สุดระทึก!! อินทรีนำ 3-0 เจออัซซูรี่ฮึดไล่เจ๊า 3-3 ยังเข้ารอบ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
กลายเป็นเกมระทึกเลยเมื่อครึ่งแรก เยอรมนี ได้ โยชัว คิมมิช ซัดจุดโทษออกนำก่อนจะเบิ้ลแอสซิสต์พาทีมนำห่าง 3-0 ทำท่าจะสบาย แต่ครึ่งหลัง อิตาลี โชว์ลูกฮึดให้เห็น มอยส์ คีน ยิงเบิ้ลไล่จี้และมาได้จุดโทษทดเจ็บตีเสมอสำเร็จจบเกม 3-3 ถึงอย่างนั้นรวมผลสองนัด อินทรีเหล็ก เบียดชนะไป 5-4 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเนชันส์ลีก
เยอรมนี
Starting Formation: 3-4-2-1
2.
อันโตนิโอ รูดิเกอร์

77'
6.0
18.
มักซิมิเลียน มิตเติลสแต๊ดต์
6.0
16.
อันเจโล่ สตีลเลอร์

63'
6.0
8.
เลออน โกเร็ทซ์ก้า

63'
6.5
10.
จามาล มูเซียล่า

77'
7.0
19.
เลรอย ซาเน่

63'
5.5
ตัวสำรอง
5.
พาสคาล โกรส

63'
5.5
11.
นาเดียม อามิรี่

63'
5.5
17.
ยานน์ บิสเซ็ค

77'
-
20.
คาริม อเดเยมี่

63'
5.5
23.
โรเบิร์ต อันดริค

77'
-
ฟุตบอลเนชันส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
สนาม ซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค
วันที่ 23 มีนาคม 2568
กรรมการ ซีมอน มาร์ซีเนียค
เยอรมนี
3
3
อิตาลี
รวมผลสองนัด เยอรมนี เข้ารอบด้วยสกอร์ 5-4
1-0 คิมมิช 30' (Pen.)
2-0 มูเซียล่า 36'
3-0 ไคลน์ดีนส์ 45'
3-1 คีน 49'
3-2 คีน 69'
3-3 ราสปาโดรี 90+5' (Pen.)
เยอรมนี ปรับไลน์อัพเป็นเซ็นเตอร์สามคนด้วยการให้ ชล๊อตเตอร์เบ็ค ออกสตาร์ทและวิงแบ็คซ้ายเป็น มิตเติลสแต๊ดต์ ส่วนแดนกลาง สตีลเลอร์ เป็นตัวจริงและ ไคลน์ดีนส์ ลงมาค้ำหน้า
ด้าน อิตาลี ต้องปรับแนวรับ บวนจอร์โน่ ลงเล่นเพราะ คาลาฟิออรี่ บาดเจ็บและ กัตติ ก็ลงมาเพื่อขยับ ดิ โลเรนโซ่ ไปยืนวิงแบ็ค ส่วนกองกลาง ริชชี่ เป็นตัวจริงแล้วแดนหน้า มัลดินี่ ก็ได้จับคู่กับ คีน
เริ่มเกมคึกคักผลัดกันได้ลุ้นไปแล้ว
เริ่มเกมมาก็คึกคักเลย เยอรมนี ได้จบก่อนจาก โกเร็ทซ์ก้า หน้าเขตโทษยิงหลุดเสา แล้วพอ อิตาลี บุกกลับไปบ้างก็เสียวเหมือนกันหลังเตะมุมเปิดเข้าไปในเขตโทษบอลสกัดไม่ดีมี บาเรลล่า วิ่งมาซัดส่งบอลพุ่งข้ามคาน
อินทรีเพรสจนได้จบ มูเซียล่า ยิงติดบล็อก
มีช่วงที่ เยอรมนี กดดันได้ต่อเนื่องแล้วทำให้ อิตาลี ต้องเสียวหลังสุดมุมธงทางขวา บาสโตนี่ โดนเพรสหนักจะเตะทิ้งก็ติดแฉลบเข้าเขตโทษมี ไคลน์ดีนส์ โฉบมาถึงบอลแล้วหักย้อนเข้ากลางจบด้วย มูเซียล่า ยิงติดบล็อก
ซาเน่ ทำชิ่งมาหน้าเขตโทษยิงไปโดนรับ
เยอรมนี ยังได้ครองบอลมากกว่าแล้วหาจังหวะจบเพิ่มจากที่ ซาเน่ ทางขวาทำชิ่งกับ มูเซียล่า ตัดเข้ามาหน้าเขตโทษแล้วตัดสินใจยิงใส่เสาแรกบอลพุ่งเรียดไปโดนรับได้
