงมีดีมั้ย อันนี้มันตอบแทนกันได้ยาก นิสัยแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน อย่างบางบ้านเนี่ย สนามหญ้ากับสวน จ้างคนดูแลไง มันก็สวยไง บางคนอยากมีแต่ไม่มีเวลา ไม่อยากเสียเงินจ้างคนดู ถ้าแบบนี้ก็อาจจะเลือกแบบไม่มีสนามหญ้าก็อาจจะเหมาะกว่า ดังนั้นอยากได้อะไร ประเมินตัวเองให้ดีจะตอบได้มากกว่า

พวกพื้น บัว วงกบประตู ห้องครัว ฯลฯ อย่าใช้ไม้ ปลวกจะแดกเอา

ที่จอดรถกว้างๆ

จากประสบการณ์ที่เป็นวิศวโยธาและคุมงานมาพอสมควรนะครับ

1. ถ้างานโครงสร้างระวังเรื่อง เสาเข็มเยื้องศูนย์ ต่อเหล็กผิดตำแหน่ง เทคอนกรีตไม่จี้ปูน ไม่บ่มคอนกรีต แกะแบบเสร็จโพรงพรุนวิธีการซ่อมหลังจากนั้น การเผื่อระยะงานสถาปัตย์ เช่นงานฉาบ ค่าระดับต่าง การวางสลีฟท่อ การใช้ประเภทคอนกรีตเช่นกันซึมบริเวณห้องน้ำ

2. งานสถาปัตย์ ก่ออิฐมีเหล็กหนวดกุ้งไหม ใส่เหล็กกันแตกรอบมุมประตูหน้าต่าง แปะตะแกรงเหล็กก่อฉาบตามเสาหรือรอยต่อ ฉษบเสร็จบ่มคอนกรีต งานพื้นก็ปรับระดับดีไหมปูกระเบื้องแบบไหนจัดแพทเทินก่อนปู งานฝ้าก็ดูค่าระดับต่างๆตำปหน่งช่องเซอร์วิส ก่อนปิดฝ้างานระบบเหนือฝ้าต้องจบ งานสีต้องวัดความชื้นก่อนทา ส่วนห้องน้ำต้องเท curb ก่อนก่ออิฐและทากันซึมที่ผนัง ควรใช้อิฐมอญเผื่อเจาะยึดสุขภัณฑ์

3. งานระบบก็รวมๆ ตำแหน่งท่อฝังผนังวางก่อนฉาบ ตำแหน่งสวิทช์ปลั๊ก ตำแหน่งท่อน้ำต่างๆ งานท่อต่างๆเหนือฝ้าเสร็จก่อนปิดฝ้า จะได้ไม่ทำงานซ้ำซ้อน ทดสอบรั่วซึมงานสุขาภิบาล ทดสอบการไหลสโลฟท่อต่างๆ

คร่าวๆนะครับ ทุกๆการทำงานที่ผิดจากวิธีที่ถูกต้องล้วนเป็นค่าใช้จ่ายและเวลาที่ท่านอาจจะเสียเพิ่มเติมได้ในการแก้ไขงาน ศึกษาข้อมูลเองบ้าง หรือจ้างที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญมาช่วยดูนะครับ

- ถ้าไม่ขยันและใจสู้จริงๆอย่าทำสนามหญ้าครับ ปูหญ้าเทียม ทำสวนหิน เทปูน-ทำตัวหนอนอะไรก็ได้

- กระเบื้องปูพื้นถ้าปูข้างนอกตามโรงรถหรือรอบๆบ้านที่โดนน้ำเอาที่มันสากๆหน่อย ผิวจะคล้ายๆกระดาษทรายมันจะได้ไม่ลื่น

ข้างบ้านผมทำเอาสวยลื่นแขนหักมาแล้ว

- พวกอุปกรณ์แบบประตูหน้าต่างอย่าไปเน้นแปลกผิดมาตราฐานมาก เอาตามมาตรฐานชาวบ้านปกติพอตอนซ่อมบำรุงจะได้ไม่ลำบาก

แสงและลมเข้าบ้านครับ จัดแนวจัดช่องให้ดี บ้านจะได้เย็น ไม่ร้อนเกินไป และไม่มืด

อย่าทำหน้าต่างไม้