พวกนักเตะที่ร่างกายดีๆ เจ็บยากๆนี่ ในจุดนี้ถือว่าเป็นพรสวรรค์ด้านร่างกายได้มั้ย หรือใช่ แต่ไม่ 100%

ผมจะยกตัวอย่างตำแหน่งกองกลาง ที่ส่วนมากจะเป็นตำแหน่งที่วิ่งเยอะสุดในทีม และเป็นตัวชี้วัดได้ดีที่สุด

แถมพื้นที่รับผิดชอบในบาง Role คือค่อนข้างกว้าง เช่น บรูโน่จี เดอปอล บรูโน่แฟร์นัน นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจน

เป็นนักเตะที่วิ่งมันทั้งเกม ใส่สุดทุกจังหวะ แต่ไม่เจ็บแฮมสตริงกันเลย ลองนึกดูถือว่าเป็นส่วนน้อยในวงการได้เลยนะ

อึ้งสุดคือเดอปอลบอลโลก คือแกสปริ้นท์แทบจะตลอดเวลาจริงๆ จบเกมเพื่อนลงไปนอนหมดแรง พี่แกเดินไปหาเมสซี่ชิลๆ

ไม่น่าจะใช่นะครัช

เจ็บยากขึ้นอยู่กับการดูแลทั้งทางโภชนา+การฝึกซ้อมและสไตล์การเล่น ครัช

วินัย

ผมให้นะ เป็นพรสวรรค์ทางด้านร่างกายที่ดีกว่าคนอื่น + กับการดูแลตัวเองอย่างดี มีวินัยมันก็ยิ่งแข็งแกร่งกว่าคนที่เจ็บง่ายขึ้นไปอีก ถ้าทำทุกอย่างเท่ากัน

ขอส่งโล่น้องรักเข้าประกวด ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เจ็บแค่ครั้งเดียว หายไป 20 กว่าวันเอง

ทุกวันนี้ยึดตัวจริงได้ทั้งวิงแบ็คซ้ายและวิงแบ็คขวา ด้วยพรสวรรค์ล้วนๆ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย

ลงได้ทุกนัด วิ่งได้ตลอดทั้งเกม มีเตะกลางสัปดาห์ก็ไม่หวั่น ไม่เคยออกอาการล้าให้เห็นผ่านสื่อ

ส่วนพรแสวงด้านผลงานเมื่อลงสนาม แฟนผีต้องอุทานให้ทุกนัดเช่นกัน ....

ผ่านไปช่วงอายุสัก 31 - 32 เดี่ยวก็ค่อยๆอาจจะเริ่มเห็นเหมือนกันครับ แต่ถ้าไม่โดนปะทะหนัก บ่อยๆ หรือโดนจุดสำคัญ ก็อาจจะ ยืดเวลาเล่นไปได้อีกครับ แบบโมดริช

กรณี KDB ตอนพีคๆวิ่งใส่สุดลงสุดเหมือนกัน พออายุเยอะก็เริ่มเจ็บบ่อย เนื่องจากอาการที่โดนปะทะบ่อยๆ สะสม จนช้ำไปหมดครับ อีกทั้งเจ้าตัวอยากลงทุกเกมส์ด้วย รวมทั้งความเข้มข้นของลีกอังกฤษด้วย ที่มีโปรแกรมเยอะ บอลในประเทศระหว่างฤดูกาลก็ 2 ถ้วยละ เอฟเอ กับ คาร์ลิ่งคัพ ยิ่งถ้าเข้ารอบลึกๆใน UCL ก็ยิ่งใช้ร่างกายเยอะด้วย ไม่รวมทีมชาติอีก

ถ้าเมสซี่ CR7 ไม่ปรับสไตล์เล่นผมว่าอาจจะยืนระยะได้น้อยกว่านี้ แล้วบางคนก็มองว่าทำไมไม่ช่วยเกมส์รับ ถ้าช่วยเกมส์รับ ตอนจะสวนกลับต้องอัดสปีดขึ้นไปแดนคู่ต่อสู้เสี่ยงอาการบาดเจ็บอีก ถึงช่วยก็อาจจะน้อยกว่าพวกนักเตะรุ่นน้อง เลยเป็นการถนอมร่างกายให้เล่นได้อีกเป็นปีๆ