อินทรีได้จุดโทษ! คิมมิช ยิงไม่พลาดพาทีมนำ
หลังจากนั้น อินทรีเหล็ก ก็มาได้จุดโทษเข้าให้ในจังหวะที่ โกเร็ทซ์ก้า แทงเข้าเขตโทษให้ ไคลน์ดีนส์ วิ่งตัดจากขวาเข้ามาในกรอบแล้ว บวนจอร์โน่ หยุดไม่ทันมือดึงเสื้อไม่ยอมปล่อยพอ ไคลน์ดีนส์ ล้มลงไปกรรมการชี้ทันที
คิมมิช เป็นคนรับหน้าที่สังหารและยิงไม่เหลือ เยอรมนี ออกนำ 1-0
อินทรีลุยต่อ โกเร็ทซ์ก้า โหม่งข้ามคาน
เยอรมนี ยังคงได้ลุ้นต่อเนื่องและได้จบอีกเมื่อลูกจ่ายหน้าเขตโทษโดนดักแต่ โกเร็ทซ์ก้า จ่ายออกมาทางซ้าย มิตเติลสแต๊ดต์ เติมไปเปิดจากสุดเส้นหลังเข้าเขตโทษจบที่ โกเร็ทซ์ก้า ได้โหม่งข้ามคาน
เกือบสอง! รูดิเกอร์ เปิดเข้าหัว ไคลน์ดีนส์ โหม่งติดเซฟ
เกือบจะมีประตูเพิ่มให้กับ เยอรมนี เข้าแล้วหลังจาก คิมมิช ทางขวาจ่ายย้อนให้ รูดิเกอร์ ขึ้นมาเลือกเปิดจากแนวลึกเข้าเขตโทษให้ ไคลน์ดีนส์ โหม่งได้กำลังจะเสียบคานแต่โดน ดอนนารุมม่า ปัดออกหลัง
อัซซูรี่เหม่อ!! คิมมิช เปิดมุมไวให้ มูเซียล่า หน้าประตูยิงตุงสอง
แล้วพอจังหวะเตะมุม เยอรมนี ก็ได้ประตูเพิ่มไปเลยเมื่อ ดอนนารุมม่า เดินออกมาห่างจากปากประตูเพื่อพูดกับกองหลัง มูเซียล่า ยืนอยู่คนเดียวหน้าประตูเลยรีบขอบอล คิมมิช ก็รีบเปิดให้ มูเซียล่า ยิงเข้าไปทันทีซึ่งการรับบอลจากเตะมุมโดยตรงไม่มีล้ำหน้า ทำให้ เยอรมนี นำ 2-0
อัซซูรี่ขอลุ้นหน่อย มัลดินี่ ยิงพุ่งหลุดกรอบ
อิตาลี ขอลุ้นประตูตีไข่แตกสักหน่อยหลังเตะมุมทางขวาเปิดเข้าไปโดนโหม่งสกัดบอลลอยออกไปทางซ้าย ก่อนจะเปิดกลับเข้ามาใหม่ บาสโตนี่ ที่เสาไกลโหม่งตั้งกลับมาให้ มัลดินี่ ซัดบอลพุ่งหลุดสามเหลี่ยมออกไป
สามเลย! คิมมิช เปิดให้ ไคลน์ดีนส์ โหม่งข้ามเส้น
ก่อนหมดครึ่งแรก เยอรมนี ยังหาประตูเพิ่มไปได้อีกลูก เป็นจังหวะที่ โกเร็ทซ์ก้า รับบอลหน้าเขตโทษเลือกไหลให้ คิมมิช ทางขวาสอดเข้าไปในกรอบแล้วตักไปหน้าประตู ไคลน์ดีนส์ โหม่งได้โดนปัดออกมาแต่บอลข้ามเส้นไปแล้วกลายเป็น 3-0
อัซซูรี่ขอคืน! บอลเข้าทาง คีน หน้าเขตโทษยิงไกลตีไข่แตก
กลับมาครึ่งหลังไม่ทันไรเกมอาจจะยังไม่จบ อิตาลี หาประตูตีไข่แตกได้แล้ว มาจากที่ ซาเน่ ในแดนตัวเองจ่ายให้ คิมมิช ไม่ค่อยจะดี คิมมิช ตัวถลำไปพอจะจับบอลกลายเป็นทำบอลเปลี่ยนทางไปหา คีน หน้าเขตโทษก่อนจะซัดไกลเข้าประตูไล่มา 3-1
อินทรีมาใหม่ มิตเติลสแต๊ดต์ กลับตัวยิงโดนรับ
เยอรมนี ยังหาโอกาสได้อีกเมื่อ ชล๊อตเตอร์เบ็ค วางบอลขึ้นหน้าให้ มิตเติลสแต๊ดต์ ตามบอลไปทางซ้ายแล้วรีบปาดเข้ากลางไปโดนดักได้แต่ มิตเติลสแต๊ดต์ ยังวิ่งมาเก็บบอลได้ก่อนเลือกกลับตัวยิงใส่เสาแรกโดนรับไว้
อัซซูรี่ถามหาจุดโทษแต่เปาไม่แจก
