[RE: กุลลิท ระดับไหนครับเทียบกับนักเตะปัจจุบัน]
ถ้าย้อนกลับไปในปลายยุค 80s ผมจำได้ดีว่า กุลลิท นั้นสร้างมิติใหม่ให้กับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก เขาไม่ได้เป็นเพียงเพลย์เมกเกอร์ธรรมดา แต่เป็นนักเตะที่มีพลังงานไม่มีวันหมด สามารถครองเกมได้ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่หาได้ยากมาก
กุลลิทกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์
กุลลิทเติบโตมาในระบบโททัลฟุตบอลของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของปรัชญาการเล่นที่ติดตัวเขา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ ไรนุส มิเชลส์ กุนซือทีมชาติในยูโร 88 กล้าที่จะปรับเปลี่ยนระบบเพื่อให้เหมาะกับพรสวรรค์ของเขา
ยูโร 88 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งสำหรับกุลลิทและฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ หลังจากที่โททัลฟุตบอลดั้งเดิมไม่เคยประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการใหญ่ การที่มิเชลส์ปรับระบบให้กุลลิทมีอิสระมากขึ้น ประกอบกับการมีผู้เล่นคุณภาพอย่าง มาร์โก ฟาน บาสเท่น และ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ทำให้
"อัศวินสีส้ม" สามารถคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนได้เป็นครั้งแรก
กุลลิทกับ AC Milan ยุคทอง
เมื่อย้ายมาร่วมทีม AC Milan ภายใต้การคุมทีมของ อาริโก้ ซาคคี่ กุลลิทได้กลายเป็นส่วนสำคัญของระบบ
"เพรสซิ่งฟุตบอล" ที่ปฏิวัติวงการลูกหนังอิตาลีในช่วงนั้น เขาสามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นที่ต้องใช้พละกำลังสูง ไล่กดดันคู่แข่งตั้งแต่แดนหน้า และเคลื่อนที่ตลอดเวลาได้อย่างยอดเยี่ยม
การมาอยู่ร่วมกับสองแข้งชาวดัตช์อย่าง ไรจ์การ์ด และ ฟาน บาสเท่น ที่ AC Milan ทำให้เกิด
"สามทหารเสือ" ที่นำพาทีมไปสู่ความสำเร็จอย่างมากมาย โดยเฉพาะแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพสองสมัยซ้อนในปี 1989 และ 1990 ซึ่งตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของพวกเขา
คุณสมบัติพิเศษที่ทำให้กุลลิทโดดเด่น
ร่างกายที่สมบูรณ์แบบ: กุลลิทมีโครงสร้างร่างกายที่สูงใหญ่ ขายาว แต่กลับมีความว่องไวผิดธรรมชาติ ทำให้เขาเอาชนะคู่แข่งได้ทั้งด้านพลังและเทคนิค
ความสามารถในการปรับจังหวะเกม: เขาสามารถควบคุมจังหวะเกมได้ทั้งช้าและเร็ว ซึ่งเป็นศิลปะที่สร้างเสน่ห์ให้กับทีมเนเธอร์แลนด์และ AC Milan ในยุคนั้น
ความหลากหลายในการเล่น: กุลลิทสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งเป็นผู้สร้างสรรค์เกมรุกและเป็นนักรบในแดนกลาง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในยุคนั้น
บุคลิกภาพโดดเด่น: ทรงผมเดรดล็อกอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ใช่เพียงแฟชั่น แต่สะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเองและความกล้าแสดงออก ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การเล่นของเขาในสนาม
มรดกที่ทิ้งไว้
รุด กุลลิท ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของยุค 80s เท่านั้น แต่เขายังวางรากฐานสำหรับมิดฟิลด์ตัวรุกสมัยใหม่ที่ต้องเป็นได้ทั้งผู้สร้างสรรค์และนักรบในคนเดียวกัน ความสามารถในการครองเกมด้วยคุณสมบัติพิเศษที่หาได้ยาก ทำให้เขากลายเป็นต้นแบบสำหรับนักเตะหลายคนในยุคต่อมา
กุลลิทและเพื่อนร่วมชาติอย่าง ไรจ์การ์ด และ ฟาน บาสเท่น ไม่เพียงประสบความสำเร็จกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังนำความสำเร็จมาสู่ AC Milan ในยุคทองภายใต้การคุมทีมของซาคคี่ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างปรัชญาโททัลฟุตบอลของดัตช์และระบบเพรสซิ่งฟุตบอลของอิตาลีได้อย่างลงตัว
อาจกล่าวได้ว่า กุลลิท เป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบสำหรับยุคสมัยนั้น และความสามารถของเขายังคงเป็นที่ยอมรับและถูกกล่าวถึงมาจนถึงปัจจุบัน

[/i]