ร่างกายแต่ละคนก็ไม่เท่ากันด้วยครับ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ได้เปรียบกว่าผู้อื่นเช่นกันครับ

ผมว่าใช่นะ แต่ในส่วนนึงวิทยาศาสตร์การกีฬาและระเบียบวินัย การดูแลตัวเองก็มีส่วน

จำได้ว่ายุคสิงห์โหดๆ แลมพ์กับเจที 2คนลงสนามต่อเนื่องยาวนานมาก

ผมก็ว่าใช่นะ ดูอย่าง CR7-Messi คือโดนเสียบมาทั้งขีวิต โดนประกบหนัก 2-1ทั้งชีวิต เจ็บไปกี่ครั้งเอง เป็นคนอื่นเจ็บเรื้อรังไปละ หรือบรูโน่งี้ ดูสภาพมันไม่น่าแข็งแรงอ่ะ แต่ฟิตยังกะม้า

การดูแลก็มีส่วนมันก็จริง แต่ร่างกายฟ้าประทาน ผมก็ถือว่าเป็นพรสวรรค์อย่างนึงนะ

ตัดเรื่องการดูแลตัวเองออก เอาแค่ร่างกาย คนเราเกิดมามันมีความแข็งแกร่งของกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เพราะงั้น คนที่เกิดมาแข็งแกร่ง มันก็ถือเป็น พรจากสวรรค์ ไงครับ

ดาโล่ท์ไง

เคยพาลูกไปตรวจ DNA ผลตรวจแจ้งว่ามีความ Endurance สูงเหมาะกับการเล่นกีฬาหลายประเภท ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บยากง่ายของการเป็นนักกีฬาหรือเปล่า ถ้าเกี่ยวแสดงว่า DNA มีส่วน

แต่ในยุคนี้ที่วิทยาศาสตร์การกีฬาก้าวหน้ามาในระดับข้อมูลสถิติเก็บได้ละเอียดยิบมันอาจจะเป็นสัดส่วนที่มากกว่า DNA หากดูแลร่างกายตัวเองดีตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากข้อมูลของตัวคนนั้นๆคงจะส่งผลให้เห็นชัดกว่าด้วยสิ่งที่พิสูจน์ได้ อาหาร การพักผ่อน วิธีการออกกำลังกาย การพักฟื้น

อย่าง CR7 ,LM10 หรือนักบาสอย่าง LBJ มีการปรับท่าออกกำลังกายลดขนาด+เพิ่มขนาดกล้ามเนื้อตามอายุที่มากขึ้นเพื่อยืดอายุของอาชีพออกไป

จริงๆมีเคสอาการบาดเจ็บของ Curry จำไม่ได้ว่าสารคดีนั้นดูจากช่องทางไหน คร่าวๆคือเจ็บซ้ำหลายครั้งและหมอสามารถหาสาเหตุจนเจอ ก่อนที่จะหายขาดแล้วสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการบาสในปัจจุบัน ซึ่งนักบอลน่าจะมีหมอที่จัดการอาการบาดเจ็บซ้ำๆของบางคนได้

เราจะไปรู้ได้ไงว่่าแต่ละคนดูแลรักษาร่างกายยังไงบ้างอย่างCR7เรายังเข้าใจเพราะพี่แกยังเคยออกสื่อว่าทำอะไรบ้าง แต่คนอื่นๆเราไม่รู้หรอกว่าเค้าไปทำอะไรกับร่างกายบ้างจะไปบอกเป็นพรสววรค์ก็ไม่ได้เต็ม100หรอกอย่างอาซาร์คนส่วนใหญ่ก็พึ่งมารู้ช่วงก่อนย้ายไปมาดริดเองว่ากินจังค์ฟู้ดหนักพอไปเจ็บบ่อยที่มาดริดถึงเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เมสซี่ที่โดนย่ำข้อเท้า

พักไม่กี่วันหาย

อะไรก็ตามที่ทำเท่ากับคนทั่วไปหรือน้อยกว่าแต่ผลลัพธ์กับดีกว่าผมถือว่าเป็นพรสวรรค์นะ

กรรมพันธ์+วินัย + ดวง