อิตาลี พยายามถามหาจุดโทษจากจังหวะ โปลิตาโน่ สอดเข้าเขตโทษแล้วจะปาดเข้ากลางโดน ชล๊อตเตอร์เบ็ค สไลด์มาบล็อกเอาไว้แล้วบอลเด้งโดนแขน แต่กรรมการให้ VAR เช็คแล้วก็ยังไม่แจก
เขาอีกแล้ว! คีน ได้ช่องซัดตุงตาข่ายอัซซูรี่ไล่จี้
แล้วพอ อัซซูรี๋ ได้โอกาสอีกก็กลายเป็นประตูไล่จี้มาจนได้ เริ่มจาก ริชชี่ กลางสนามจ่ายขึ้นหน้าให้ ราสปาโดรี่ ส่งต่อที่ คีน เข้าเขตโทษมี ทาห์ ขวางหน้าขยับหาช่องยิงได้ส่งบอลตุงตาข่าย อิตาลี ไล่เหลือ 3-2 มีหวังขึ้นมาเพียบ
อัซซูรี่ลุ้นต่อ! ราสปาโดรี่ ส่องหน้าเขตโทษหลุดเสา
อิตาลี ลุยกันต่อหาโอกาสจบให้เสียวได้ด้วยการขึ้นทางขวา โปลิตาโน่ พาบอลขึ้นมาไขว้ต่อให้ ราสปาโดรี่ หน้าเขตโทษปล่อยบอลเข้าซ้ายก่อนยิงส่งบอลพุ่งหลุดเสาสอง
อัซซูรี่อดได้จุดโทษ! เปาเป่าให้ก่อนเปลี่ยนคำตัดสิน
อิตาลี นึกว่าจะได้จุดโทษเข้าแล้วหลัง ราสปาโดรี่ ในเขตโทษได้บอลแล้วไหลต่อให้ ดิ โลเรนโซ่ วิ่งสอดไปสุดเส้นหลังก่อนจะถูก ชล๊อตเตอร์เบ็ค เสียบล้มลงไปกรรมการชี้ทันที
กระนั้นกรรมการไปดูภาพช้า ชล๊อตเตอร์เบ็ค น่าจะสะกิดโดนบอลแบบปลายเท้าสุดๆทำให้กรรมการเปลี่ยนคำตัดสินไม่เป็นจุดโทษ
อินทรีมีลุ้น! คิมมิช ยิงฟรีคิกลอดใต้กำแพงยังถูกเซฟ
ท้ายเกม เยอรมนี มาได้ฟรีคิกในหัวกะโหลกหน้าเขตโทษแบบอีกคืบเดียวจะอยู่บนเส้นเขตโทษแถมมุมก็กลางประตู คิมมิช เป็นคนจัดการวิ่งมายิงเรียดลอดใต้กำแพงมากลางประตู ดอนนารุมม่า ยังทันทิ้งตัวปัดไว้ได้
ต้องขออีกลูก!! ราสปาโดรี่ ยิงจุดโทษพาอัซซูรี่ตีเสมอ
แต่แล้วทดเจ็บกรรมการย้อนแจกจุดโทษให้กับ อิตาลี หลังเตะมุมมีจังหวะที่ มิตเติลสแต๊ดต์ ทำแฮนด์บอลซึ่งทีแรกกรรมการปล่อยเล่นไปก่อนแล้ว VAR ส่งสัญญาณให้มาดูภาพช้าทีหลัง มิตเติลสแต๊ดต์ เบียดโหม่งแล้วมือโดนบอลจริงเปาแจกให้
ราสปาโดรี่ จัดการแล้วก็ยิงไม่พลาดตามเจ๊า 3-3 ต้องการอีกลูกเพื่อไปต่อเวลา
จบเกม เยอรมนี เป่าปากโล่งอกโดน อิตาลี ตามตีเสมอ 3-3 ได้ก็จริงแต่รวมผลสองนัดพวกเขาเป็นฝายชนะไป 5-4 ผ่านเข้ารอบรองฯเนชันส์ลีกที่จะแข่งกันในช่วงซัมเมอร์
อิตาลี
Starting Formation: 3-5-2
4.
อเลสซานโดร บวนจอร์โน่
5.5
5.
เฟเดริโก้ กัตติ

45'
5.0
6.
ซามูเอเล่ ริชชี่

85'
5.5
8.
ซานโดร โตนาลี

68'
5.5
11.
ดาเนียล มัลดินี่

45'
5.5
9.
มอยส์ คีน

85'
8.0
ตัวสำรอง
7.
มัตเตโอ โปลิตาโน่

45'
6.5
10.
จานโคโม่ ราสปาโดรี่

68'
7.0
16.
ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่

45'
6.0
17.
โลเรนโซ่ ลุคก้า

85'
-
20.
มัตเตีย ซัคคานญี่

85'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Mon Mar 24, 2025 04:59, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