เห็นข่าวดาราแล้วนึกถึงตัวเอง

สมัยเด็กๆ นอนห้องพัดลม ไม่มีแอร์ ก็นอนได้แบบสบายๆ
ทุกวันนี้นอนแอร์ inverter เคยไปที่พักแล้วได้แอร์ธรรมดา เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน เสียงดัง ก็นอนไม่หลับ

เคยฟังลำโพงตลาดนัดเปิดท้ายแถวบ้าน ฟังวิทยุก็เพราะ
ตอนนี้ต้อง bose , marshall แต่ลึกๆก็อยากได้ที่สูงขึ้น

เคยดูทีวี 14 นิ้ว ก็ดูได้ วันนี้มี led แต่ก็อยากได้ oled

เคยใช้มือถือเครื่องละ 3 - 5,000 ได้แบบสบาย วันนึงลองใช้เรือธง แล้วกลับไปใช้ตัวธรรมดาไม่ได้อีก

เคยขับ ecocar ก็สะดวกสบายกว่าขี่มอไซค์ พอมี C segment แต่ก็อยากได้ D segment

ลาออกจากงาน

ชอบก็จัด ประหยัดทําไม

นำเงินไปลงทุน

เล่นการพนัน

เปิดเป๋าตังแล้วก็คิดถึงรายรับ มันพอไหม? อนาคตมันมีเรื่องไม่คาดฝันอีกเยอะ จะมีเงินพอใช้ตรงนั้นไหม? ถ้าไม่พอเดี๋ยวมันก็คิดได้เอง

อยากรวยก็ทำตัวจนครับ

ผมใช้วิธีลดบางอย่างไปเติมบางอย่างอะ เช่น บ้าน ลูก ผมตัดออก

คนที่จะชิพหายคือคนที่ลดไม่ได้เลย จะเอาทุกอย่าง

มันคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของเราเองครับ

ถ้ามันไม่กระทบปัญหาทางการเงินก็ไม่เป็นไรหรอก

แต่ผมว่าเราต้องรู้จักประมาณตน ถ้ามันเกินตัวก็มีแต่หนี้กับหนี้

จารย์ตัดลดเรื่อง บ้าน ลูก แล้วจารย์เอาไปเติมกะอะไรฮะ

ระดับอย่างพรี่ไค เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ

พอขับรถญี่ปุ่น อยากได้ ยุโรป

พอยุโรปอยากไปซุปเปอร์คาร์

พอซุปเปอคาร์อยากไป ไฮเปอร์คาร์

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถึงบอก ชีวิตมนุษย์ไม่รู้จักคำว่าพอ

แต่พวกนี้จะไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าคุณมีเงิน

มีอะไรที่อยากได้แล้วซื้อไหวก็จัดไปเถอะครับ
.
ชีวิตคนเรามันสั้น ตายไปไม่รู้ว่าจะได้มาเกิดมาเป็นคนอีกไหม
.
มันจะไม่มีของแบบนี้ให้ซื้อให้ใช้แล้ว ถ้าเราไม่มีโอกาสกลับมาเกิดเป็นคน
.
ตอนนี้มีโอกาสซื้อได้ก็ซื้อมาใช้ ก่อนที่ตายแล้วจะไม่มีโอกาสได้ใช้ของพวกนี้แล้ว

พอทลงทุน พาญเที่ยวริมสระ เบียร์ดีๆร้านอาหารดีๆ

รถผมใช้ราคาเท่าๆเดิมไม่ได้ปรับขึ้น ทั้งที่ซื้อมินิอีวีได้ละ

พอเพียงสิครับ

มีเท่าไหนจ่ายเท่านั้น แม้จะอยากได้ของแพงก็ผ่อนเอาทีละอย่างๆไป